วันเสาร์, 1 กุมภาพันธ์ 2568

เพชรบุรี”ไม่เกรงกลัว”คนร้ายก่อเหตุตัดตู้เอทีเอ็ม “แบ๊งค์ดัง

19 มิ.ย. 2020
17

คนร้ายก่อเหตุ ใช้แก้สตัดตู้เอทีเอ็ม หน้าเขื่่อนเพชร “รองสมเดช”สั่งระดมกำลังชุดสืบสวน จว และ ท่ายาง ติดตามตัวผู้ก่อเหตุด่วน

 

เมื่อเวลา09.00น.วันที่19 มิถุนายน 2563 พ.ต.อ.สมเดช ฐิตวัฒนะสกุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี และ พ.ต.อ.วันชาติ ม่วงศรี ผกก. สภ.ท่ายาง ,เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดเพชรบุรี พร้อมด้วยนายสุทิน เดชกำเเหง ผจก.ธนาคารกรุงไทยสาขาท่ายาง ตรวจสอบบริเวณตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ที่ถูกคนร้ายใช้ไฟหัวแก้สตัดบริเวณด้านหน้าตู้ เพื่อต้องการโจรกรรมเงินสดที่อยู่ในตู้เอทีเอ็ม เมื่อช่วงเวลาประมาณตีสองเศษ วันที่19มิถุนายน ที่ผ่านมา

โดยจากการสอบถาม เวรยามหน้าโครงการ เผยว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณตีสอง มีคนขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์สีขาว มาพร้อมกับรถเก๋งสีขาวไม่ทราบรุ่นและยี่ห้อ มาจอดแล้วทำทีมาสอบถามเส้นทางไปอำเภอแก่งกระจาน ตนก็เลยชี้บอกเส้นทาง และก็ไม่ได้สนใจอีก กระทั่งต่อมา ทราบเรื่องจากแม่ค้ารายหนึ่งซึ่งกำลังนำสินค้ามาวางขายใกล้กับตู้เอทีเอ็ม ที่คนร้าย กำลังก่อเหตุ ว่า ช่วงเวลาดังกล่าว คนร้ายซึ่งมีด้วยกัน3คน ใช้รถทั้งสองคันจอดบังสายตาผู้คนที่กำลังสัญจรไปมา แล้วร่วมกันใช้หัวตัดไฟจากถังแก้สขนาดเล็ก ก่อเหตุตัดตรงบริเวณด้านหน้าตู้เอทีเอ็มที่ต้องการเงินสดที่อยู่ด้านใน แต่ขณะกำลังก่อเหตุ แม่ค้าเกิดเห็นเหตุการณ์ ทำให้คนร้ายเกรงกลัวความผิด จึงช่วยกันรีบยกอุปกรณ์ขึ้นรถแล้วพากันขับรถหลบหนีไปบนถนนสายเขื่อนเพชร-ชลประทานราษฏร์ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้ร่วมกันเก็บร่องรอยรายนิ้วมือแฝงไว้เพื่อตรวจสอบแล้ว ส่วนนายสุทิน เดชกำแหง ผจก.ธนาคารกรุงไทย สาขาท่ายาง ในฐานะเจ้าทุกข์ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ท่ายางแล้วเช่นกัน ส่วนในด้านของ พ.ต.อ.สมเดช ฐิตวัฒนะสกุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ท่ายาง ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดเพชรบุรี ดำเนินการตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุทุกตัวและทุกมุม พร้อมกับแบ่งกำลังติดตามสืบสวนหาข่าวในและนอกพื้นที่ และเน้นตรวจสอบเฉพาะลักษณะรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ ที่มีสภาพใกล้เคียงกับคันก่อเหตุ พร้อมกับติดตามตัวผู้ต้องสงสัยและบุคคลในแฟ้มที่มีพฤติกรรมเกี่ยวกับคดีลักทรัพย์ มาสอบปากคำในเบื้องต้น โดยคาดว่าคดีโจรกรรมในครั้งนี้ แม้คนร้ายจะไม่ได้ทรัพย์สินไป แต่ก็นับว่าเป็นเหตุที่อุกอาจมาก จึงต้องเร่งติดตามตัวคนร้ายทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฏหมายโดยเร็วที่สุด

กสิพล ศิริลาภ-เพชรบุรี

Loading