วันนี้ (2 มี.ค.60) ระหว่างเวลาประมาณ 11.00-11.30 น. พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 / รอง ผอ.ศอ.ปส.ภ.1
พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภูวดิท ชนะคชภัทร์ พ.ต.อ.ณพล กลัดเข็มเพชร รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา
พ.ต.อ.สามารถ แก้วมณี ผกก.สภ.วังน้อย นางวารี เพียรทรัพย์ นางสาววิภาดา ปานออก เจ้าหน้าที่ ปปส.ภ.1
และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัว 1.นายเฉลิมศักดิ์หรืออาร์ท เวชสุวรรณ์
(ตามหมายจับของศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่ จ.87/2560 ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560)
2.นายณัฐพลหรือบอยลอย รุ่งจรูญ (ตามหมายจับของศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่ จ.89/2560 ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560) ในคดี “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน)ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”
พฤติการณ์กล่าวคือ
ก่อนเกิดเหตุ บริษัทไฟแนนช์ฯ ได้ตรวจรถยนต์ของกลางคันดังกล่าว มาจาก อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ และได้มาเก็บรักษาไว้ที่บริษัทพื้นที่ สภ.วังน้อย จ.อยุธยา โดยจากการตรวจสอบพบยาบ้า จำนวน 188,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์ จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง ต่อมาจากการสืบสวนสอบสวน ทราบว่า กลุ่มคนร้ายที่นำยาบ้ามาซุกซ่อนไว้ในรถยนต์คันดังกล่าวเป็นเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ผู้ต้องหา จำนวน 3 คน ประกอบด้วย 1.นายเฉลิมศักดิ์หรืออาร์ท เวชสุวรรณ์ , 2.นายณัฐพลหรือบอยลอย รุ่งจรูญ
และ 3.นายตะวันหรือเบียร์โย่ง อันภักดี
ต่อมา เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2560 สามารถทำการสืบสวนจนสามารถจับกุมตัวนายเฉลิมศักดิ์หรืออาร์ทฯ และนายณัฐพลหรือบอยลอยฯ ไว้ได้ โดยสามารถตรวจยึดทรัพย์สิน รวมมูลค่าประมาณ 1,795,000 บาท
ส่วนนายตะวันหรือเบียร์โย่งฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ จ.88/2560 ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 อยู่ในระหว่างหลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โดยรายละเอียดส่วนอื่นของคดีอยู่ในระหว่างการเข้าดำเนินการตรวจสอบพยานหลักฐานในคดีเพิ่มเติม ซึ่งจะได้ดำเนินการเร่งรัดติดตามตัวผู้ร่วมกระทำความผิดในคดีนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
“การปฏิบัติในครั้งนี้เมื่อได้รับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ร่วมกันทำงานแบบบูรณาการและมีประสิทธิภาพ ตามหลักการ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” สืบสวนขยายผลจนทราบตัวผู้กระทำความผิด และสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ในเวลารวดเร็ว ซึ่งถือเป็นการตอบโจทย์การทำงานในการพิทักษ์และรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง และถือเป็นกรณีศึกษาของคดีสืบสวนขยายผลยาเสพติดต่อไป
ในนามของตำรวจภูธรภาค 1 จึงขอชมเชยและขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก บก.สส.ภ.1 ,ชุดขยายผลยาเสพติด ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ,กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา,สภ.วังน้อย และ สภ.พระสมุทรเจดีย์ รวมถึง เจ้าพนักงาน ปปส.ภ.1 ตลอดจนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป” ณ บริเวณด้านหน้า ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา