วันศุกร์, 27 ธันวาคม 2567

ปัตตานี ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟไหม้ป่าพรุบาเจาะ

นายอำเภอบาเจาะ ระบุ ปีนี้จะใช้ 3 มาตรการหลัก ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟไหม้ป่าพรุบาเจาะ เน้นการดำเนินงานตามแนวทางประชารัฐ และดึงชาวพรุ ร่วมแข่งกีฬาพื้นบ้าน เพื่อสร้างจิตสำนึกป้องกันไฟ เน้น 3 หมู่บ้าน

 

วันที่ 16 มี.ค.60 สำหรับพรุบาเจาะ ครอบคลุมพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดนราธิวาส คือ อ.บาเจาะ อ.ตากใบ อ.สุไหงปาดี อ.สุไหงโก-ลก และ อ.ไม้แก่ง จังหวัดปัตตานี มีเนื้อที่กว่า 9 หมื่นไร่ เคยมีสภาพเป็นป่าพรุถูกน้ำท่วมขังยาวนาน ส่งผลให้พื้นที่กว่า 9 หมื่นไร่ ไม่สามารถใช้ประโยชน์ทำกินได้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระราชดำริ การดำเนินโครงการป่าพรุบาเจาะ-ไม้แก่น ก็สามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังป่าพรุ ต่อมาได้จัดสรรเป็นพื้นที่ทำกินให้กับประชาชนกว่า 3 หมื่นครัวเรือน ทั้งนี้ อำเภอบาเจาะเป็น 1 ใน 3 อำเภอของจังหวัดนราธิวาส ที่มีประชาชนกว่า 1 หมื่นครัวเรือนได้ใช้ประโยชน์เป็นแหล่งทำการเกษตร โดยในปีที่ผ่านๆมา จะเกิดไฟไหม้ป่าพรุเป็นบริเวณกว้างทั้งพื้นที่ อ.บาเจาะ และพรุโต๊ะแดงในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส


ว่าทีร้อยตรี จิรัสย์ ศิริวัลลภ นายอำเภอบาเจาะ จ.นราธิวาส กล่าวถึงมาตรการในการป้องกันและแก้ปัญหาไฟไหม้ป่าพรุในพื้นที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ในปีนี้ว่า ก่อนที่จะเข้าฤดูแล้งได้มีการจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจเพื่อแก้ปัญหาไฟไหม้ป่าพรุพื้นที่ อ.บาเจาะ มีคณะกรรมการเป็นข้าราชการ ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องที่ ปละประชาชน เป็นรูปแบบของประชารัฐได้ประชุมและหารือสักซ้อมเพื่อนำปัญหาไฟไหม้ป่าพรุของปีที่แล้วมาทบทวนข้อบกพร่องเพื่อนำมาปรับปรุงเป็นมาตรการในการดำเนินการในปีนี้ โดยในปีนี้มีมาตรการที่สำคัญ 3 ประการ คือ 1.สร้างความเข้าใจให้กับผู้คนที่ทำกินอยู่ในพื้นที่ป่าพรุพร้อมจัดตั้งเป็นอาสาสมัครป้องกันไฟพรุในพื้นที่ 8 หมู่บ้านที่อาศัยอยู่รอบๆป่าพรุ ซึ่งมีเป้าหมาย 3 หมู่บ้านที่มีไฟไหม้อยู่เป็นประจำ เช่น ตำบลลูโบะสาวอ 3 หมู่บ้าน และตำบลบาเร๊ะใต้ 1 หมู่บ้าน 2.มาตรการในการใช้กฎหมาย โดยออกเป็นประกาศของกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของ อ.บาเจาะ โดยกำหนดมาตรการในทางปกครองว่าในพื้นที่พรุหากมีผู้ทำกินต้องการจะจุดไฟต้องแจ้งไปยังผู้ใหญ่บ้านในท้องที่ก่อนอย่างน้อย 2 วันทำการ ว่าต้องการจุดไฟในพิกัดใดและเป็นบริเวณกว้างแค่ไหนโดยมีใครเป็นผู้ควบคุม ซึ่งผู้ใหญ่บ้านจะเป็นผู้พิจารณาว่ามีความจำเป็นที่จะต้องจุดไฟมากน้อยแค่ไหน แต่ถ้ามองแล้วดูมีความเสี่ยงขยายลุกลามที่จะไม่สามารถควบคุมได้ก็จะไม่ให้จุด และถ้าเป็นการจุดที่เล็กน้อย และห่างไกลจากพื้นที่เกษตรกรรมก็จะให้จุดและมีการควบคุม และ มาตรการที่ 3 เป็นการปลูกฝังจิตสำนึกให้กับผู้ทำกินในป่าพรุโดยการจัดกีฬาชาวพรุเป็นปีที่ 2 ในวันที่ 23 มี.ค.60 นี้ เพื่อดึงพี่น้องในป่าพรุทั้งหมดเข้ามาพบปะร่วมแข่งกีฬาพื้นบ้าน เช่น มวยทะเล แข่งขันการจับเป็ดเทศ แข่งขันจับปลาไหลเพื่อดึงใจให้ตระหนักเห็นความสำคัญที่จะต้องป้องกันไม่ให้เกิดไฟไหม้ป่าพรุ
ส่วนมาตรการในการแก้ไขกรณีที่เกิดไฟไหม้ขึ้นก็มีการวางกำลังแบบเครือข่ายของอำเภอ อบต.3 แห่ง พร้อมองค์กรส่วนท้องถิ่นร่วมกันทำงาน ซึ่งหากมีการรับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้ในจุดใดในส่วนที่ได้รับมอบหมายตามแผนก็จะเข้าไปควบคุมเพลิงโดยมีการประสานกับหน่วยทหารในพื้นที่สามารถเข้าทำงานได้ทันที ซึ่งคาดว่าหากเกิดไฟไหม้ป่าขึ้นในปีนี้ก็จะทำให้สูญเสียน้อยลง และได้รับผลกระทบที่น้อยกว่าในปีที่ผ่านๆมา


 

ภาพ/ข่าว ซาการียา ดอเลาะ

Loading