กาญจนบุรี ชุดปฏิบัติการทางเรือ ฉก.ลาดหญ้าฯ ได้ทำการจับกุม 2 ชาวมอญ ผู้กระทำความผิด (นำพา)ลักลอบนำพาแรงงานต่างด้าว เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนรับทำหน้าที่คอยดูต้นทางให้ขบวนการขนแรงงานต่างด้าว ทางเรือ ในพื้นที่ อ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ตำรวจเตรียมขยายผลผู้จ้างวาน
เมื่อดึกวันนี้ 23 มี.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทหารชุดปฏิบัติการทางน้ำประจำจุดตรวจ วัดวังก์วิเวการาม ของหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ ได้รับแจ้งจาก แหล่งข่าว ในพื้นที่ว่า จะมีการขนแรงงานทางน้ำ โดยมีการขนย้ายทางเรือบริเวณ ก่อนถึงอ่าวลิเจีย ในพื้นที่บ้านลิเจีย หมู่ที่ 4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม
จึงได้ ทำการเข้าลาดตระเวนพิสูจน์ทราบ บริเวณเส้นทางตามที่ได้รับแจ้ง ต่อมาในเวลา 23.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวน พบว่ามีเรือหางยาว ขนแรงงานต่างด้าว จำนวน 2 ลำ แล่นผ่านมาด้วยความเร็ว เจ้าหน้าที่พยายามใช้เรือแล่นตาม แต่เรือทั้ง 2 ลำ อาศัยความมือและความชำนาญเส้นทางหลบหนีไปได้ จึงไม่สามารถทำการจับกุมเรือดังกล่าวได้
ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังแล่นเรือกลับตรวจพบเรือต้นทาง จำนวน 1 ลำจอดอยู่ในเส้นทาง คาดว่าน่าจะเป็นเรือที่ทำหน้าที่คอยดูต้นทางให้ขบวนการขนแรงงานต่างด้าว จึงเข้าทำการตรวจค้นพบ นายอ่องเท อายุ 27 ปี และ นายคืบ อายุ 22 ปี ซึ่งทั้ง 2 คน เป็นชาวมอญ บ้านวังกะ หมู่ที่ 2 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่พบว่า ทั้ง 2 คนอยู่ในขบวนการขนแรงงานต่างด้าว ชุดคุ้มดงสัก ในพื้นที่บ้านวังกะ โดยทั้ง 2 จะทำหน้าที่ขับเรือคอยดูต้นทางให้ขบวนการขนแรงงานต่างด้าวทางเรือ
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทั้ง 2 คน รับสารภาพว่า ทำหน้าที่คอยดูต้นทางให้กับเรือของนาย พัน และ นายทิต ที่เจ้าหน้าที่ขับเรือไล่ตาม ซึ่งวันนี้นายพันและนายต้น ขนแรงงานชาวเมียนมา ลงเรือมาลำละ 10 คน รวมเป็น 20 คน โดยตนเองได้รับค่าจ้างในการดูต้นทางครั้งละ 500-1000 บาท ทำมาแล้ว 2 ครั้ง
ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจค้น เรือดังกล่าว พบยาบ้าจำนวน 22 เม็ด ก่อนทำการตรวจสารเสพติด เป็นฉี่ม่วงทั้งคู่ รับซื้อมาจากกลุ่มค้ายาในชุมชนบ้านดงสัก ในหมู่บ้านวังกะ เพื่อใช้เสพในระหว่างทำหน้าที่ดูต้นทางให้ขบวนการขนแรงงานต่างด้าว เนื่องจากต้องอดหลับอดนอน เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่ง สภ.สังขละบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์
