ชุมพร-100164-ตร.ทล.ร่วม ตม.จับพระเขมร 6 รูป ผวาโควิดกลับเขมรไม่พบติดเชื้อ
ข่าวโดย นายสาธิต ศรีหฤทัย จ.ชุมพร
เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 9 ม.ค.64 พ.ต.ต.อัศวิน พันธุ์วงษ์ สว.ส.ทล.4 กก.2 ชุมพร ร.ต.อ.วสันต์ ตราโต สว.(ป) ร.ต.ท.ชาตรี รอง สว.(ป) ร.ต.ต.วิมล แกวชู รอง สว.(ป) พ.ต.ท.ชนกฤติ พงษ์ศิริ สวญ.ตม.จว.ชุมพร พ.ต.ต.สันติ มณีรัตน์ สว.ตม.จว.ชุมพร ร.ต.ท.จักรกริช รอง สว.ตม.ภ.จว.ชุมพร ควบคุมตัวพระภิกษุสงฆ์สัญชาติกัมพูชาจำนวน 7 คน คือ พระสมชาย อายุ 36 ปี พระดี อายุ 36 ปี พระรัตนะ อายุ 27 ปี พระที อายุ 30 ปี พระหลง อายุ 32 ปี พระจัน ดารา อายุ 29 ปี ไปที่วัดเกาะแก้ว ตำบลวังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร เพื่อทำการสึกเนื่องจากถูกดำเนินคดีมีความผิดตามกฎหมายอาญา โดยมี พระมหาชัยศิลปะ ชยโชติ เจ้าคณะตำบลวังไผ่ ทำการสึกพระสงฆ์ชาวกัมพูชาทั้ง 6 รูป ดังกล่าว
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ชุดจับกุมได้นำรถยนต์วิทยุตรวจการณ์ 2409 สถานีตำรวจทางหลวงชุมพร ออกตรวจในพื้นที่รับผิดชอบตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา กระทั่งพบรถยนต์นั่งส่วนบุคคลยีห้อ เชฟโลเลต สีขาว ทะเบียน 7ทม.-7806 กรุงเทพมหานคร ขับมาถึงบริเวณถนนเพชรเกษมช่องทางขาขึ้น หลัก กม.ที่463-464 ตำบลท่าแซะ จ.ชุมพร ท่าทีมีพิรุธจึงเรียกตรวจสอบ ทราบคนขับชื่อ นายวิสร ไชยพูล อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 หมู่ 3 ตำบลฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ส่วนในรถมีพระภิกษุนั่งมาด้วยจำนวน 6 รูป จึงขอตรวจสอบเอกสารเนื่องจากเป็นช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทางคณะสงฆ์ได้มีข้อกำหนดห้ามพระสงฆ์ทุกรูปเดินทางออกจากวัด แต่ปรากฎว่าทั้งหมดเป็นพระสงฆ์ชาวกัมพูชา และแต่ละรูปมีเพียงเอกสารใบสุทธิพระสงฆ์ที่บวชในประเทศกัมพูชาเท่านั้น ไม่มีพาสปอร์มและเอกสารการเข้าประเทศไทยแต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบในย่ามของพระสงฆ์แต่ละรูป มีเงินรูปละหลักพันถึงหลายพันบาท ส่วนใหญ่เป็นธนบัตรฉบับละ 20 บาท ส่วนคนขับรถมีเงินสดจำนวนกว่า 6 พันบาท ส่วนใหญ่เป็นธนบัติฉบับละ 20 บาทเช่นเดียวกัน จากการสอบสวนทราบว่าพระภิกษุสงฆ์ทั้ง 6 รูป ลักลอบเข้าประเทศไทยมานานกว่า 3 ปีแล้ว โดยมาอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งแถวแขวงคลองขวาง เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร ที่มีพระสงฆ์ชาวกัมพูชาเข้ามาขอจำวัดอยู่จำนวนมาก
จากนั้นเมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมาพระสงฆ์ชาวกัมพูชาทั้ง 6 รูป ได้เดินทางไปอยู่ที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่งใน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อออกบิณฑบาตและรับเงินบริจาค ต่อมาได้มีโควิด-19 ระบาดรอบใหม่ ทำให้อยู่อย่างลำบาก และเห็นว่ามีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงหนักกว่าครั้งแรก จึงต้องการกลับประเทศบ้านเกิดเนื่องจากมีการแพร่ระบาดน้อยกว่าในประเทศไทย จึงได้ติดต่อว่าจ้างให้นายวิสาร ไชยพูล ขับรถมารับในราคา 1 หมื่นบาท จ่ายล่วงหน้าไปก่อนแล้ว 6 พันบาท ให้นำไปส่งที่วัดแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร เพื่อรอโอกาสเดินทางต่อกลับไปยังประเทศกัมพูชา จนมาถูกตำรวจจับกุมได้ดังกล่าว
หลังทำการสึกพระภิกษุสงฆ์ชาวกัมพูชาทั้ง 6 รูป เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าแซะ ท้องที่จับกุมเพื่อดำเนินคดีในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนนายวิสาร ไชยพูล ขับรถถูกดำเนินคดีในข้อหาให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้บุคคลต่างด้าวพ้นจากการถูกจับกุมตามมาตรา 64 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522
ด้านนายแพทย์จิรชาติ เรืองวัชรินทร์ สาธารณะสุข(สสจ.)ชุมพร เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ถึงกรณีดังกล่าวว่าชาวกัมพูชาที่ถูกจับกุมทั้ง 6 รายนั้น ทางเจ้าหน้าที่ สสจ.ชุมพร ได้เข้าไปทำการสอบสวนโรคและนำชาวเขมรทั้งหมดไปกักกันที่ทางราชการกำหนดสำหรับบุคคลต่างด้าวในค่ายกองร้อย ตชด.414 ชุมพร ซึ่งจากการสอบสวนโรคชาวต่างด้าวทั้ง 6 คนพบว่าไม่ได้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง แต่ก็จัดอยู่ในกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวัง ซึ่งขณะนี้ผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ของชาวต่างด้าวทั้ง 6 รายนั้น ผลออกมาแล้วเป็นลบไม่มีเชื้อแต่อย่างใด แต่อย่างไรก็ตามจึงต้องกักตัวชาวต่างด้าวทั้งหมดไว้ในสถานที่กักกันต่อไปอีก 14 วัน ส่วนการดำเนินคดีทางกฎหมายก็ต้องเป็นหน้าที่ของฝ่ายตำรวจต่อไป
นายสาธิต ศรีหฤทัย/ชุมพร