กาญจนบุรี ชุดลาดตระเวน อช.ทองผาภูมิ ตะครุบหนุ่มกะเหรี่ยงกลางป่า พร้อมซากสัตว์ป่า มีทั้งไก้ฟ้าหลังเทา อีเห็นข้างลาย ส่วนปืนแก๊ปที่ใช้ล่า ผู้ต้องหายังปากแข็งปฏิเสธที่ซ่อน
วันนี้ 11 พ.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเจริญ ใจชน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) และผู้บังคับบัญชาระดับสูง ได้มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ออกลาดตระเวนเชิงคุณภาพในเขตพื้นที่รับผิดชอบเพื่อป้องกันการทำลายทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า อย่างเคร่งครัด
ซึ่งอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิได้ดำเนินการตามนโยบายข้างต้นอย่างเคร่งครัดมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งระหว่างนี้มีประชาชนในหลายพื้นที่นิยมเข้าป่าไปเก็บเห็ดโคนที่ขึ้นตามฤดูกาลเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าระวังเป็นกรณีพิเศษเนื่องจากเกรงว่า อาจจะมีกลุ่มขบวนการลักลอบเข้าไปทำลายทรัพยากรป่าไม้และล่าสัตว์ป่า ด้วยการแฝงตัวเป็นชาวบ้านเข้าไปหาเก็บเห็ดก็เป็นได้
และในที่สุดช่วงเวลาประมาณ 14.30 น.ของวันที่ 10 พ.ย.63 ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนเชิงคุณภาพลาดตระเวนไปถึงบริเวณป่าห้วยมะปรางค์ และป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาช้างเผือก ที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ท้องที่หมู่ 6 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
พบชายวัยรุ่นอยู่บริเวณเชิงป่าเขาริมลำธาร ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวนั้นเป็นแหล่งหากินและแหล่งน้ำของสัตว์ป่า ดังนั้นคณะเจ้าหน้าที่จึงเข้าไปควบคุมตัวเอาไว้พร้อมกับขอตรวจสอบหาสิ่งผิดกฎหมาย พบของกลางซากสัตว์ป่า รวม 4 รายการ จำนวน 6 ซาก สัตว์ทั้ง 6 ซากถูกยิงด้วยอาวุธปืนแก๊ป ประกอบด้วย ประกอบด้วย ซาก นกแก๊ก จำนวน 1 ซาก ซากไก่ฟ้าหลังเทา จำนวน 1 ซาก ซากกระรอกแก้มเทา จำนวน 3 ซาก และอีเห็นข้างลาย อีกจำนวน 1 ซาก พร้อมอุปกรณ์การกระทำผิด 2 รายการ คือมีดพก 1 เล่ม และไฟฉาย 1 กระบอก
ทราบชื่อผู้ต้องหาคือนาย บุญมี ไม่มีนามสกุล (ชาวกระเหรี่ยง) อายุ 23 ปี สำหรับอาวุธปืนที่ใช้ยิงสัตว์ป่าจำนวนดังกล่าว นายบุญมี ผู้ถูกจับกุม อ้างว่าได้ซุกซ่อนเอาไว้ภายในผืนป่า แต่ไม่ยอมบอกเจ้าหน้าที่ว่าซุกซ่อนเอาไว้ที่ไหน
ดังนั้นคณะเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมนำซากสัตว์ป่าของกลางมาทำบันทึกเรื่องราวที่บริเวณสำนักงานที่ทำการหน่วยพิทักษ์ฯที่ ทภ.7 (เวียคะดี้) จากนั้นนำตัวส่ง ร.ต.อ.ประเสริฐ ใจเมือง รอง สว.(สอบสวน)สภ.สังขละบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ปรีชา ไหลวารินทร์