วันจันทร์, 18 พฤศจิกายน 2567

นครพนม”นายทุนเงินกู้โหด”รุมกระทืบลูกหนี้”

10 ธ.ค. 2020
22

นครพนม“เจ๊ปากแดง”นายทุนเงินกู้สายโหด สั่งผัวลุยยกพวกตบด้วยปืน รุมกระทืบลูกหนี้ปางตาย โวจ่ายรายเดือนเป็นแสน

วันที่ 10 ธันวาคม 2563 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครพนม ได้รับเรื่องร้องทุกข์จากนายสกุล ศรีรักษา อายุ 49 ปี ตำแหน่ง ส.อบต.บ้านคำนกกก หมู่ 1(สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองแวง)ต.หนองแวง อ.บ้านแพง จ.นครพนม ว่า ถูกนายทุนเงินกู้นอกระบบยกพวกมารุมกระทืบ และใช้ปืนพกตบจนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณที่จอดรถงานศพบ้านดอนสะฝาง ต.โพนทอง อ.บ้านแพง เมื่อคืนวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบผู้เสียหาย ซึ่งหลบการตามล่าของนายทุนโหดรายนี้อยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง ในสภาพมีบาดแผลที่ถูกตีด้วยด้ามปืนบริเวณหางคิ้วซ้ายแตกเย็บ 3 เข็ม ใบหน้ายังมีร่องรอยเขียวช้ำ โดยเฉพาะเบ้าตาทั้งสองข้างและโหนกแก้ม โดยมีนางสาววิลารัตน์ อายุ 43 ปี ภรรยาคอยดูแลอย่างใกล้ชิด
นายสกุลผู้บาดเจ็บเปิดเผยรายละเอียดว่า ประมาณเดือนกันยายน 2562 ได้ติดต่อขอกู้เงินนอกระบบจากนายทุนฉายาเจ๊ปากแดง อายุประมาณ 40 ปีเศษ ที่มาตั้งออฟฟิคอยู่ในเขตอำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ จำนวน 20,000 บาท โดยมีเงื่อนไขว่าจ่ายเฉพาะดอกอย่างเดียวไม่รวมเงินต้นวันละ 400 บาท ตนยินยอมส่งดอกมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 เป็นต้นมา

กระทั่งถึงเดือนมีนาคม 2563 เกิดสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาดไปทั่วโลก จังหวัดนครพนมมีคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดในขณะนั้น สั่งล็อกดาวน์จังหวัดห้ามบุคคลภายนอกเข้าในพื้นที่ ส่วนคนในพื้นที่จะออกนอกเขตได้ต้องมีเหตุจำเป็นเท่านั้น ตนจึงโทรศัพท์ไปหาเจ๊ปากแดงขอระงับการส่งเงินดอกเป็นการชั่วคราว เพราะไม่สามารถออกไปหาเงินมาให้ได้ ซึ่งเจ๊เจ้าของเงินกู้ไม่ยอมต้องให้จ่ายดอกต่อเนื่องห้ามขาดเด็ดขาด ตนก็บอกว่าลำพังส่งแต่ดอกวันละ 400 บาท เป็นเวลา 6 เดือน ก็เป็นเงิน 61,200 บาทแล้ว และตนเพิ่งจ่ายเงินต้นไป 5,000 บาท เมื่อเดือนกุมภาพันธ์มานี้เอง ยอดเงินต้นจึงคงค้าง 15,000 บาท ควรผ่อนผันกันบ้าง ซึ่งเจ๊ปากแดงอ้างว่าหยุดจ่ายดอกไม่ได้เพราะต้องจ่ายรายเดือนให้เจ้าหน้าที่เป็นแสน การเจรจาในครั้งนั้นจึงล้มเหลว
เวลาผ่านไป 3 เดือน คือเดือนมิถุนายน 2563 สามีของเจ๊ปากแดงฉายา”ดำ คลองตัน”โทรศัพท์มาถามว่าจะจ่ายหรือไม่ ตนก็ยืนยันคำเดิมว่าของดส่งดอกเบี้ยให้เหลือเพียงเงินต้น 15,000 บาทเท่านั้น จากนั้นก็วางหูทันที จนถึงวันที่ 7 ธันวาคม 2563 ตนได้ไปร่วมงามศพที่บ้านดอนสะฝาง ต.โพนทอง อ.บ้านแพง เวลาประมาณบ่ายสามโมง ได้พบลูกน้องของเจ๊ปากแดงเข้ามาในงาน และเอ่ยถามตนว่าจะจ่ายหรือไม่ ตนตอบกลับไปขอคุยกับเฮียเท่านั้น และลูกน้องคนนั้นก็เดินจากไป อีกไม่นานก็มีลูกน้องนายทุนอีกคนมานั่งประกบด้านหลังได้เอ่ยถามคำเดิมอีกตนก็ตอบไปเหมือนเก่า และก็ยังถามตนต่อว่าคืนนี้จะมาอีกไหม ตนก็ตอบมาสิให้เฮียมาคุยเลย
และในวันเดียวกันเวลาประมาณ 22.00 น. ตนเหนื่อยเพลียจึงมานอนรอภรรยาคือนางสาววิลารัตน์อยู่ในรถ โดยเปิดกระจกด้านขวาระบายลม ปรากฏว่ามีลูกน้องของเจ๊ปากแดงที่พบเมื่อช่วงบ่ายเดินมาประกบข้างรถซ้ายขวา ดึงคอเสื้อตนลงมารุมกระทืบจึงเกิดการชุลมุนกัน ไม่นานก็มีมาสมทบเพิ่มอีก 3 คน รวมเป็น 5 คน หนึ่งในนั้นตนจำได้เป็น”เฮียดำคลองตัน”ผัวของเจ๊ปากแดง ชักปืนพกสั้นออกมาตบที่ใบหน้าด้านซ้าย 1 ครั้ง จนทรุดลงกองกับพื้น พร้อมกับสั่งลูกน้องว่าเอามันให้ตาย ตนจึงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ แต่พวกลูกน้องยังเมาเท้ากระทืบจนมีสภาพสะบักสะบอม ก่อนจะพากันเดินขึ้นรถยนต์ที่จอดติดเครื่องรออยู่ ขับออกไปอย่างไม่สะทกสะท้านท่ามกลางสายตาของผู้คนจำนวนมาก โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย

นายสกุลเล่าต่อว่าหลังภรรยาพาไปทำแผลที่โรงพยาบาลบ้านแพง ก็เข้าไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บ้านแพง ซึ่งนัดให้ปากคำในวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมานี้ และจะนัดมาสอบเพิ่มเติมในวันต่อไป แต่ตนในฐานะผู้เสียหายมีความสงสัยว่า ทำไมพนักงานสอบสวนไม่สอบถามถึงรูปพรรณสัณฐานของพวกคนร้ายแก๊งนายทุนเงินกู้นอกระบบรายนี้ ซึ่งตนจะต้องไปติดตามความคืบหน้าในวันพรุ่งนี้(11 ธค.) ว่าไปถึงไหนแล้ว
นอกจากนี้นายสกุลยังได้นำเรื่องราวของตนที่ถูกผัวของเจ๊ปากแดงยกพวกมารุมกระทืบลงในสื่อโซเซียล ก็มีคนเข้ามาแฉต่อว่าเจ๊ปากแดงไปคุยโวว่าในพื้นที่ 3 -4 จังหวัด ไม่มีใครทำอะไรได้ และยังโม้ว่าในเขตพื้นที่ที่ตนอาศัยอยู่ก็จ่ายรายเดือนๆละ 40,000 บาท เท็จจริงอย่างไรนั้นตนไม่ทราบ และยังมีผู้หญิงรายหนึ่งอยู่อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ ถูกเจ๊ปากแดงจิกหัวลากไปตบต่อหน้าชาวบ้าน ไปแจ้งความแล้วแต่คดีไม่คืบ

เทพพนม รายงาน

Loading