วันจันทร์, 23 ธันวาคม 2567

ประจวบคีรีขันธ์”แกนนำต้านโกงประจวบฯร้อง ปปช.สอบมาตรา 157 อดีต 2 ผวจ.

แกนนำต้านโกงประจวบฯ ร้อง ปปช.สอบมาตรา 157 อดีต 2 ผวจ. หัวหน้าโยธาฯประจวบหลังสภาเทศบาลเมินรับมอบ 10 โครงการร้าง

 

วันที่ 12 กรกฎาคม จ่าเอกเสกสรร จันทร แกนนำเครือข่ายต่อต้านการทุจริต จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ทำหนังสือร้องเรียนถึงสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบการทุจริตแห่งชาติ ( ปปช.) จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยแจ้งข้อกล่าวเจ้าหน้าที่ของรัฐประกอบด้วยอดีตผู้ว่าราชการจังหวัด 2 ราย อดีตหัวหน้าสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด 2 ราย ที่ปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ปี 2553 – 2563 เข้าข่ายละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 หลังจาก สมาชิกสภาเทศบาลเมือง (ส.ท.) ประจวบคีรีขันธ์ มีมติเสียงข้างมากเป็นเอกฉันท์ ไม่รับมอบ 10 โครงการ มูลค่าก่อสร้างมากกว่า 100 ล้านบาท จากสำนักงานโยธาจังหวัด ขณะที่กรมโยธาธิการและผังเมืองยอมรับความบกพร่องจากการใช้งบประมาณ โดยจะเสนอ 10 โครงการให้สภาเทศบาลพิจารณารับมอบอีกครั้ง เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องในอดีตและปัจจุบันพ้นจากความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่

“ จากการตรวจสอบพบว่าปัญหาที่สภาเทศบาลไม่รับมอบเนื่องจาก การทำโครงการทั้งหมดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้แจ้งให้สภาเทศบาลรับทราบ เพื่อมีมติอนุญาตให้ใช้พื้นที่ในเขตองค์กรปกครองท้องถิ่น ( อปท.) และหลังจากทำโครงการทั้งหมดเสร็จแล้ว ช่วงแรกยังไม่ได้มอบให้เทศบาลดูแล กระทั่งปัจจุบันโครงการส่วนใหญ่มีปัญหาชำรุดทรุดโทรม สร้างความเดือดร้อนและมีผลกระทบกับประชาชน แต่สำนักงานโยธาฯไม่มีงบซ่อม จึงทำหนังสือแจ้งให้สภาเทศบาลรับมอบเพื่อให้ใช้งบของเทศบาลซ่อมแซม” จ่าเอกเสกสรรค์ กล่าว และว่า กรณีดังกล่าวจะทำหนังสือสอบถามสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินจังหวัด (สตง.) เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงภายใน 30 วัน โดยขอทราบว่า สตง.ได้ตรวจสอบและทักท้วงการใช้งบประมาณในลักษณะดังกล่าวหรือไม่อย่างไร

จ่าเอกเสกสรรค์ กล่าวว่า ขณะนี้พบว่าโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ที่เขาช่องกระจก เมื่อ 2 ปีก่อนใช้งบ 16.9 ล้านบาท หน้าศาลากลางจังหวัด พื้นที่ที่ก่อสร้างรอบภูเขา และบนเขาช่องกระจก เทศบาลไม่ได้รับผิดชอบพื้นที่สาธารณะประโยชน์ และขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าเป็นที่ดินธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการามหรือไม่ ทำให้ปัจจุบันอาคารจำหน่ายอาหารลิงจึงถูกปล่อยทิ้งร้าง จึงขอให้สำนักงานโยธาจังหวัดและผู้ว่าราชการจังหวัดที่เห็นชอบให้ทำโครงการ ชี้แจงว่าก่อนการก่อสร้างได้ขออนุญาตใช้พื้นที่จากหน่วยงานใด ซึ่งกรณีนี้ทำให้มีการปัญหากับการใช้งบมากกว่า 80 ล้านบาท ที่โยธาจังหวัดใช้พัฒนาเขาช่องกระจกต่อเนื่องนานหลายปี รวมทั้งการใช้งบ 9.6 ล้านบาทสร้างไบค์เลนเลียบอ่าวประจวบฯระยะทาง 2.9 กิโลเมตรสภาเทศบาลไม่รับมอบ เนื่องจากไม่ได้ใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์

ด้านนายสมบูรณ์ เทพประดิษฐ์ ส.ท.เมืองประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า หากสำนักงานโยธาฯไม่ใช้งบประมาณซ่อม 10 โครงการให้อยู่ในสภาพเดิม สภาเทศบาลจะไม่รับมอบอย่างเด็ดขาด และขอเรียกร้องให้ สตง.จังหวัด ออกมาทักท้วงการใช้งบประมาณแผ่นดิน หลังพบว่าสำนักงานโยธาธิการจังหวัดใช้งบประมาณทำโครงการในค่ายลูกเสือที่ชุมชนม่องล่าย ขณะที่เทศบาลไม่ใช่เจ้าของพื้นที่ นอกจากนั้นการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นบริเวณชายหาดตลอดแนวถนนสวนสน – อ่าวน้อย อยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบตาม พ.ร.บ การเดินเรือในน่านน้ำไทย ของกรมเจ้าท่า เทศบาลไม่สามารถรับมอบโครงการได้

พิสิษฐ์ รื่นเกษม/ข่าว/จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

Loading