วันเสาร์, 23 พฤศจิกายน 2567

โชคดี”หนีตายหวุดหวิด

กาญจนบุรี โชคดีหนีตายได้หวุดหวิดสภาพอากาศร้อนจัดสองสามีภรรยามาเที่ยวกาญจน์ ขากลับขับรถอยู่ดีๆเกิดเพลิงไหม้ห้องเครื่องรถหรูกลางถนน ก่อนลามวอดทั้งคัน

หนีตายหวุดหวิดสภาพอากาศร้อนจัดสองสามีภรรยามาเที่ยวดาญจน์ ขากลับขับรถอยู่ดีๆเกิดเพลิงลุกไหม้ห้องเครื่องรถหรูกลางถนนสายเลี่ยงเมืองกาญจนบุรี ก่อนลุกลามไหม้รถวอดทั้งคัน ทำการจราจรติดขัดนานกว่าชั่วโมง โชคดีสามีภรรยาเจ้าของรถหนีเอาชีวิตรอดได้หวุดหวิด

วันนี้ 28 ก.พ. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงลุกไหม้รถยนต์ บนถนนสายเลี่ยงเมืองกาญจนบุรี ช่วงบริเวณใกล้เคียงบริษัท เสริมสุข หลังรับแจ้งจึงประสานรถดับเพลิงพร้อมเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองปากแพรกและเทศบาลตำบลท่ามะขาม นำรถเข้าฉีดน้ำควบคุมเพลิงที่กำลังลุกไหม้ แต่เนื่องจากช่วงเกิดเหตุเพลิงกำลังโหมลุกไหม้อย่างหนักและยังลามไปไหม้ป่าหญ้าที่อยู่ข้างทาง ทำให้การควบคุมเพลิงทำได้ยาก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องปิดการจราจร เพื่อให้เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงให้สงบเรียบร้อยก่อน

โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงให้สงบลงได้ แต่รถก็ได้รับความเสียหายทั้งคัน จากการสอบถาม นายนายบรรลือศักดิ์ แซ่ตั้ง อายุ 63 ปี ชาวกรุงเทพมหานครฯ ซึ่งเป็นเจ้าของรถหรู หมายเลขทะเบียน 3กด 7961 กรุงเทพมหานครฯ ซึ่งถูกไฟไหม้เสียหายทั้งคัน ให้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนและภรรยาพร้อมด้วยกลุ่มเพื่อนๆซึ่งเดินทางมาจากกรุงเทพฯและมาล่องแพพักผ่อนที่อำเภอศรีสวัสดิ์ กำลังขับรถมุ่งหน้ากลับกรุงเทพฯ โดยเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ จู่ๆรถของตนก็เกิดอาการเร่งเครื่องไม่ขึ้น ตนพยายามฝืนขับไปต่อ เพื่อจะเข้าไปเช็คอาการของรถในปั๊มน้ำมัน แต่จู่ๆภรรยาของตน ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆก็สังเกตเห็นว่า มีควันสีขาวพุ่งออกมาจากใต้ท้องรถ ตนจึงพยายามควบคุมรถเข้าจอดข้างทาง

จากนั้น ได้รีบไปเปิดฝากะโปรงรถดูและพบว่าใต้ฝากะโปรงรถเริ่มมีเพลิงลุกไหม้ห้องเครื่อง ตนพยายามหาน้ำมาราดเพื่อดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้แต่ก็ไม่เป็นผล เพลิงยิ่งทวีความรุนแรงและลุกลามไหม้รถทั้งคันอย่างรวดเร็ว ตนและภรรยาจึงตัดสินใจทิ้งรถ วิ่งหนีเอาชีวิตรอด ก่อนที่จะมีพลเมืองดีโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยฉีดน้ำดับเพลิงได้สำเร็จ แต่รถของตนก็ถูกเพลิงไหม้เหลือเพียงแต่ซากเท่านั้น เบื้องต้นตนไม่แน่ใจว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้มาจากอะไร แต่เมื่อดูร่องรอยบนถนนพบว่า รถของตนมีรอยน้ำมันเครื่องรั่วมาเป็นระยะทางหลายร้อยเมตร เมื่อประกอบกับสภาพอากาศของจังหวัดกาญจนบุรีในช่วงกลางวันที่ร้อนจัด จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม คงจะต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม นับว่ายังโชคดีที่เหตุการณ์ในครั้งนี้ ตนและภรรยาสามารถรอดชีวิตมาได้ โดยไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ

ทีมข่าวภูมิภาค / กาญจนบุรี

Loading