พะเยา-ชาวบ้านร้องสื่อวอนให้ย้ายเสาโทรศัพท์ เชื่อทำให้หญิงแท้ง 5 ราย แถมเครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหายเนื่องจากฟ้าฝ่าบ่อย ไร้คนรับผิดชอบ
วันนี้(23 มกราคม 64 ) เวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ บ้านใหม่เจริญไพร ม.9 ซ.6 ต.ฝายกวาง อ.เชียงคำ จ.พะเยา หลังจากที่มีชาวบ้านเข้ามาร้องเรียนกับสื่อว่า ต้องการให้ย้ายเสาสัญญาณโทรศัพท์ออกไปให้ไกลจากชุมชน เหตุทำให้ผู้หญิงมีครรภ์แท้งบุตร อายุครรภ์อยู่ที่ระหว่าง 5 – 6 เดือน จำนวน 5 ราย อีกทั้งทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกรอบเสาสัญญาณ มีอาการใจสั่นประสาทเสีย จนเป็นผู้ป่วยจิตเวชหลายราย โดยไร้เงาเจ้าของเครือข่ายมาเยียวยา
นายอิ่นคำ ไกลถิ่น อายุ 60 ปี และนางจิ๋ม ไกลถิ่น อายุ 55 ปี ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า เสาสัญญาณโทรศัพท์ดังกล่าว ตั้งอยู่ในพื้นที่นี้เป็นระยะเวลากว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ของ นายสอน ขอสงวนนามสกุล คนในหมู่บ้าน ซึ่งปัจจุบันได้ย้ายบ้านไปอยู่ในสวนท้ายหมู่บ้านห่างจากเสาโทรศัพท์กว่า 3 กม. ก่อนหน้าที่จะมาทำการติดตั้งก็ไม่เคยมีการทำประชาคมมาก่อน และ มีการต่อสัญญาพร้อมทำการปรับปรุงแก้ไขเสาสัญญาณต่อเนื่องตลอด สิ่งที่ชาวบ้านเดือดร้อนมาตลอดคือ เวลาเกิดฝนฟ้าคะนองฟ้าผ่ามาครั้งใด เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านของชาวบ้านจะเสียหายใช้การไม่ได้ จนต้องทิ้งเป็นเศษขยะ อีกทั้งตั้งแต่ติดตั้งมีเสาโทรศัพท์เข้ามารตั้งในพื้นที่มีหญิงตั้งครรภ์ที่อยู่บริเวณรอบๆเสาฯแท้งลูกไปแล้วถึง 5 คน จนชาวบ้านที่แต่งงานใหม่ๆต้องพากันย้ายหนีไปอยู่ที่อื่นกันหมด ตนเองและภรรยาก็ป่วยด้วยอาการใจสั่น มึนงง สับสนจนต้องเข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยจิตเวช รับประทานยามาจนถึงทุกวันนี้ ทั้งนี้ก็รวมไปถึงเพื่อนบ้านที่อาศัยใกล้กับเสาสัญญาณฯอีกหลายๆคน
ด้าน ส.อ.รัตนชัย อินทะจักร อายุ 29 ปี ค่ายขุนจอมธรรม ร.17 พัน 4 อ.เชียงคำ เผยว่า ตู้คอลโทรลที่อยู่ติดกับเสาฯก็มีเสียงดังมากโดยเฉพาะเวลากลางคืน จะครางหึ่งๆจนนอนแทบไม่ได้ อีกทั้งภรรยาตนกำลังท้อง ต้องย้ายครอบครัวไปอาศัยในตัวเมืองเชียงคำ เพราะกลัวว่าภรรยาจะแท้งลูกเหมือน หญิงมีครรภ์คนอื่นๆในหมู่บ้าน ซึ่งก็ตรงกับคำให้สัมภาษณ์ของนางอุ่นเรือน ไกลถิ่น อายุ 70 ปี ซึ่งกล่าวว่าลูกสาวก็เป็น 1ใน 5 ของหญิงตั้งครรภ์ที่แท้งและเคยแท้งถึง 2 ครั้ง จุดที่น่าสังเกตคืออายุครรภ์ของหญิงแท้งจะประมาณ 5-6 เดือนทั้งหมด
กลุ่มชาวบ้านกล่าวต่อไปว่า เคยไปพูดคุยกับ นายสอน เจ้าของพื้นที่กลับไม่ได้คำตอบใดๆ โดยนายสอนปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น อีกทั้งนายสอนเอง ก็ไม่ได้อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน แต่กลับไปปลูกบ้านอยู่ที่สวนท้ายหมู่บ้านซึ่งไกลจากพื้นที่ตั้งเสาฯกว่า 3 กิโลเมตร จากนี้ไป ชาวบ้านก็จะทำหนังสือร้องเรียนเข้าแจ้งกับศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเชียงคำ ในวันอังคารที่ 26 มกราคม 64 เพื่อขอให้ช่วยเหลือในการย้ายเสาสัญญาณฯออกไปให้ห่างจากชุมชนต่อไป
(ภาพ/ข่าว สราวุธ ตั้งประเสริฐ พะเยา )
