วันศุกร์, 15 พฤศจิกายน 2567

ไม่สิ้นคนดี” 2 อส.อำเภอสังขละบุรี”ปลอมตัวร่วมขบวนการค้าแรงงานต่างชาติ”รวบยกชุด”

กาญจนบุรี กว่าจะเอาอยู่!!ฉันนั่งตกปลาอยู่ในเรือ สุดยอดข้าราชการที่ดีต้องได้รับการสรรเสริญอาสาสมัครรักษาดินแดนของอำเภอสังขละบุรี ทั้ง 2 รายนี้ปลอมตัวจนรวบขบวนการค้าแรงงานต่างชาติ ยังมีการให้สินบนเกือบแสนบาทแต่เจ้าตัวปฏิเสธ จนเป็นที่มาของการจับกุมได้ทั้งขบวนการ

 

2 สมาชิกอาสาสมัครรักษาดินแดน ปลอมตัวรวบแรงงานต่างด้าวและผู้นำพา ขณะกำลังจะลงเรือเข้าไปทำงานใน กทม. ปฏิเสธเงินสินบน 70,000บาท ที่กลุ่มผู้ต้องหาเสนอให้แลกกับการปล่อยตัว ก่อนแจ้งนายอำเภอ ประสานเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ร่วมจับกุม นำส่งโรงพักดำเนินคดี

เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมาของ วันนี้ 22 ก.ค. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการข่าวของฝ่ายปกครอง สีบทราบมาว่า จะมีขบวนการนำพาแรงงานต่างด้าว ชาวเมียนมา เข้ามาทำงานในพื้นที่ อ.สังขละบุรี เพื่อเดินทางต่อไปยังพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ และเข้าสู่พื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี และกทม.ต่อไป โดยใช้วิธีการลงเรือ เพื่อหลบด่านความมั่นคงของทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เพื่อเลี่ยงการตรวจค้น บนเส้นทางสาย 323 สังขละบุรี-ทองผาภูมิ โดยแรงงานจำนวนดังกล่าว นายปกรณ์ กรรณวัลลี จึงได้สั่งการให้สมาชิกอาสาสมัครรักษาดินแดน (อ.ส.) กองร้อย อ.สังขละบุรี ซุ่มตามเส้นทางและบริเวณท่าน้ำริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ในพื้นที่บ้านหลังเขา หมู่ที่ 3

ต่อมาเวลาประมาณ 17.00 น.วันนี้ ได้มีรถยนต์ ยี่ห้อToyota revo สีดำ หมายเลขทะเบียน 2 ฒพ 2577 กรุงเทพมหานคร ขับมายังบริเวณป่าสวนยางริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ท่าทางมีพิรุธ ขณะเดียวกันมีเรือหางยาวจำนวน 2 ลำ วิ่งเข้ามาจอดบริเวณใกล้เคียงกับที่รถยนต์คันดังกล่าวจอด สมาชิก อ.ส. ภูมิพัฒน์ ทุ่งพนาสิริรักษ์ และ สมาชิก อ.ส.สมชาย เจตนารักษ์ชาติ ซึ่งปลอมตัวเป็นคนตกปลา จึงได้แสดงตัวเข้าทำการควบคุมรถคันดังกล่าว ซึ่งทราบในเวลาต่อมาว่ามี น.ส.กรณิภา อมรเดชากร อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 353/1หมู่ที่ 3 ต หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เป็นผู้ขับขี่ สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาที่อยู่ในรถได้ 18 คน รวมทั้งคนขับเป็น 19 คน ส่วนเรือทั้ง 2 ลำอาศัยจังหวะชุลมุน ขับหนีรอดการจับกุมในครั้งนี้ไปได้ ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่ารถยนต์คันดังกล่าว มีนายศักดิ์ชัย สุระเกียรติชัย บ้านเลขที่ 84/2 หมู่ที่ 3 ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เป็นเจ้าของ ซึ่งตำรวจจะดำเนินการสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์หรือไม่ อย่างไร

ต่อมาจึงได้แจ้ง นายปกรณ์ กรรณวัลลี นอภ.สังขละบุรี เพื่อประสานเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ มาร่วมทำการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ โดยในเวลาต่อมา พ.ต.อ.นันทเศรษฐ์ สุขนพกิจ ผกก.สภ.สังขละบุรี พ.ต.ท.ฐิติกร วันเจริญพันธ์ รอง ผกก.ป. ร.ต.สุทธิวงศ์ เมฆฉายปลัดอาวุโส อ.สังขละบุรี จ.ส.ท.กิตตินันท์ แสงจันทร์ ปลัดฝ่ายความั่นคง อำเภอสังขละบุรี ร.ต.อนุพงษ์ กานะ และทหารจากหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้ากองกำลังสุรสีห์ ช่วยกันนำผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี

โดยพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา น.ส.กรณิภา อมรเดชากร ผู้ต้องหาที่ 1 ในข้อหาช่วยเหลือซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตให้พ้นจากการจับกุม และเป็นเจ้าของยานพาหนะ เคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวโดยฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ฉบับที่ 2296 ลงวันที่ 2 มิ.ย. 63 และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 (ม.52) พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา เป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาร์เคลื่อนย้ายและเดินทางเข้าสู่ อำเภอสังขละบุรี อำเภอเมืองกาญจนบุรี อำเภอทองผาภูมิ และ อำเภอไทรโยค บุคคลต่างด้าวหลบหนีและเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา เคลื่อนย้ายและเดินทางเข้าสู่ อำเภอสังขละบุรี อำเภอเมืองกาญจนบุรี อำเภอทองผาภูมิ และอำเภอไทรโยค แก่แรงงานชาวเมียนมา ทั้ง18 คน เพื่อดำเนินการส่งฟ้องศาลต่อไป

โดยเบื้องต้น น.ส.กรณิภา อมรเดชากร ให้การยอมรับในข้อเท็จจริงว่า ได้นำแรงงานดังกล่าวจาก บริเวณริมถนน ใกล้สวนยางพารา หมู่ 3 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี โดยได้ค่าจ้างเป็นเงินคนละ 800 บาท เพื่อนำไปส่งที่ ท่าน้ำบ้านหลังเขา จากนั้นจะมีคนมารับอีกทอดหนึ่งซึ่งตนเองไม่รู้จักแต่มาถูกจับกุมได้เสียก่อน

จากการสอบามกลุ่มแรงงานที่จับกุมได้ในครั้งนี้ให้การว่าเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ผ่านช่องทาง บ้านพระเจดีย์สามองค์ โดยมีคนพาเดินเข้ามาจากชายแดนใช้เส้นทางธรรมชาติ เพื่อหลบด่านความมั่นคงบ้านน้ำเกิ๊ก ใช้เวลาเดินเท้าหลายชั่วโมง ก่อนรถ น.ส.กรณิภา อมรเดชากร จะไปรับที่ชายป่าแห่งหนึ่ง โดยจะต้องเสียจ่ายค่าเดินทางคนละ 7,500 บาท เมื่อเดินทางถึงจุดหมาย โดยส่วนใหญ่ตั้งใจจะเข้าไปทำงานในกรุงเทพฯและปริมณฑล

ทั้งนี้จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า น.ส.กรณิภา อมรเดชากร เป็น 1 ขบวนการขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองที่สำคัญอันดับต้นๆในพื้นที่ อ.สังขละบุรี ที่ฝ่ายความมั่นคงและตำรวจ ติดตามพฤติกรรมมาตลอด จนมาถูก 2 อ.ส.หนุ่มจับได้ในที่สุด โดยมีข้อมูลว่าระหว่างที่ถูกจับกุม น.ส.กรณิภา อมรเดชากร พยายามติดสินบน 2 อ.ส. ด้วยการเสนอเงินให้จำนวน 70,000บาท แต่ได้รับการปฎิเสธ จากทั้ง 2 คน

มีข้อมูลว่า สมาชิก อ.ส.ทั้ง 2 นายปลอมตัวเป็นคนตกปลามานั่งตกปลาในบริเวณนี้เป็นเวลาติดต่อกันมากว่า 5 วันแล้ว จนสามารถจับกุมขบวนการขนแรงงานต่างด้าวได้สำเร็จในวันนี้ โดยสมาชิก อ.ส.สมชาย เจตนารักษ์ชาติ เข้ารับราชการได้เพียง 2 ปี ส่วน สมาชิก อ.ส.ภุมิพัฒน์ ทุ่งพนาสิริรักษ์ เข้ารับราชการได้เพียง ปีเศษเท่านั้น ซึ่งการทำงานด้วยความสุจริตและเที่ยงตรงของ สมาชิก อ.ส. ทั้ง 2 นาย ในครั้งนี้ ได้รับการชื่นชม จากนายปกรณ์ กรรณวัลลี นายอำเภอสังขละบุรี เป็นอย่างยิ่ง

จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ พบว่าปัจจุบันมีแรงงานชาวเมียนมา ลักลอบเดินทางเข้ามาในพื้นที่ อ.สังขละบุรี เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้มีผลการจับกุมเกือบทุกวัน ทำให้ห้องขุมขังของ สภ.สังขละบุรี ไม่เพียงพอที่จะควบคุมตัว พนักงานสอบสวน ต้องเร่งดำเนินการส่งฟ้องศาล ซึ่งปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นกับ ตม.กาญจนบุรี เช่นเดียวกัน เนื่องจากไม่สามารถทำการผลักดันชาวเมียนมา ที่เข้าเมืองผิดกฎหมายกลับประเทศต้นทางได้ เนื่องจากทางการเมียนมา ปฎิเสธรับตัวกลับในช่วงนี้ ส่งผลให้ทางการไทยต้องแบกรับภาระจัดหาสถานที่ควบคุมตัว รวมทั้งดูแลเรื่องอาหาร ที่ต้องจัดหาให้วันละ 3 มือ ตามหลักมนุษยธรรม

โดยมีการเสนอให้ทางการไทยเร่งประสานขอความร่วมมือในการส่งผู้ต้องหาชาวเมียนมา กลับประเทศพร้อมทั้งหาแนวทางจัดตั้งศูนย์ตรวจและคัดกรองโรคโควิต 19 ขึ้นบริเวณชายแดนด่านเจดีย์สามองค์ พร้อมจัดหาสถานที่ควบคุมตัวแรงงานชาวเมียนมา ที่มีพาสปอร์ตแรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมายและเป็นกลุ่มที่เป็นที่ต้องการของผู้ประกอบการไทย โดยทำการกักตัวจนครบ14 วันหากไม่มีอาการ ก็ดำเนินการให้นายจ้างมารับตัวไปทำงาน โดยค่าใช้จ่ายในการกักตัวตลอด 14 วันให้แรงงานเป็นผู้จ่ายเอง ซึ่งแนวทางนี้หากทำได้ก็จะเป็นการจัดการปัญหาแรงงานลักลอบเข้าเมืองได้อย่างเป็นระบบ และสามารถตัดวงจรขบวนการค้ามนุษย์ ที่สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจและประเทศชาติได้ อย่างเป็นรูปธรรม

ปรีชา ไหลวารินทร์ / กาญจนบุรี

Loading