นักวิจัยไทยเฉียบโชว์นวัตกรรมแช่ผลมะม่วงในน้ำร้อนพิฆาตแมลงวันผลไม้
เปิดตลาดมะม่วงไปอียูฉลุยกว่า 167 ตัน
กรมวิชาการเกษตร ใช้งานวิจัยทลายกำแพงส่งออกมะม่วงไปสหภาพยุโรปสำเร็จ เป็นครั้งแรกของไทยใช้น้ำร้อนปราบแมลงวันผลไม้อุณหภูมิ 46 องศาเซลเซียส นาน 10 นาที สยบแมลงวันผลไม้ได้ผล ไม่กระทบคุณภาพผลผลิต ใช้ต้นทุนต่ำ ระยะเวลาสั้น ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ผู้ประกอบการรายเล็กทำเองได้ สหภาพยุโรปจัดหนักอ้าแขนรับมะม่วงไทยแล้วกว่า 167 ตัน สวิตเซอร์แลนด์แฟนพันธุ์แท้นำเข้าอันดับ 1
นางสาวเสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า มะม่วงเป็นไม้ผลเศรษฐกิจที่สำคัญชนิดหนึ่งของไทยซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ แต่การผลิตมะม่วงเพื่อการส่งออกยังมีปัญหาในด้านคุณภาพ เนื่องจากมีปัจจัยหลายประการที่เป็นอุปสรรคต่อคุณภาพผลผลิต โดยเฉพาะปัญหาของแมลงวันผลไม้ชนิด Bactrocera dorsalis (Hendel) ซึ่งเป็นแมลงศัตรูสำคัญทางด้านกักกันพืช มีพืชอาหารกว้างจึงสามารถเพิ่มปริมาณและแพร่ขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่องตลอดทั้งปี จัดเป็นแมลงศัตรูที่ทำให้เกิดปัญหาในการส่งออกผลิตผลทางการเกษตรโดยเฉพาะผลไม้สด เช่น มะม่วง ชมพู่ และฝรั่ง เนื่องจากประเทศคู่ค้ากลัวแมลงวันผลไม้ติดไประบาดภายในประเทศ ดังนั้นจึงได้กำหนดเงื่อนไขการนำเข้าโดยให้กำจัดแมลงวันผลไม้ตามมาตรการที่แต่ละประเทศกำหนด ซึ่งกลุ่มสหภาพยุโรปกำหนดให้ประเทศไทยเสนอวิธีการกำจัดแมลงวันผลไม้ในมะม่วงให้พิจารณาก่อนที่จะอนุญาตให้มีการนำเข้าไปยังกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป
สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร ได้ศึกษาวิธีการแช่น้ำร้อนมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้สำหรับกำจัดแมลงวันผลไม้หลังการเก็บเกี่ยวเพื่อหาอุณหภูมิและระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับกำจัดแมลงวันผลไม้ชนิด B. dorsalis ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่เคยมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการแช่น้ำร้อนสำหรับกำจัดแมลงวันผลไม้ จากผลการทดลองพบว่าการนำมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้แช่น้ำร้อนที่อุณหภูมิ 46 องศาเซลเซียส จนอุณหภูมิภายในผลถึง 46 องศาเซลเซียส นาน 10 นาที สามารถกำจัดแมลงวันผลไม้ระยะไข่และหนอนวัยที่ 1 ซึ่งเป็นระยะที่ทนต่อความร้อนมากที่สุด และไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของมะม่วง
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ภายหลังการทดลองเสร็จสิ้นกรมวิชาการเกษตรได้เสนอวิธีการแช่น้ำร้อนสำหรับกำจัดแมลงวันผลไม้ชนิด B. dorsalis ในมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้เพื่อการส่งออกให้กลุ่มสหภาพยุโรปพิจารณา ผลปรากฏว่าวิธีการกำจัดแมลงวันผลไม้ดังกล่าวได้รับการยอมรับ ส่งผลให้ประเทศไทยสามารถส่งออกมะม่วงที่ผ่านการแช่น้ำร้อนไปกลุ่มสหภาพยุโรปและสวิตเซอร์แลนด์ได้รวม 13 ประเทศตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2562 เป็นต้นมาจนถึงเดือนสิงหาคม 2563 ไทยได้ส่งออกมะม่วงไปยังกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปแล้วรวมปริมาณทั้งสิ้น 167,574 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 8,617,591 บาท โดยประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปที่มีการนำเข้ามะม่วงจากไทยมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย และเยอรมนี
วิธีการแช่น้ำร้อนเพื่อกำจัดแมลงวันผลไม้ดังกล่าวประเทศไทยได้ทำการศึกษาวิจัยเป็นครั้งแรก เป็นวิธีการที่ง่าย ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาน้อย และใช้ต้นทุนการผลิตน้อยมากเมื่อเทียบกับวิธีการกำจัดแมลงวันผลไม้ด้วยการอบไอน้ำ โดยตู้อบไอน้ำขนาดเล็กขนาด 2.5 ตัน ราคาประมาณ 15 ล้านบาท ในขณะที่อ่างแช่น้ำร้อนขนาดกลาง 350 กิโลกรัม ราคาประมาณ 480,000 บาท ทำให้ผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุผักและผลไม้สดขนาดเล็กสามารถลงทุนทำได้เอง ทำให้มะม่วงผลสดจากประเทศไทยมีต้นทุนในการผลิตไม่สูงสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ได้ ปัจจุบันมีโรงงานแช่น้ำร้อนที่ได้รับการรับรองจากกรมวิชาการเกษตรแล้วรวมจำนวน 11 โรงงาน
“การแช่น้ำร้อนเป็นวิธีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดแมลงวันผลไม้ในมะม่วง สามารถใช้ได้กับไม้ผลหลายชนิดในเชิงอุตสาหกรรม ใช้ระยะเวลาสั้นในการดำเนินการ รวมทั้งมีค่าใช้จ่ายที่น้อยมากคุ้มค่ากับการลงทุน หากไม่มีปัญหาเรื่องสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 คาดว่าปริมาณและมูลค่าการส่งออกมะม่วงไทยที่ส่งออกไปสหภาพยุโรปต้องสูงกว่า 10 ล้านบาทแน่นอน เนื่องจากมะม่วงไทยเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคชาวยุโรปด้วยรสชาติที่มีความหวาน กลมกล่อม และมีกลิ่นหอมซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวต่างจากมะม่วงที่สหภาพยุโรปนำเข้าจากอินเดีย และบังกลาเทศ ผู้ประกอบการรายใดที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร โทร 02-579-5583” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว