วันอาทิตย์, 17 พฤศจิกายน 2567

สุพรรณบุรี”สนธิกำลังลุยตรวจสถานประกอบการ”ป้องกันการระบาดโควิด-19

 

 

เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 2 ก.พ.64 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผู้บังคับดารตำรวจภูธร จ.สุพรรณบุรี , พ.อ.เชาว์ ธีระชาติ หัวหน้าฝ่ายการข่าว มทบ.17 จ.กาญจนบุรี ปฏิบัติหน้าที่ หัวหน้าชุด ชป.จว.ส.พ. (มทบ.17) , พ.ต.อ.กฤศ จันทร์สว่าง ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี ฝ่ายปกครอง กอ.รมน. และ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข สนธิกำลังร่วมกันปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ ตรวจสอบสถานบริการและสถานประกอบการที่ฝ่าฝืนหรือไปฏิบัติตามข้อกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉิน (โควิด-19) ณ บริเวณหน้า กก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี โดยมีกำลังกว่า 150 นาย แบ่งกันออกตรวจสอบเพื่อป้องกันการฝ่าฝืน และ กระทำผิด คำสั่ง จ.สุพรรณบุรี และ พรบ.ควบคุมโรคติดต่อ ในสถานการณ์โควิด-19 หลังมีการผ่อนคลายมาตรการบางอย่าง เพื่อให้การควบคุมโรคมีประสิทธิภาพ จึงมีการสนธิกำลังออกปฏิบัติการ

โดยได้เข้าตรวจสอบสถานบริการ ผับ บาร์ รวมถึงสุ่มตรวจบัตรประชาชน ของนักท่องเที่ยว เพื่อป้องกัน บุคคลอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้าใช้บริการ และตักเตือนสถานประกอบการ ที่ปล่อยให้ลูกค้านั่งชิดติดกันมากเกินไป ไม่เว้นระยะห่างตามมาตรการทางสาธารณสุข ซึ่งได้ว่ากล่าว ตักเตือนเจ้าของร้าน พร้อมสั่งให้ปรับปรุงการจัดที่นั่งใหม่ พร้อมขู่หากมาตรวจสอบเจออีกครั้ง จะเสนอหน่วยงานออกคำสั่งปิดให้บริการ

 

ซึ่งทางด้าน พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผู้บังคับดารตำรวจภูธร จ.สุพรรณบุรี กล่าวว่าในส่วนของมาตรการป้องกันโควิด-19 ในจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็น 1ใน 20 จังหวัด ที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดที่ควบคุม มีการผ่อนผันมาตรการ เริ่มเปิดสถานบริการได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.เป็นต้นมา ทางตำรวจภ.จว.สุพรรณบุรี ได้รับอนุญาตจากนายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผวจ.สุพรรณบุรี ให้ช่วยจัดกำลังตรวจตราในพื้นที่บริการของเรา ให้ดำเนินการตามมาตรการการป้องกัน การเว้นระยะห่างการตรวจ คัดกรองโรคก่อนเข้าไปใช้บริการ และกำชับให้ ปิดตามเวลาไม่เกิน 23:00 น รวมถึงประชาสัมพันธ์ การดื่มสุราก็ต้องปฏิบัติตามที่กำหนด และต้องห้ามใช้เหยือก แก้วหรือสิ่งของร่วมกัน รวมถึงห้ามเต้นรำด้วย

ซึ่งการสนธิกำลังบูรณาการออกร่วมทำงานในคืนนี้เราจะดูเรื่องการตักเตือนและดูภาพรวมให้ทุกคนอยู่ในระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ถ้าฝ่าฝืนทำผิดกฏหมาย ก็ต้องจับกุมดำเนินคดี แต่ถ้าเป็นความผิดเกี่ยวกับเรื่องมาตรการที่ยังไม่เคร่งครัด เช่นการตรวจโรคหรือการเว้นระยะห่างไม่เพียงพอ การไม่สวมใส่หน้ากากอยามัยในที่สาธารณะ ก็คงตักเตือน แล้วถ้าเตือนแล้วไม่เชื่อฟังก็คงทำเรื่องเสนอเพื่อปิดสถานบริการดังกล่าวต่อไป

ทีมข่าวสุพรรณบุรี รายงาน

Loading