กาญจนบุรี อดีตแฟนหนุ่มตามง้อขอคืนดีแฟนสาว ระรานไม่เลิกรา สุดท้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงใส่ร้านเสริมสวยที่แฟนพักอยู่ แต่น้องสะใภ้มารับเคราะห์แทน คมกระสุนเข้ากลางหลังขณะอุ้มลูก 2 เดือน หนีตาย เจ็บสาหัส
วันนี้ 7 ก.พ.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.ณรงค์ ขำสุนทร รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ท่าม่วง ได้รับแจ้งว่า มีเหตุยิงกันภายในร้านเสริมสวย เลขที่ 944/22 หมู่3 ต.ท่าม่วง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย จึงรายงานให้ พ.ต.อ.สุชาย เทศัชบุตร ผกก.สภ.ท่าม่วง ทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพขุนรัตนาวุธ เข้าสนับสนุน
ในที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ที่เปิดให้เช่า ซึ่งจุดเกิดเหตุเปิดเป็นร้านเสริมสวย พบว่า ญาติได้นำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 ไปก่อนหน้านี้แล้ว ทราบชื่อคือ นางสาวชนิภรณ์ พรมมิ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 195 หมู่ 16 ต.หนองปรือ อ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นน้องสะใภ้ของเจ้าของร้าน และทำงานอยู่ที่ร้านเกิดเหตุด้วย สภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 380 เข้าที่กลางหลัง จำนวน 1 นัด กระสุนฝังใน ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นชาย หลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบ ปลอกกระสุนปืนขนาด 380 ตกอยู่ จำนวน 4 ปลอก และร่องรอยของคมกระสุนที่บริเวณเสาหน้าบ้าน และกระจกหน้าร้าน
เบื้องต้น น.ส.พรรณทนา แหวนครุฑ อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นอดีตแฟนของผู้ก่อเหตุ และอยู่ในเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ เล่าให้ฟังว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายอมรเทพ ลิ้มเจริญ ซึ่งเป็นอดีตแฟนเก่า ที่ตนเพิ่งจะบอกเลิกราไปได้ประมาณ 1 สัปดาห์เศษ สาเหตุเกิดจากระหว่างที่คบกัน ตนมักจะถูก นายอมรเทพ ทุบตีและทำร้ายร่างกายมาโดยตลอด จนตนเองทนไม่ไหว จึงตัดสินใจบอกเลิก ที่ผ่านมา นายอมรเทพ พยายามตามง้อขอคืนดีตน และตามราวีระราน รวมทั้งข่มขู่ทั้งตนและครอบครัวมาตลอด และเคยบุกไปฉุดตนมาแล้วครั้งหนึ่ง ที่หน้าโรงงานที่ตนทำงานอยู่ หลังจากตนเลิกงานและกำลังจะกลับบ้าน
และล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ม.ค.64 ได้บุกมาปีนร้านเสริมสวยที่เกิดเหตุที่ตนพักอาศัยอยู่กับพ่อ พี่สาว น้องชาย และน้องสะใภ้ รวมทั้งหลานสาว อายุ 2 เดือน ตนพร้อมพี่สาวจึงได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ท่าม่วง เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดตนและอดีตแฟนหนุ่มไกล่เกลี่ยในวันที่ 10 ก.พ.ที่จะถึงนี้ แต่ปรากฏว่า ขณะเกิดเหตุตนได้นั่งกินหมูกระทะอยู่ภายในร้านกับน้องชายและน้องสะใภ้ ซึ่งน้องสะใภ้ได้อุ้มลูกอายุ 2 เดือนมานั่งรวมโต๊ะด้วย ส่วนพ่อนอนอยู่ชั้นบน โดยฝ่ายชายได้ขี่รถจักรยานยนต์บุกมาหาที่ร้าน จากนั้นได้เปิดประตูเข้าไป พร้อมกับตะโกนถามว่า วันที่ 10 ทำไม ตนก็ได้อธิบายไปว่า ทางตำรวจนัดไกล่เกลี่ย แต่อีกฝ่ายไม่พอใจ ก่อนจะเดินกลับออกมาคร่อมรถ จยย.ที่จอดอยู่หน้าร้าน พร้อมกับเสียงดังเอะอะโวยวาย จากนั้นก็ชักอาวุธปืนออกมายิงขู่ 1 นัด ซึ่งหลังจากได้ยินเสียงปืนดังขึ้น พวกตนทั้งหมดก็พยายามวิ่งหลบเข้าหลังร้าน ระหว่างนั้น นายอมรเทพ ก็ได้ขี่ จยย.ออกไป และวกกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับใช้อาวุธปืนยิงเข้ามาในร้าน กระสุนทะลุกระจกไปถูกน้องสะใภ้ที่กำลังอุ้มลูกหนี แต่หนีไม่พ้น จึงถูกคมกระสุนยิงเข้าที่กลางหลัง จนต้องมารับเคราะห์แทนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
อย่างไรก็ตามล่าสุด พ.ต.อ.สุชาย เทศัชบุตร ผกก.สภ.ท่าม่วง พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ท่าม่วง และชุดสืบสวนภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อหาเบาะแสของคนร้ายรายนี้ว่าจะหลบหนีไปซ่อนตัวที่ใด ซึ่งจะได้ติดตามจับกุมตัว นายอมรเทพ ผู้ก่อเหตุมาทำการสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ปรีชา ไหลวารินทร์ / กาญจนบุรี