วันจันทร์, 18 พฤศจิกายน 2567

บิ๊กธีร์”นำทีมสืบสวนรวบมือปืน

26 ก.พ. 2021
33

บิ๊กธีร์ !!! นำทีมสืบสวน รวบมือปืนขับจักรยานยนต์ประกบยิงปู่-หลานชายดับ

ที่สภ.แก่งคอย จว.สระบุรี พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง รอง ผบช.ภ.1/ รอง ผอ.ศปอร.ภ.1 พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม จตร.ปฏิบัติราชการ ภ.1(สส.) พล.ต.ต.พลทิต โชยรส ผบก.สส.ภ.1 พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.สระบุรี ได้สั่งการเร่รัดให้ พ.ต.อ.เลิศชาย จำปาทอง,พ.ต.อ.วรชาติ แสนคำ รอง ผบก.สส.ภ.1 พต.อ.กิตติ สุขสภักดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี พ.ต.อ.จิรัฏฐ์ ดอกไม้ ผกก.สส.ภ.จว.สระบุรี พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ แสนวงศ์สิริ ผกก.สภ.แก่งคอย พ.ต.อ.อาสาฬห์ ถมยา ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.1 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.1 กก.สส.ภ.จว.สระบุรี และ สภ.แก่งคอยพร้อมเจ้าหน้าที่ที่ส่วนเกี่ยวข้องร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหา และ 64จำนวน 3 คน นายปรีดา พยุงวงค์ อายุ 36 ปีตามหมายจับศาลจังหวัดสระบุรีที่ 33/2564 นายนิพนธ์ สาตี อายุ 38 ปี 34/2564 ลงวันที่ 22 ก.พ.64 และนายสุชาติ ทำทรัพย์ อายุ 35 ปีพร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด.38 จำนวน 1 กระบอก และรถจักรยานยนต์ ที่ใช้ก่อก่อเหตุ

พล.ต.ต.สุภธีร์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2563 เวลาประมาณ 18.36 น.ขณะที่นาย กฤษณะ หรั่งกรุ่น อายุ 23 ปีขับขี่รถจักรยานยนต์อยู่ภายในซอยวัดกะเหรี่ยงคอม้า ต.ชะอม อ.แก่คอย จว.สระบุรี โดยมี นายบุญส่ง วิจิตโท อายุ 70 ปี นั่งซ้อนท้ายมาด้วยได้มีคนร้ายจำนวน 2 คนขับรถจักรยานยนต์ตามมาประกบแล้วใช้อาวุธปืนขนาด.38 ยิงนายบุญส่ง วิจิตโท จากทางด้านหลังเป็นเหตุให้กระสุนทะลุไปถูกนายกฤษณะ ผู้ขับขี่ เสียชีวิต ส่วน นายบุญส่งผู้บาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลแก่งคอย
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.2 บก.สส.ภ.1 ได้ลงพื้นที่บูรณากำลังร่วมกับ กก.สส.ภ.จว.สระบุรี และ สภ.แก่งคอย ร่วมกันทำการสืบสวนสอบสวนจากวัตถุพยานหลักฐานต่างๆจนกระทั่งทราบว่านายปรีดา หรือ แอม พยุงวงค์ และ นายนิพนธ์ หรือ ตั้ม สาตี เป็นผู้ลงมือก่อเหตุในคดีนี้ จึงรวบรวมพยานหลักฐานและขอให้ศาลจังหวัดสระบุรีออกหมายจับนายปรีดาหรือ แอม และนายนิพนธ์ หรือ ตั้ม ตามหมายจับที่ 33/2564 และ 34/2564 ลงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 ตามลำดับไว้ในความผิดฐาน”ร่วมกันพยายามฆ่า และ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

พล.ต.ต.สุภธีร์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนเพิ่มเติมของทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทราบว่า นายนิพนธ์ หรือ ตั้ม และนายปรีดาหรือแอม มีพฤติการณ์ในการลักลอบจำหน่ายยาเสพติดและมีเครือข่ายยาเสพติดกระจายอยู่ในพื้นที่ อ.แก่งคอย จว.สระบุรี อ.บ้านนา จว.นครนายก รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อให้การรวบรวมพยานหลักฐานมีประสิทธิภาพและเป็นการกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ จึงกำหนดให้มีการปิดล้อมตรวจค้นและจับกุมบุคคลนาย นิพนธ์ หรือ ตั้ม และนาย ปรีดาหรืแอม และกลุ่มบุคคลเป้าหมายในเครือข่ายยาเสพติดที่เกี่ยวข้องโดยมีการกำหนดเป้าหมายในการเข้าตรวจค้นรวม 13 จุดในเขตพื้นที่ อ.แก่งคอย จว.สระบุรี และ อ.บ้านนา จว.นครนายก ผลการตรวจค้น สามารถจับกุมตัวนายนิพนธ์ หรือ ตั้ม และ นายปรีดาหรือ แอม พยุงวงค์ บุคคลตามหมายจับพร้อมตรวจยึดอาวุธปืนขนาดต่างๆจำนวน 8 กระบอก รถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุไว้ได้

พล.ต.ต.สุภธีร์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวน นายนิพนธ์ หรือ ตั้ม ได้ให้การรับสารภาพว่าตนและนายปรีดาหรือ แอม ได้ร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนายบุญส่ง จริงโดย นายปรีดาทำหน้าที่ขับรถจักรยานยนต์ ตนนั่งซ้อนท้ายและได้ใช้อาวุธปืนขนาด.38 ยิง นายบุญส่งไปจำนวน 1 นัด
ส่วนสาเหตุมาจากก่อนหน้านี้ตนได้ติดต่อซื้อยาเสพติดกับพ่อค้ายารายหนึ่งแต่กลับถูกเด็กส่งยาเชิดเงินหลบหนีไปทำให้พ่อค้ายาเสพติดเข้าใจว่าพวกตนซื้อยาโดยไม่จ่ายเงิน ก่อนเกิดเหตุตนได้ข่าวมาว่าพ่อค้ายารายนั้นโกรธแค้นมากจนไปจ้างนายบุญส่ง มือปืนมาเพื่อฆ่าแต่ตนทราบเรื่องเสียก่อน จึงได้ชิงลงมือยิงนายบุญส่ง ก่อนแต่วิถีกระสุนทะลุจากร่างนายบุญส่งไปถูกนายกฤษณะ จนถึงแก่ความตาย หลังเกิดเหตุตนและนายปรีดาได้พากันหลบหนีไปกบดานอยู่ที่จังหวัดหนองคายมาสักระยะหนึ่งเมื่อเรื่องเงียบตนและนายปรีดาจึงได้ย้อนกลับมาบ้าน จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนำหมายศาลเข้าตรวจค้นจับกุมได้ในที่สุดและได้พาเจ้าหน้าที่ไปทำการตรวจยึดอาวุธปืนขนาด .38 ยี่ห้อ สมิทแอนด์เวสสัน ที่ตนใช่ก่อเหตุยิงนายบุญส่ง แล้วนำไปซุกซ่อนไว้ในสวนใกล้บ้านนายปรีดาเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง

ภายหลังการแถลงข่าว นาง สายชล จันทร์สา อายุ 50 ปี มารดาของนาย กฤษณะ (ผู้เสียชีวิต)ได้นำช่อดอกไม้มามอบให้ พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง รอง ผบช.ภ.1/ รอง ผอ.ศปอร.ภ.1 เพื่อเป็นการขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน บก.สส.ภ.1 ที่สามารถคลี่คลายคดีได้อย่างรวดเร็วและติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาลงโทษตามกฎหมายได้ในที่สุด

ด้าน นางสายชล กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ไม่ใช่ใครอื่นเป็นญาติๆกันทั้งนั้นและที่ผู้ก่อเหตุให้การว่า นายบุญส่ง คิดจะทำร้ายพวกเขานั้นไม่น่าจะเป็นความจริง ตัวนายบุญส่งนั้นเป็นคนชอบคุยปากสว่างไปก่อน อาจทำให้เกิดการเข้าใจผิด ส่วนเรื่องลงโทษปล่อยให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการไป ตนไม่มีอะไรจะฝากไปถึงผู้ต้องหาหรอก

จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้คุมตัว นายนิพนธ์ หรือ ตั้ม และ นายปรีดา หรือ แอม ไปชี้ที่จุดเกิดเหตุทำแผนประกอบคำรับสารภาพท่ามกลางสายตาประชาชนในหมู่บ้านที่ทราบข่าวได้พากันมามุงดูเป็นจำนวนมาก โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการพิเศษ บก.สส.ภ.1 คอยคุ้มกันอย่างแน่นหนาเสร็จแล้วได้รับควบคุมตัวขึ้นรถสายตรวจ กลับมาที่ สภ.แก่งคอย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Loading