วันอังคาร, 1 ตุลาคม 2567

ผอ.สบอ.3 ลงพื้นที่แจ้งผู้ประกอบการโฆณาขายเนื้อสัตว์ป่า

กาญจนบุรี ผอ.สบอ. 3 ลงพื้นที่ตักเตือนผู้ประกอบการร้านค้าโฆษณาขายเนื้อสัตว์ สองข้างทางถนนสายไทรโยค – กาญจนบุรี ปราบค้าเนื้อสัตว์ป่า พร้อมเตือนร้านข้าวแกงขึ้นป้ายโฆษณา อาหารป่า เช่น เก้ง กวางป่าผัดเผ็ด หากตรวจสอบแล้วเป็นจริง มีโทษจำคุก 10 ปี ปรับ 1 ล้าน กลับกัน หากตรวจแล้วไม่ใช่ตามโฆษณา เข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภคเจออีก 2 กระทง

 

วันนี้ 09 ต.ค. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ได้ลงพื้นที่ตักเตือนผู้ประกอบการร้านค้าขายเนื้อสัตว์ ที่ตั้งอยู่บริเวณสองข้างทางถนนสายไทรโยค – กาญจนบุรี ตำบลท่าเสา อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ที่เขียนข้อความโฆษณาขายเนื้อสัตว์ อาทิ กวาง กระต่าย โดยขอให้เจ้าของร้านค้า เอาข้อความ กวาง และ กระต่าย ออกเสีย มิฉะนั้นถ้าเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบแล้วนำผลเนื้อสัตว์ดังกล่าวไปพิสูจน์ DNA หากผลการพิสูจน์ เป็นเนื้อหมูป่า หรือเนื้อสัตว์อื่น ก็จะมีความผิดหลอกลวงการขาย ตามกฎหมายอาญามาตรา 271 และหลอกลวงผู้บริโภคตามมาตรา 47 แต่ถ้าผลตรวจสอบออกมาว่า เป็นกวางรูซ่า หรือกระต่ายบ้าน ก็สามารถซื้อขายได้ตามปกติ ถ้ายังติดข้อความดังกล่าว เจ้าของร้านค้าต้องเสี่ยงดวงเอาเอง ถ้าไม่มั่นใจ ก็ให้เอาออกเสีย โดยให้เวลาตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. 2563 เป็นต้นไป จะเริ่มเข้าทำการตรวจสอบ

ซึ่งก่อนหน้านี้ นายนิพนธ์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ก็ได้ลงพื้นที่ปราบปรามร้านค้าขายเนื้อสัตว์ป่า ที่เขียนข้อความโฆษณาหน้าร้านค้า อย่างเปิดเผยว่า “กวางป่า” “กระต่ายป่า” “เก้งป่า” โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง และทำให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรี เข้าใจจังหวัดกาญจนบุรี เป็นแหล่งค้าสัตว์ป่า โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการล่อซื้อจนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลาง ซึ่งระบุว่าเป็นเนื้อกวางป่าได้ จากนั้นได้ส่งตัวอย่างชิ้นเนื้อตรวจพิสูจน์ที่ศูนย์นิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ล่าสุดผลการตรวจพิสูจน์พบว่า เป็นเนื้อหมูป่า ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการตามกฎหมาย
นายนิพนธ์ เปิดเผยว่า ขอเตือนไปยังร้านค้าเนื้อสัตว์ป่าที่อยู่ในจังหวัดกาญจนบุรี หรือจังหวัดอื่นในเขตรับผิดชอบของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ที่มีร้านค้าเนื้อสัตว์ป่าทำนองนี้อีก ขอให้ยกเลิกกระทำดังกล่าวเสีย มิฉะนั้นทางคณะเจ้าหน้าที่สายตรวจสัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) จะดำเนินการวาดล้างจับกุมดำเนินคดีอย่างเฉียบขาด ไม่ละเว้น ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี สามารถจับกุมกลุ่มนายพรานที่ลักลอบเข้าไปล่าสัตว์ป่า มาแล้วหลายคดี
สำหรับจังหวัดกาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงด้านสัตว์ป่าเป็นอย่างมาก จึงเป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อที่สุดเกี่ยวกับอาหารป่า โดยช่วงกลางเดือนกันยายน ที่ผ่านมา ขณะที่ตนและเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ได้มาปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี และได้แวะรับประทานอาหารเช้าที่ร้านอาหารชื่อ “เจ๊ราตรี แกงป่า”ตั้งอยู่ริมถนนสาย 323 กาญจนบุรี-ไทรโยค ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

จากการสำรวจรายการอาหารจากเมนู และป้ายโฆษณารายการอาหารที่อยู่ภายในร้าน พบว่ามีการโฆษณารายการอาหารประเภท “เก้งผัดเผ็ด”และ “แกงป่าเก้ง” ซึ่งเก้งนั้นเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง จากการสอบถามเจ้าของร้าน ปรากฏได้ข้อเท็จจริงว่า ไม่มีเก้งจริงที่นำมาประกอบอาหารบริการให้กับลูกค้า แต่เป็นเนื้อสัตว์ชนิดอื่น ดังนั้นจึงได้ว่ากล่าวตักเตือนเจ้าของร้าน ว่าการกระทำดังกล่าวนั้นผิดกฎหมาย พร้อมกับให้ลบรายการอาหารประเภทดังกล่าวออกไปจากเมนูอาหาร และป้ายโฆษณา ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากเจ้าของร้านอาหารดังกล่าวเป็นอย่างดี

นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผอ.สบอ.3 (บ้านโป่ง) ขณะนี้ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯที่อยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีทุกแห่ง ให้ลงพื้นที่หาข่าวหากพบเห็นร้านอาหารร้านใดมีเมนูและป้ายโฆษณาอาหารป่า ก็ให้เข้าไปแจ้งเตือนเจ้าของร้านทันที ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการรักษาชื่อเสียงและสร้างสิ่งที่ดีงามให้กับจังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดกาญจนบุรีจะได้ไม่ขึ้นชื่อว่าเป็นจังหวัดแหล่งค้าอาหารที่เป็นสัตว์ป่าอีกต่อไป
และขอฝากเตือนร้านอาหารต่างๆ ดังนี้ กรณีที่นำเนื้อสัตว์ป่าคุ้มครอง เช่น เก้ง กวางป่า กระต่ายป่า มาทำเป็นเมนูอาหาร ขายให้ลูกค้ารับประทาน มีความผิดตามมาตรา 29 พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ในกรณีเมนูและป้ายโฆษณา มีรายการอาหารประเภทสัตว์ป่าคุ้มครอง แต่เมื่อตรวจสอบแล้วปรากฎว่าเป็นเนื้อสัตว์ชนิดอื่นที่ไม่ใช่เนื้อสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามที่โฆษณาเอาไว้ เช่นเป็นเนื้อหมูป่า หรือเนื้อกวางลูซ่า เป็นต้น จะมีความผิดในกรณี หลอกลวงการขาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 271 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังมีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 และฉบับที่แก้ไข มาตรา 47 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับอีกด้วย

ปรีชา ไหลวารินทร์ / กาญจนบุรี

Loading