วันพุธ, 6 พฤศจิกายน 2567

ป.ป.ท.สนธิกำลัง บก.สส.ภ.1 รวบ 2 อดีตเทศกิจ รีดเงินชาวต่างชาติ

12 ก.ย. 2020
15

ป.ป.ท.สนธิกำลัง บก.สส.ภ.1 รวบ 2 อดีตเทศกิจ รีดเงินชาวต่างชาติ

วันนี้ 10 ก.ย. 63 ที่ สภ.ลำลูกกา จว.ปทุมธานี นายภูมิวิศาล เกษมสุข รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท.เข้าร่วมสอบปากคำ นายไพโรจน์ ทินโน อดีตเจ้าหน้าที่เทศกิจสำนักงานเขตปทุมวัน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ จ.53/2563 ลงวันที่ 2 ก.ย. 63 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิด ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 171

โดย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้อำนวยการกองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 (กปท.2) ได้ประสาน พ.ต.อ.พิเชษฐ์ ไชยวุฒินันท์ ผกก.สส.4 บก.สส.ภ.1นำหมายจับ เข้าจับกุม ผู้ต้องหาคนดังกล่าว ได้ที่บ้านพักในเขต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี และคุมตัวส่ง สภ.ลำลูกกา ขณะเจ้าหน้าที่ของ สำนักงาน ป.ป.ท. อีกชุดประสานงานกับ พ.ต.อ.อาจิน บัวผัน ผกก.สส.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อนำกำลังเข้าจับกุม นายสงบ หรือภัทรพล หอมสมบัติ อดีตเทศกิจสำนักงานเขตปทุมวัน ที่ร่วมกับ นายไพโรจน์ รีดเงินนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยจับกุมได้ที่ อุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม จว.ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางสะพาน
นายภูมิวิศาล เปิดเผยว่า การจับกุมนายไพโรจน์และนายสงบ ครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 มี.ค.59 โดยมีการนำเสนอภาพข่าวของเจ้าหน้าที่เทศกิจ 2 คน ที่เรียกรับเงินจากนักท่องเที่ยวและนักลงทุนชาวต่างชาติ ที่เข้ามาเที่ยวในประเทศไทย โดยมิชอบด้วยกฎหมาย เหตุเกิดที่ริมคลองหลอด สนามหลวง และมีพลเมืองดีช่วยถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน หลังจากสำนักงาน ป.ป.ท. ทราบเรื่องก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการสืบสวนติดตาม จนทราบตัว ผู้เสียหายชาวต่างชาติทั้ง 2 คน จึงเชิญตัวมาให้สอบถามข้อมูล

โดยปมเหตุของการรีดไถเงินดังกล่าว นักท่องเที่ยว อ้างว่า อดีตเจ้าหน้าที่เทศกิจทั้ง 2 คน กล่าวหาว่า ทิ้งเศษบุหรี่ ในที่สาธารณะต้องมีโทษปรับ ก่อนที่จะฉกฉวยเอากระเป๋าเงินในกระเป๋ากางเกงของนักท่องเที่ยวไป และหยิบเงินออกไป ก่อนที่จะมีพลเมืองดีมาช่วยเหลือ และถ่ายคลิปไว้ อดีตเจ้าหน้าที่เทศกิจทั้ง 2 คน จึงได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป

ภายหลัง สำนักงาน ป.ป.ท. ทำการสอบสวนและสรุปสำนวนแล้วเสร็จ คณะกรรมการ ป.ป.ท. ชี้มูลว่า การกระทำของ นายไพโรจน์ และนายสงบ มีความผิด จึงออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา แต่ทั้ง 2 คนไม่มารายงานตัว มีเหตุอันควรเชื่อว่าจะหลบหนี จึงขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับไว้

จากนั้น เจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนติดตามเรื่อยมา จนทราบว่า นายไพโรจน์ หลบหนีอยู่ที่บ้านพักในเขต อ.ลำลูกกา จว.ปทุมธานี จึงนำหมายศาลเข้าจับกุม และคุมตัวมาสอบสวน ที่ สภ.ลำลูกกา และจับกุมตัว นายสงบ ได้ที่ จว.ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนจะส่งตัวให้พนักงานอัยการ และส่งฟ้องศาลในวันพรุ่งนี้ (11 ก.ย. 63)
ทั้งนี้ รองเลขาฯ ป.ป.ท. ยังกล่าวด้วยว่า สำนักงาน ป.ป.ท. โดยศูนย์รับเรื่องร้องเรียนสำหรับนักลงทุนชาวต่างชาติ เล็งเห็นความสำคัญ ของการอำนวยความยุติธรรมให้กับนักลงทุนชาวต่างชาติ จึงดำเนินการติดตามคดีเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐในอำนาจหน้าที่รังแกนักลงทุนหรือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทยด้วย

Loading