มุกดาหาร สภาหอการค้าไทย – หอการค้าจังหวัดมุกดาหาร – สภาธุรกิจไทย – ลาว ร่วมกับกลุ่มรถจักรยานยนต์ชอปเปอร์ โปรโมทการท่องเที่ยว จ.มุกดาหาร ภายใต้กิจกรรม “ซอกแซก เลาะโขง”
วันที่ 6 พ.ย. 63 นายบุญช่วย น้อยสันเทียะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานปล่อยขบวนรถจักรยานยนต์ชอปเปอร์ ในกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดชายแดนติดริมแม่น้ำโขง จ.มุกดาหาร จ.นครพนม จ.บึงกาฬ จ.หนองคาย จ.เลย ภายใต้ชื่อกิจกรรม “ซอกแซก เลาะโขง” นำโดยนายภมร เชาว์ศิริกุล ประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดมุกดาหาร , ดร.จตุรงค์ บุญนาค ประธานสภาธุรกิจไทย – ลาว และคณะ
โดย รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ให้เกียรติปล่อยขบวนรถจักรยานยนต์ชอปเปอร์ เริ่มต้นที่โรงแรมเคียงโขง อ.เมืองมุกดาหาร ออกเดินทางผ่านย่านการค้าตลาดอินโดจีน แวะจอดรถกราบสักการะพระเจ้าองค์หลวง พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองมุกดาหาร ที่วัดศรีมงคลใต้ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ สร้างสมัยกรุงธนบุรี ตั้งอยู่ถนนสำราญชายโขง ริมแม่น้ำโขงในตัวเมืองมุกดาหาร จากนั้น ทางคณะฯออกเดินทางต่อไปยังมูลนิธิการกุศลมุกดาหาร “เต็กก่า” จีหมกเกาะ (หน่วยกู้ภัยธงแดง) ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก เป็นมูลนิธิที่ทำหน้าที่ในการช่วยเหลือด้านอุบัติเหตุและด้านสาธารณภัยต่างๆโดยไม่หวังผลตอบแทน ได้เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2512 โดยชาวจีนในตลาด อ.เมืองมุกดาหาร และจากนั้นทางคณะฯเดินแวะถ่ายภาพบริเวณสะพานมิตรภาพ ไทย – ลาว แห่งที่ 2 ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.บางทรายใหญ่ อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร ห่างจากตัวจังหวัดไปทางทิศเหนือ 7 กิโลเมตร เป็นสะพานที่เชื่อมต่อระหว่าง จ.มุกดาหาร ของประเทศไทย กับ แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2549 เป็นสะพานคอนกรีต 2 ช่องจราจร ผิวจราจรกว้าง 12 เมตร ความยาว 1,600 เมตร สะพานแห่งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเส้นทางขนส่ง เชื่อมโยงจากตะวันออกคือเมืองดานัง (เวียดนาม) ข้ามแม่น้ำโขงที่แขวงสะหวันนะเขต ต่อมายังมุกดาหาร และผ่านไปยังตะวันตกที่ชายแดนไทย-พม่า ที่อำเภอแม่สอด และเมืองเมียวดี และไปสิ้นสุดที่ เมืองมะละแหม่งของพม่า
และคณะฯออกเดินทางเลียบริมแม่น้ำโขงต่อไปยัง วัดมโนภิรมย์ตั้งอยู่ที่ บ้านชะโนด ต.ชะโนด อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร กรมศิลปะการระบุว่าวัดนี้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2230 สร้างโดยท้าวคำสิงห์และญาติพี่น้องรวมทั้งบริวารที่อพยพมาจากฝั่งลาวพร้อมกับการตั้งบ้านชะโนด เดิมใช้ชื่อเดียวกับชื่อบ้านและชื่อห้วยซึ่งไหลลงสู่แม่น้ำโขงทางทิศตะวันออก แต่ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดมโนภิรมย์ สิ่งสำคัญภายในวัดคือ สิม ซึ่งได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน เมื่อ พ.ศ.2525 และได้รับการบูรณะครั้งใหญ่เมื่อ พ.ศ.2543 ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นนาคปรกปางมารวิชัย รูปแบบอาคารเป็นศิลปะลาวแบบเวียงจันทน์ที่ผสมผสานศิลปะญวน
จุดหมายต่อไปของทางคณะ คือ โบสถ์คริสต์ (วัดสองคอนมรณสักขี) ตั้งอยู่ที่ บ้านสองคอน ต.ป่งขาม อ.ว่านใหญ่ จ.มุกดาหาร เป็นโบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก สร้างแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ที่มีความสวยงามและใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เคยได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่น สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ปี 2539 มีหุ่นขี้ผึ้งของนักบุญราศีทั้งเจ็ด ที่อุทิศชีวิตในป่าศักดิ์สิทธิ์เพื่อพิสูจน์ศรัทธาที่มีต่อพระเจ้า ทุกๆปี ในวันที่ 22 ตุลาคม จะมีพิธีเฉลิมฉลองรำลึกถึงการสถาปนาแต่งตั้ง “บุญราศีมรณะสักขี” และในวันที่ 16 ธันวาคมของทุกปี จะมีพิธีรำลึกบุญราศีสองคอน
ต่อจากนั้น คณะฯ เดินทางต่อที่ แก่งกะเบา ตั้งอยู่ใน เขตบ้านนาแกน้อย อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร เป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจมีทัศนียภาพที่สวยงาม มองเห็นวิวลำน้ำโขงทอดยาวซึ่งเป็นพรมแดนกั้นระหว่างประเทศไทยและเมืองไชยบุรี สปป.ลาว ก่อนพักรับประทานอาหาร
หลังจากนั้น ขบวนรถจักรยานยนต์ชอปเปอร์ นำโดยนายภมร เชาว์ศิริกุล ประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดมุกดาหาร และคณะเดินทางต่อไปที่ วัดพระธาตุพนมวนมหาวิหาร เข้าเขต จ.นครพนม ต่อไป ทั้งนี้ตลอดเส้นทางมีคณะสื่อมวลชนติดตามถ่ายภาพและทำข่าวประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว ภายใต้ชื่อกิจกรรม “ซอกแซก เลาะโขง” ครั้งนี้อย่างคึกคักด้วย
อนุศักดิ์ – เสาวภา แสนวิเศษ มุกดาหาร
