เดอะโอ๋ !!! สืบสวน ภ.1 เจ๋งตามรวบไอ้วิทย์ รปภ.โหด ! สมุนป้า100 ล้าน มือตีหัวพ่อค้าขายข้าวผัดปู ได้ค่าจ้าง 2.9 หมื่น
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 16 ก.ค.63 ที่ห้องประชุม สภ.คูคต อ.ลำลูกกา จว.ปทุมธานี พล.ต.ต. ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1(สส) พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผบก.จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.อภิชาติ วรรณภักดิ์ รอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.วรชาติ แสนคำ รอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.ธงรบ จังจิต ผกก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.วิศิษฎ์ มะอักษร ผกก.กก.2 บก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.สภ.คูคต พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.1 บูรณาการกำลังร่วมกับ กก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี สส.สภ.คูคต ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาลำดับที่ 5 (จับกุมเพิ่มเติม)นายประวิทย์ คำโส อายุ 31 ปีผู้ต้องหาตามหมายจับศาลธัญบุรีที่ 271/2563 ลงวันที่ 11 ก.ค. 2563 ข้อหา”ซ่องโจร และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนได้รับอันตรายแก่กายสาหัส” (ซึ่งเป็นคนตี นาย วีรภัทร คัมภิรานนท์ ที่ศีรษะจนได้รับบาดเจ็บสาหัส) พร้อมของกลางไม้ที่ใช้ตีจำนวน 1 อัน
พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวว่าเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2563 เวลาประมาณ 21.00 น.ได้เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดก่อเหตุใช้อาวุธไม้ตีทำร้ายร่างกาย นายวีรภัทร คัมภิรานนท์ ที่ศีรษะจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่บริเวณลานจอดรถเดอะฮับเซียร์รังสิต ต.คูคต อ.ลำลูกกา จว.ปทุมธานี โดยนายวีรภัทรฯ ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า สาเหตุจากการถูกทำร้ายร่างกายครั้งนี้น่าจะเกิดจากการที่ได้กู้ยืมเงินมาจาก “คุณป้าร้อยล้าน” แล้วไม่ได้ผ่อนชำระ จึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า คุณป้าร้อยล้าน ดังกล่าว คือนางสมจิตร คำพา และพบหลักฐานว่ามีการจ้างวานให้คนร้ายไปก่อเหตุทำร้ายร่างกายนาย วีรภัทร คำภิรานนท์ จริง จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ยื่นคำร้องต่อศาลออกหมายจับนางสมจิตร คำพา ในฐานะผู้ใช้จ้างวาน พร้อมด้วยข้อหาเรียกอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และออกหมายจับ นายบรรลุ บุญเริ่ม (ผู้ต้องหา)และนายศุภชัย ถือซื่อ( ผู้ต้องหา)ซึ่งร่วมกันรับงานดังกล่าวโดยได้รับค่าจ้างรวมในราคา 100,000 บาท และนางสมจิตรฯยกหนี้เงินกู้ให้นายบรรลุ บุญเริ่มอีกจำนวน 20,000 บาทอีกด้วย พร้อมออกหมายจับนายอิทธิพล จันทร์ศร( ผู้ต้องหา)ร่วมกระทำผิด และถูกดำเนินคดีไปก่อนหน้าแล้ว ส่วนนายประวิทย์ คำโส อายุ 31 ปี คนตีนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสามารถจับกุมได้ที่บ้านเพื่อนแถวย่านพระราม 2 กรุงเทพมหานคร
พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนนาย ประวิทย์ ผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่าตนมีอาชีพเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแห่งหนึ่งและตนได้รับการว่าจ้างจากนายบรรลุ บุญเริ่ม ให้ไปทำร้ายร่างกาย นายวีรภัทร คัมภิรานนท์ โดยตนจะได้เงินค่าจ้างจำนวน 29,000 บาท โดยแบ่งจ่ายเป็น 2 งวดโดยงวดแรกตนได้รับเงินจากนายบรรลุ จำนวน 4,000 บาทหลังจากงานเสร็จตนได้รับอีกจำนวน 25,000 บาท
พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1(สส)เปิดเผยว่า ปัญหาหนี้นอกระบบนั้นถือว่าเป็นมะเร็งร้ายที่มีผลกระทบกับชาวบ้านระดับรากหญ้า จำเป็นต้องปราบปรามอย่างจริงจังแบบถอนรากถอนโคน ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าตกเป็นเหยื่อของกลุ่มที่ลักลอบปล่อยเงินกู้นอกระบบที่เรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยในลักษณะที่เอารัดเอาเปรียบพี่น้องประชาชนและสำหรับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนเรื่องหนี้นอกระบบ หรือ ต้องการแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับ เงินกู้นอกระบบ สามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชั้น 1 อาคารกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพระราม 1 เขตปทุมวัน กรุงเทพๆหรือโทรศัพท์สายด่วน 1599 และ 02255 1898 ตลอด 24 ชั่วโมง
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้นำตัวนาย ประวิทย์ คำโส อายุ 31 ปีไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณลานจอดรถชั้นใต้ดินศูนย์การค้าเดอะฮับเซียร์ รังสิตซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ จุดที่ 1.เป็นจุดที่ผู้ต้องหาได้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่เพื่อนที่ส่ง จุดที่ 2.เสาหมายเลข C17 เป็นจุดที่นำไม้มาวางไว้เป็นที่คนเจ็บจอดรถอยู่ใกล้กับเสาหมายเลข B16 และถูกคนร้ายตีขณะที่คนเจ็บก้าวขี้นรถ จุดที่3 เป็นจุดที่ผู้ห้องหานั่งรอคนเจ็บซึ่งอยู่ใกล้กับเสาหมายเลข D18 จุดที่ 4 เป็นเป็นเสาหมายเลข B16 จุดที่ผู้ต้องหาเดินมาใช้ไม้ตีผู้ได้รับบาดเจ็บ จุดที่ 5.เป็นจุดที่คนร้ายนำมาวางไว้หน้าประชาชนที่จอดอยู่ในลานจอดรถและผู้ต้องหาก็ได้ปีนกำแพงหลบหนีไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่นาย บรรลุ บุญเริ่ม(ผู้ต้องหา)ที่จอดรออยู่หลบหนีไป
พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1(สส)ได้กล่าวขอบคุณ พี่ เพื่อน น้อง ในการปฏิบัติในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมบูรณาการกำลังตามหลักการ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในเวลาต่อมา การปฏิบัติการดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้จึงถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในการพิทักษ์และรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง
ในนามของตำรวจภูธรภาค1 ตำรวจทำงานอย่างเต็มที่เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับผู้เสียหาย และขอชมเชยพร้อมทั้งขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป
