วันเสาร์, 16 พฤศจิกายน 2567

กาญจนบุรี”พายุ-ลม-ฝนกระหนำ่”พัดยอดพระเจดีย์หอพระประวัติหล่นลงมาได้รับความเสียหาย

กาญจนบุรี อย่าตื่นตระหนกไม่ใช่เกิดจากอาเพศ เป็นเพียงภัยธรรมชาติ!! เกิดพายุฝนกระหน่ำหนักพร้อมลมพายุพัดยอดพระเจดีย์หอพระประวัติ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 สกลมหาสังฆปริณายก พังเสียหาย สร้างได้เพียง 7 ปีเศษ ราคาประมาณ 200 ล้าน หักพังเสียหาย โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

 

วันนี้ 19 ก.ค. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา เกิดพายุฝนตกหนักในพื้นที่เขตเขตบาลเมืองกาญจนบุรี พร้อมทั้งมีพายุพัดกระหน่ำ ทำให้หลายจุดเกิดต้นไม้ใหญ่หักโค่นล้ม ในเขตเทศบาลเมืองกาญจน์ และฝนได้ตกอยู่นานประมาณ 1 ชั่วโมง จึงหยุด ทำให้ท่อระบายน้ำระบายไม่ทัน ทำให้ระดับน้ำที่ไหลไม่ทันมีระดับสูงมิดฟุตบาตข้างทาง รวมถึงเกือบมิดล้อรถเก๋ง รถยนต์กระบะ และทำให้รถยนต์ขนาดเล็ก รถจักรยานยนต์ ไม่สามารถแล่นผ่านกระแสน้ำที่ท่วมสูงทำให้น้ำเข้าเครื่องยนต์เกิดดับเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ต้องระดมกำลังออกช่วยเหลือนำเข้าข้างทาง

ส่วนที่วัดเทวสังฆราม หรือวัดเหนือ ตำบลบ้านเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี หลวงพ่อเจ้าคุณพระกิตติสุวัฒนาภรณ์ (เจ้าอาวาส) พร้อมพระลูกวัดรวมถึงกรรมการของวัดและชาวบ้านที่ทราบข่าวว่า ยอดเจดีย์หอพระประวัติสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 สกลมหาสังฆปริณายก ได้หักพังเสียหายจากพายุได้เดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุเป็นจำนวนมาก ซึ่งพระเจดีย์หอพระประวัติแห่งนี้ได้สร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2556 หรือประมาณ 7 ปี มูลค่าประมาณ 200 ล้าน ส่วนยอดได้หักพังลงมาสู่พื้น จนทำให้ยอดพระเจดีย์ รวมถึงกระเบื้องแตกเสียหาย และโชคดีที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

 

สำหรับยอดพระเจดีย์หอพระประวัติสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 สกลมหาสังฆปริณายก แห่งนี้ ที่หักลงสู่พื้น ชาวบ้านรวมถึงพระในวัด เมื่อเห็นโครงสร้างของเหล็กแล้วต่างร้องเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่คาดคิดว่าช่างรับเหมาจะกล้าทำเช่นนี้ เนื่องจากโครงสร้างไม่ได้มีความแข็งแรงเลย จุดเชื่อมของเหล็กก็เชื่อมเพียงน้อยนิด รวมถึงเก่ามากๆ ทั้งๆ ที่สร้างเสร็จไม่นานเท่าใดเลย ทางกรรมการของวัดจะมีการประชุมหารือกันในวันรุ่งขึ้น พร้อมจะแจ้งให้ทางสำนักพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี ไปเข้าร่วมด้วย เพื่อเร่งหาข้อสรุปการดำเนินการเร่งด่วน เกรงว่าหากปล่อยจะทำให้ภายในเกิดเสียหายได้ หากเกิดมีฝนตกลงมาในช่วงนี้

หลวงพ่อเจ้าคุณพระกิตติสุวัฒนาภรณ์ (เจ้าอาวาส) กล่าวว่าช่วงเกิดฝนตกหนักและมีพายุพัดรุนแรงจนเกิดให้ยอดหอพระประวัติ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช (องค์ที่ 19) สกลมหาสังฆปริณายก และหอพระประวัติแห่งนี้สร้างได้เพียง 7 ปีเศษ เบื้องต้นพบโครงสร้างไม่แข็งแรง รวมถึงเหล็กเก่าขึ้นสนิมหมดแล้ว ส่วนค่าเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้ เตรียมประชุม สำนักพุทธฯ และคณะกรรมการเร่งปรับปรุงด่วน

พระสมุห์วิโรจน์ วิโรจโน พระเลขาฯ แจ้งว่าตอนช่วงเกิดฝนตกหนัก มีเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามมองมาไม่พบยอดพระเจดีย์ จึงขับขี่รถจีกรยานยนต์ฝ่าสายฝนมาแจ้งให้ทราบ ตนเองจึงไปแจ้งกับทางเจ้าอาวาส แล้วพากันมาตรวจสอบ รวมถึงได้เข้าไปตรวจสอบและป้องกันไม่ให้ภายในหอพระประวัติได้เกิดความเสียหายจากน้ำโดยนำสิ่งของไปปิดกั้นในเบื้องต้น

 

กรรมการของวัดแจ้งว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ชาวกาญจน์อย่าตื่นตกใจเป็นเพียงการเกิดจากพายุลมแรง รวมถึงวัสดุเก่าอาจจะหมดอายุ คงไม่มีอย่างอื่น หลังจากนี้คงจะต้องมีการประชุมร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพื่อเร่งบูรณะเป็นการด่วน เนื่องจากภายในมีประวัติที่สำคัญอยู่มาก หากปล่อยไว้นานอาจจะเกิดความเสียหายได้

สำหรับหอพระประวัติสมเด็จพระญาณสังวร ตั้งอยู่บริเวณวัดเทวสังฆารามพระอารามหลวง (วัดเหนือ) โดยจังหวัดกาญจนบุรี คณะสงฆ์และทุกภาคส่วนร่วมกันจัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ซึ่งมีชาติภูมิเป็นชาวจังหวัดกาญจนบุรี ในโอกาสที่ทรงพระชันษาครบ 8 รอบ 96 ปี และเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ทางพระพุทธศาสนา การศึกษาอบรม การปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนา รวมทั้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางพระพุทธศาสนาและที่พักผ่อนของประชาชน เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ.2553 แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ.2556 ใช้งบประมาณในการดำเนินงาน 126,799,298.20 บาท ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากโครงการไทยเข้มแข็ง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น วัดบวรนิเวศราชวรวิหารและเงินบริจาคของประชาชน

ลักษณะเด่น หอพระประวัติเป็นแหล่งเรียนรู้ในทางธรรม และเรื่องราวของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก จัดแสดงทั้งหมด 3 ชั้น ดังนี้

ชั้นแรก จัดแสดงเรื่องสมเด็จพระสังฆราชในสมัยรัตนโกสินทร์ทั้ง 19 พระองค์ และประวัติ พระจริยาวัตรของท่านเจ้าพระคุณสมเด็จญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช

ชั้นสอง จัดแสดงพระศาสนกิจ พระเกียรติคุณ ผลงานพระนิพนธ์ของท่านเจ้าพระคุณสมเด็จฯ และเครื่องประกอบสมณศักดิ์

ชั้นสาม เป็นห้องวิปัสสนากรรมฐาน ที่ฝึกสำรวมจิตกายใจที่เปิดโอกาสให้ประชาชนได้มาฝึกฝนเรียนรู้ปฏิบัติตนตามกำลังศรัทธา

และประวัติของหอพระประวัตแห่งนี้ ในวันที่ 29 มกราคม 2553 สมเด็จพระเทพราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธานวางศิลาฤกษ์หอประวัติ และการก่อสร้างได้เสร็จสมบูรณ์ในปี 2555 มีพิธีเปิดอาคารหอพระประวัติ ที่ตำบลบ้านเหนือ อำเภอกาญจนบุรี ในวันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม 2556 โดยสมเด็จพระเทพราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานและทรงประกอบพิธีเททองหล่อพระรูปเหมือนสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกวัดเทวสังฆาราม(วัดเหนือ) ซึ่งเมื่อหล่อเสร็จเรียบร้อยได้นำมาประดิษฐานให้สาธุชนได้สักการะ ณ หอพระประวัติแห่งนี้ด้วย

ปรีชา ไหลวารินทร์ / กาญจนบุรี

Loading