นนทบุรี บิ๊กนู เเถลงข่าวจับแก๊งค์ลักรถ พบคนร้ายประวัติโชกโชนก่อเหตุมาเเล้ว 33 คดี
เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.อ.ดิเรก ยศนันท์ ผกก.สส.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.อ.สิรภพ อนุศิริ ผกก.สภ.บางบัวทอง พ.ต.ท.วรทัศน์ วัฒนชัยนันท์ รอง ผกก.สส.สภ.บางบัวทอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวผลการปราบปรามแก๊งโจรกรรมรถยนต์ในพื้นที่ จ.นนทบุรี พร้อมของกลางรถยนต์เก๋งที่ใช้ในการก่อเหตุจำนวน 3 คัน รถยนต์กระบะที่ถูกโจรกรรมจำนวน 2 คันโดยจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีได้ทั้งหมดจำนวน 4 คน ประกอบด้วย
1.นายต๋อง หรือปู ปิ่นทอง อายุ 39 ปี (ผู้ต้องหาที่1) ตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี ที่480/2563 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2563 และ 484/2563 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2563
2.นายอนุชา หรือปุ้ย ปิ่นทอง อายุ 39 ปี (ผู้ต้องหาที่2) ตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี ที่481/2563 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2563 และ 485/2563 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2563
3.น.ส.บุญเรือน หรือพร วิบูลย์เชื้อ อายุ 38 ปี (ผู้ต้องหาที่3) ตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี ที่482/2563 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2563
4.นายพลวัชร หรือทิม ดวงสุวรรณ อายุ 51 ปี (ผู้ต้องหาที่4) ตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี ที่483/2563 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2563 และ 486/2563 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2563 (รับของโจร)
นอกจากนี้ยังตรวจยึดรถยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุอีกจำนวน 3 คัน ประกอบด้วย 1.รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ Honda รุ่น Accord สีดำ ทะเบียน ศณ 8499 กทม.(ของนายอนุชาฯ) จำนวน 1 คัน
2.รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ Toyota รุ่น Vios สีดำ ทะเบียน 1กญ-7336 กทม.(ของนายอนุชาฯ) จำนวน 1 คัน
3.รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ Toyota รุ่น Vigo สีขาว ทะเบียน 9กร-3653 กทม.(ของนายอนุชาฯ) จำนวน 1 คัน อีกทั้งยังพบรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมอีกจำนวน 2 คัน ซึ่งเป็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ Toyota รุ่น Vigo สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 2กย 5630 กทม. (ตรวจสอบแล้วเป็นรถของ น.ส.จันทิมา วัฒนกิจ ผู้เสียหายที่1 โดยผู้ต้องหานำป้ายทะเบียนปลอม 6กฆ-1942 กทม. มาใส่) จำนวน 1 คัน และรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ Toyota รุ่น Vigo สีดำ ทะเบียน 3 กฬ 9726 กทม. (ตรวจสอบแล้วเป็นของนายไพรรัตน์ วิเชียรชัย ผู้เสียหายที่ 2 โดยผู้ต้องหานำป้ายทะเบียนปลอม 2กต – 814 กทม. มาใส่) จำนวน 1 คัน
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 ก.ย.63 เวลาประมาณ 14.46 น.นายต๋องฯได้ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อ Honda รุ่น Accord สีดำ ทะเบียน ศณ 8499 กทม. ติดตามรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ Toyota รุ่น Vigo (มีแครี่บอย) สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 2กย 5630 กทม. ที่ผู้เสียหายที่ 1 ขับขี่มา เมื่อผู้เสียหายขับเข้าไปภายในห้างโลตัส สาขาบางกรวย – ไทรน้อย อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี นายต๋องฯ ได้ขับรถวนรอจนกระทั่งผู้เสียหายลงจากรถ จากนั้นได้ลงมือก่อเหตุโจรกรรมรถยนต์ แล้วขับรถคันที่โจรกรรมหลบหนีไป โดยนายต๋องฯ ได้ขับมุ่งหน้าไปหานายอนุชาฯ ซึ่งเป็นพี่ชาย และได้ร่วมกันถอดแครี่บอยออกแล้วทิ้งไว้ข้างทางบริเวณถนนหลวงสาย 3351 (บางเลน-สองพี่น้อง) จากนั้นนายอนุชาฯ และน.ส.บุญเรือนฯ ได้ขับขี่รถยนต์กระบะยี่ห้อ Toyota รุ่น Vigo สีขาว ทะเบียน 9กร-3653 กทม. กลับมาบริเวณจุดก่อเหตุ เพื่อมาเอารถเก๋งยี่ห้อ Honda รุ่น Accord สีดำ ที่นายต๋องฯ จอดทิ้งไว้ โดยให้ น.ส.บุญเรือนฯ ขับกลับไปจอดทิ้งไว้บริเวณแพปลา ตลาดบางเลน ต่อมาทั้งนายอนุชาฯ และนายต๋องฯ ได้นำรถคันที่ถูกโจรกรรมไปฝากไว้กับนายพลวัชรฯ ที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี โดยมีนายต๋องฯ ขับรถที่ถูกโจรกรรมนำทาง และมีนายอนุชาฯ ขับขี่รถยนต์เก๋งยี่ห้อยี่ห้อ Toyota รุ่น Vios สีดำ ทะเบียน 1กญ-7336 กทม.ตามไป
คดีที่ 2. เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2563 เวลาประมาณ 15.02 น. นายไพรรัตน์ วิเชียรชัย
ผู้เสียหายที่ 2 ได้ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อ Toyota รุ่น Vigo สีดำ ทะเบียน 3กฬ 9726 กทม. มาจอดไว้บริเวณหน้าศูนย์คอมกรุงไทย ริมถนนบางกรวย-ไทรน้อย อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นรถเป้าหมายที่กลุ่มผู้ต้องหาต้องการโจรกรรมเมื่อนายอนุชาฯ ขับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ Toyota รุ่น Vios สีดำ ทะเบียน 1กญ-7336 กทม. โดยมีนายต๋องฯ ที่นั่งมาด้วยกัน เจอรถเป้าหมาย จึงได้จอดรถและให้นายต๋องฯ ลงไปทุบกระจกรถและทำการโจรกรรมไปจากนั้น นายต๋องฯได้ขับรถคันที่ถูกโจรกรรมไปฝากไว้กับนายพลวัชรฯ ที่ อ.แก่งคอย จว.สระบุรี โดยมีนายอนุชาฯ ขับขี่รถยนต์เก๋งยี่ห้อยี่ห้อ Toyota รุ่น Vios สีดำ ทะเบียน 1กญ-7336 กทม. ติดตามไป
ด้าน พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ติดตามเบาะแสจากกล้องวงจรปิดจนกระทั่งทราบว่าผู้ก่อเหตุทั้งสองคดี คือ นายต๋องฯ, นายอนุชาฯ และน.ส.บุญเรือนโดยนายต๋อง 1 ในคนร้ายคดีนี้ก่อเหตุมาเเล้วหลายครั้ง ไม่รู้จักเข็ดหลาบ ซึ่งครั้งล่าสุดนายต๋องต้องโทษจำคุก 8 ปี แต่ติดจริงๆไม่ถึง 8 ปี พอออกจากเรือนจำก็กลับมารวมกลุ่มแล้วก็ตระเวนก่อเหตุอีก โดยพฤติกรรมของนายต๋องถือว่าช่ำชองในการลักรถยนต์เป็นอย่างมาก ใช้เวลาไม่ถึง 4 นาที ในการเปิดประตูรถและสตาร์ทเครื่องขับหลบหนีไปได้ โดยทั้งหมดจะมีพฤติการณ์ในการโจรกรรมคือ นายต๋องฯ จะตระเวนหารถยนต์กระบะเป้าหมาย เมื่อสบโอกาสจะเข้าไปทำการลักรถยนต์โดยใช้วิธีต่อสายไฟตรงแล้วขับหลบหนีออกไป จากนั้นค่อยย้อนกลับมาเอารถยนต์ที่ใช้เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุ หลังจากนั้นได้นำรถที่โจรกรรมได้ ไปฝากให้นายพลวัชรฯ นำไปขายให้ โดยขายได้ในราคาคันละประมาณ 100,000 บาท แล้วนำเงินจำนวนดังกล่าวมาแบ่งกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกำลังเฝ้าติดตามจนสามารถทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ พร้อมทั้งสามารถติดตามรถคืนให้ผู้เสียหายได้ทั้งสองคัน และจากการตรวจสอบประวัติของนายต๋องฯ พบว่าเคยก่อคดีมาแล้ว 33 คดี ถูกดำเนินคดี 17 คดี หลบหนีได้จนคดีหมดอายุความ 5 คดี อยู่ระหว่างติดตามจับกุม(มีหมายจับ)จำนวน 11 หมาย จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
สาโรจน์ สว่างศรี / นนทบุรี