เดอะโอ๋”ถกทีมสืบสวน

23 ก.ค. 2020
11

เดอะโอ๋!!! ถกทีมสืบสวนเร่งไล่ล่า กลุ่มวัยรุ่นยกพวกทำร้ายร่างกายบุคลากรทางการแพทย์

วันนี้ 22 ก.ค. 63 ที่ห้องประชุม สภ.สำโรงใต้ ต.สำโรงกลาง อ.พระประแดง จว.สมุทรปราการ พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1(สส)ได้เดินทางมาประชุมเร่งรัดติดตามผลความคืบหน้าคดีวัยรุ่นยกพวกทำร้ายร่างกายบุคลากรทางการแพทย์ ภายในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลวิภารามชัยปราการ และวัยรุ่นยกพวกตีกัน ภายในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลเมืองสมุทรปู่เจ้า ตำบลสำโรงกลาง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 19 ก.ค.63 เวลาประมาณ 20.30 น.โดยมี พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.วรชาติ แสนคำ รอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.ศุภณัฐ เจริญเรืองสกุล รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการพ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรดี ผกก.สส.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.วิทิต จันทร์เอี่ยม ผกก.กก.3 บก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.อนันต์ ชัยชาญผกก.สภ.สำโรงใต้ พร้อมเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมในการประชุม

พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวในที่ประชุมโดยได้สั่งการ กำชับให้ปฏิบัติตามข้อสั่งการของ ผบ.ตร.รอง ผบ.ตร.ผบช.ภ.1 ที่ได้สั่งการไป โดยเคร่งครัด และครบถ้วนทุกประเด็น ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ทำงานเชิงรุก เร่งรัดสืบสวนหาพยานหลักฐานในคดีตามที่ได้สั่งการเพิ่มเติม และให้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกี่ยวข้องให้ละเอียด ตลอดจนให้ติดตามจับผู้กระทำความผิดในคดีนี้ให้ได้ทุกคนโดยเร็ว ให้พนักงานสอบสวน ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ทางกฎหมายในการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เน้นย้ำการรวบรวมพยานทางนิติวิทยาศาสตร์ จัดทำแผนที่เกิดเหตุ พร้อมเร่งรัดผลการตรวจพิสูจน์โดยเร็วที่สุด และให้สอบสวนปากเพิ่มเติมตามประเด็นที่ได้สั่งการไป ตลอดจนเร่งรัดออกหมายจับผู้กระทำความผิดในคดีทั้งหมด โดยเร็ว และแยกรายละเอียดแต่ละคดีให้ชัดเจน และเร่งรัดสรุปสำนวนสั่งฟ้องโดยเร็ว ให้ยกระดับและเพิ่มความเข้มในการป้องกันเหตุ โดยปรับแผนการป้องกันและปราบปรามให้เข้ากับเหตุการณ์ ,จัดให้มีช่องทางการแจ้งเหตุที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ,จัดการแผนการออกตรวจ ,เพิ่มจุดตรวจ ,เปลี่ยนเขตตรวจ ,ให้มีการแสดงตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มขึ้น เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากประชาชน ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันเหตุ ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ควบคุมกำกับดูแล สั่งการในคดีด้วยตนเอง โดยเฉพาะ หัวหน้าสถานีตำรวจ ตามคำสั่ง ตร.ที่ 419/2556 ให้จัดทำแผนเผชิญเหตุ โดยให้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ร่วมซักซ้อมแผนเผชิญเหตุเพื่อป้องกันเหตุไม่ให้เกิดขึ้นอีก และให้ตั้ง จุด ว.43 เพื่อป้องกันเหตุในพื้นที่เสี่ยงทุกจุด ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในคดีทุกนาย พึงระมัดระวังการให้ข่าว โดยเน้นย้ำ อย่าให้มีการเผยแพร่แนวทางการสืบสวน,ข้อมูลภาพจากกล้องวงจรปิด หรือข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องทางคดี ต่อสื่อมวลชนหรือมีภาพไปปรากฎยังสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆเพราะจะทำให้ข้อมูลความลับคดีหรือเทคนิคในการสืบสวนรั่วไหล กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายให้ทำงานร่วมกันเป็นทีม(teamwork) บูรณาการด้านข่าวร่วมกันทุกฝ่าย แบ่งหน้าที่กันทำงานให้ชัดเจน อย่าให้เกิดเหตุซ้ำได้อีก ให้รายงานผลการปฏิบัติให้ทราบทุกระยะ หากพบปัญหาให้รายงานให้ทราบ เน้นย้ำอย่าให้เกิดข้อบกพร่อง โดยให้ทุกนายยึดหลักการทำงานแบบ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” และ “ขยัน อดทน ดำรงตนอย่างมีเกียรติ”

โดยหลังจากประชุม ได้มี พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทย์สภา พร้อมคณะ ได้มอบกระเช้าดอกไม้ให้กับพล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1(สส) เพื่อเป็นการขอบคุณเพื่อเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเท วิริยะ อุตสาหะ จนสามารถนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้ตามกฎหมายอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับองค์กรแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ในการทำงาน
พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวต่อว่า วันนี้ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและสอบสวน ซึ่งทางตำรวจภูธรภาค 1 ได้ตั้งคณะทำงานให้บก.สส.ภ.1 บูรณาการกำลังร่วมกับชุดสืบสวน ภ.จว.สมุทรปราการ ลงมาควบคุมสำนวนด้วยตัวเอง เพื่อความรอบคอบและความมั่นใจของบุคลากรทางการแพทย์และทางผู้เสียหายทั้งหมด จากการสืบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุมีทั้งหมด 27 คน ได้จับกุมได้แล้วจำนวน 24 รายเหลือ อีก 2 คนซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามตัวของเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนคาดว่าจะได้ตัวไม่เกินเที่ยงคืนคืนนี้ ซึ่งสองคนนี้อยู่ในเหตุการณ์ที่ 1 และ 3 ส่วนอีก 1 คน ได้เสียชีวิต ซึ่งวันนี้จะปิดเกมจับกุมผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมด ซึ่ง 27 ราย รวมทั้ง 3 เหตุการณ์ จึงได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนให้ชัดเจนว่าใครอยู่ในเหตุการณ์ใดบ้าง และทางแพทยสภาได้มาขอบคุณตำรวจที่สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้ด้วยความรวดเร็ว แต่ที่ฝากเป็นห่วงคือเรื่องป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำขึ้น ผมได้เรียนยืนยันว่าทางพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ทุกพื้นที่ โดยเฉพาะบช.ภ.1 ทางผบช.ภ.1 ก็ได้เรียกให้มีการประชุมเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ทั้ง 9 จังหวัด 134 สถานีตำรวจ ผ่านทางวีดิโอคอนเฟอน์เรนว่าให้เพิ่มมาตรการความเข้มมาตรการป้องกันเหตุ วางแผน และมีการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ ร่วมกับบุคลากรทางการแพทย์และหน่วยข้างเคียงทั้งหมดและกำชับไม่ให้มีเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก ทั้งนี้เมื่อจับกุมผู้ก่อเหตุได้ครบทั้งหมดแล้วก็จะประชุมสรุปสำนวน รวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะผลการตรวจดีเอ็นเอ คาดว่าภายในสัปดาห์นี้หรือต้นสัปดาห์หน้าจะสามารถสรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการได้

Loading