ชุมพร-สลด ดช.ขวบครึ่ง อยู่กับพ่อ แม่เลี้ยง เลือดคั่งสมองตาย
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 3 มีค.64 ที่วัดมุจลินทร์ หมู่ที่ 1 ต.ทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร นส.วัลภา แก้วสวี พมจ.ชุมพร เดินทางไปสอบถามรายละเอียด กรณีมีข่าวลือทั้งอำเภอว่า มี เด็กอายุเพียงขวบครึ่ง ถูกคนใกล้ชิดทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต
ที่ศาลาวัดมุจลินทร์ พบมีการจัดงานบำเพ็ญกุศลศพ ดช.ภานุวัฒน์ หรือ น้องต้นกล้า พลวิชิต อายุ 1ปี 6 เดือน ลูกชาย ของนางอาพาพอน นาคลอด อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 63/7หมู่ที่ 1 ต.ทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร อาชีพ รับจ้าง กับ นายวิชิต พลวิชิต อายุ 37 ปี ผู้เป็นพ่อ นส.วัลภาได้สอบถามรายละเอียด ได้การว่า เมื่อวันที่ 28 กพ.64 เวลา 01.00 น ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จาก แพทย์ รพ.ชุมพรเขตต์อุดมศักดิ์ว่า ดช.ภานุวัฒน์ ได้รับบาดเจ็บมีอาการโคม่า จากเลือดคั่งในสมองจำนวนมากขอให้รีบไปดูใจ แต่ตนเองพักอยู่ที่ จ.สุราษฏร์ธานี เมื่อเดินทางไปตอนเช้าพบว่า น้องต้นกล้าเสียชีวิตแล้ว แพทย์บอกว่าเกิดจากอาการเลือดคั่งในสมอง มาถึง รพ.ชุมพร ในช่วงดึกของคืนวันที่ 27 กพ. แพทย์พยายามช่วยชีวิตแต่ไม่ทัน เนื่องจากอาการหนักมาก โดยพ่อของน้องต้นกล้า บอกว่า น้องต้นกล้าตกจากที่สูงภายในบ้าน ที่อาศัยกับนายวิชิตพ่อและนางอุ้ม อายุประมาณ 30 ปีแม่เลี้ยง เมื่อออกมาหน้าห้องฉุกเฉิน พบ นายวิชิต กับ นางอุ้ม ที่อยู่ในอาการหน้าซีด สอบถามนายวิชิตบอกว่า ตู้ในห้องล้มทับน้องต้นกล้า เมื่อไปดูศพลูก ส่วนที่ร่างกายบริเวณท้ายทอยพบรอยเขียวซ้ำ และ หน้าอกก็พบรอยเขียวซ้ำ จึงนำศพมาตั้งทำบุญที่วัด ท่ามกลางเสียงเล่าลือของเพื่อนบ้านที่อยู่ห้องพักติดกันกับนายวิชิตว่า น้องต้นกล้าถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก และ เสียชีวิต
ต่อมาวันที่ 2 มีค.64 พ.ต.ท.นรินทร์ พุ่มสวัสดิ์ รอง ผกก.ส รับแจ้งเหตุ จึงได้เรียกนายวิชิต และ นางอุ้ม มาสอบปากคำ ทั้งสองให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ทำร้ายน้องต้นกล้า แต่ตำรวจไม่เชื่อ เนื่องจากบาดแผลตามร่างกายและเพื่อนบ้านยืนยันว่า ได้ยินเสียงน้องต้นกล้าร้องไห้หนักและนานมาก จึงได้ให้ หน่วยกู้ภัยทุ่งตะโก นำศพส่ง รพ.ระนองเพื่อชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นางอาพาพอน เล่าว่า มีลูกกับนายวิชิต ด้วยกัน 3 คน เป็นชาย2 หญิง 1 เมื่อ 5 เดือนที่แล้วได้เลิกกับนายวิชิต ได้แบ่งลูกชายคือ ดช.ฤทธิชัย อายุ 7 ขวบ และ ดช.ภานุวัฒน์ หรือ น้องต้นกล้า อายุ 1ขวบ6 เดือน ให้นายวิชิต ไปเลี้ยงดู2คน นายวิชิตไปได้ภรรยาใหม่คือนางอุ้ม น้องต้นกล้าเป็นลูกคนสุดท้อง ส่วนนางอาพาพอนได้สามีใหม่ย้ายไปอยู่ ที่ จ.สุราษฏร์ฯแต่ก็ได้มาเยี่ยมลูกทั้ง2 คนบ่อยครั้ง และจะได้ยินเพื่อนบ้านและ ญาติพี่น้องเล่าให้ฟังว่า ลูกชายทั้งสองถูกทำร้ายร่างกายอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากได้ยินเสียงร้องไห้ แทบทุกทุกวัน ทั้งกลางวันกลางวคืนและได้ยินเสียงทุบตี ในตอนกลางวันเด็กทั้งสองจะถูกขังแต่เพียงลำพังในห้องพัก มีเพื่อนบ้านสงสารแอบเอาขนมส่งให้ทางช่องประตูอยู่เสมอ จนกระทั่งในคืนวันที่ 28ได้ยินเสียงทุบตีและเสียงร้องของเด็กทั้งสอง จนกระทั่งมีรถฉุกเฉินของหน่วยกู้ภัยทุ่งตะโกมารับตัวไปส่ง รพ.ทุ่งตะโกและ ส่งต่อ รพ.ชุมพรจนเสียชีวิตในที่สุด ส่วนตำรวจยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ เนื่องจากยังรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำเพิ่มเติม ทางด้านนส.วัลภา แก้วสวี พมจ.ชุมพร กล่าวว่า “ได้รายงานให้ นายธีระ อนันตเสรีวิทยา ผวจ.ชุมพร ทราบ ผวจ.ชุมพรได้สั่งการให้ติดตามคดีและให้ความช่วยเหลือ อย่างถึงที่สุด”
นายสาธิต ศรีหฤทัย/ชุมพร