จังหวัดหนองคายศุลกากรภาคที่ 2 จับเส้นไหมลักลอบหนีศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักร มูลค่ากว่า 1.8 ล้านบาท
ตามนโยบายกรมศุลกากรที่ได้มุ่งเน้นการปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าที่ผิดกฎหมายศุลกากรและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ของต้องห้าม ของต้องจำกัดมาโดยตลอดนั้นนายพชร อนันต์ศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากรนายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากรนายศิริชัย คุณาบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 นายชนินทร์ ศุภรินทร์ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากรสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 และนายเรวัตน์ บางพา หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปรามส่วนควบคุมทางศุลกากรสำนักงานศุลกากรที่ 2 จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรฝ่ายสืบสวนและปราบปรามสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 เข้มงวดในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดตามกฎหมายศุลกากรและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง
โดยเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2564 เจ้าหน้าที่ศุลกากรฝ่ายสืบสวนและปราบปรามสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 ร่วมกับหน่วยสืบสวนปราบปรามประจำพื้นที่ภาคอีสาน ฝปป.2 สปป.1 กสป.และด่านศุลกากรหนองคายได้ทำการตรวจค้นรถกระบะบรรทุกจำนวน 1 คันบริเวณแยกอำเภอเพ็ญถนนมิตรภาพตำบลบ้านธาตุอำเภอเพ็ญจังหวัดอุดรธานีผลการตรวจค้นพบสินค้าประเภทเส้นไหม เมืองกำเนิดต่างประเทศไม่มีเอกสารแสดงการผ่านพิธีการศุลกากรมาแสดงขนาดตรวจค้นแต่อย่างใดจำนวน 30 กระสอบน้ำหนักรวม 900 กิโลกรัมเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งแก่ผู้ควบคุมรถคันดังกล่าวว่าเส้นไหมดังกล่าวเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้ผ่านพิธีศุลกากรจึงเป็นของอันพึงต้องริบหรือพิสูจน์ความผิดตามมาตรา 242- 247แห่งพรบ.ศุลกากร พศ .2560 เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดเส้นใหม่ทั้งหมด พร้อมรถกระบะคันดังกล่าวเป็นของกลางนำส่งด่านศุลกากรหนองคาย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไปราคาสินค้ารวมภาษีโดยประมาณ 1800,000 บาท
พงศพัศ หนูเอียด/ทีมข่าวเฉพาะกิจ
