ผบก.ภ.จว.ลพบุรี !!! รวบยกแก๊งแสบ ฉกเงิน 8 ล้านจากบัญชี นักธุรกิจซื้อขายยางรถยนต์
ที่กองบังคับการสถานีตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า ผบก.ภ.จว.ลพบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.อุกฤษ ภู่กลั่น รอง ผบก.ภ.จว.ลพบุรี พ.ต.อ.บุญชนะพัฒน์ สกุลจารุมรรคา รอง ผบก.ภ.จว.ลพบุรี พ.ต.อ.ประวิทย์ ยงยุทธ์ ผกก.(สอบสวน)กลุ่มงานสอบสวนฯ พ.ต.อ.สมชาย ชูแก้ว ผกก.สภ.เมืองลพบุรี พ.ต.อ.พงศ์สุริยะ สุวรรณพันธ์ ผกก.สส.ภ.จว.ลพบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ลพบุรี ชุดสืบสวนสืบสวน สภ.เมืองลพบุรี ได้ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 4 คนตามตามหมายจับศาลจังหวัดลพบุรี นายพรเทพ เปียไพบูลย์ อายุ 25 ปีบ้านเลขที่ 22/3 ม.9 ต.หลักชัย อ.ลาดบัวหลวง
จว.พระนครศรีอยุธยา นายรุ่งโรจน์ อ่อนละมัย อายุ 23 ปีอยู่บ้านเลขที่ 36/1 ม.3 ต.พิกุลทอง อ.เมือง จว.ราชบุรี น.ส.สุภาพรรณ แก้วทอง อายุ 23 ปีอยู่บ้านเลขที่ 57 ม.2 ต.บ่อกระดาย อ.ปากท่อ จว.ราชบุรี และ น.ส.สริศา เลิศเรืองฤทธิ์ อายุ 20 ปีอยู่บ้านเลขที่ 11/1 ม.2 ต.บ้านไร่ อ.เมือง จว.ราชบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดลพบุรี เลขที่ 28-31/2564 ลงวันที่ 28 มี.ค.64 โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า”ร่วมกันฉ้อโกง ร่วมกันปลอมแปลงเอกสาร ใช้เอกสารปลอม ร่วมกันทำด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ” จับกุมได้ที่บริเวณ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี และแขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม.
พร้อมของกลางสมุดบันทึกรายชื่อเจ้าของบัญชีที่ได้รับความเสียหายกว่า 10 รายชื่อ ใบมรณบัตรปลอมที่ใช้ประกอบเป็นเอกสารปลอม และสมุดบัญชีที่ไม่ใช่ของกลุ่มผู้ต้องหาที่เชื่อว่านำไปใช้ก่อเหตุ
พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า ผบก.ภ.จว.ลพบุรี กล่าวเปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 มี.ค.64 นางปราณี เปลี่ยนชัย อายุ 44 ปี ผู้เสียหายทำธุรกิจซื้อขายยางรถยนต์และกระทะล้อรถยนต์ได้เดิน เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนที่ สภ.เมืองลพบุรี ว่าเงินฝากในบัญชีธนาคารแห่งหนึ่งสาขาวงเวียนสระแก้ว ต.ทะเลชุบศร อ.เมืองลพบุรี จว.ลพบุรี ได้สูญหายไปจำนวน 8 ล้านบาท โดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งตนได้สอบถามไปทางธนาคารก็ไม่สามารถให้ข้อมูลได้ ตนจึงตรวจสอบจากบัญชีพบว่ามีการโอนเงินจากบัญชีธนาคารของตนไปยังบัญชีคนอื่นหลายครั้ง ซึ่งตนคาดว่าคงถูกแก๊งคนร้ายใช้ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ในการโอนเงิน จึงมาแจ้งความให้ตำรวจช่วยสืบสวนติดตามจับกุมแก๊งคนร้ายรายนี้ให้ได้
พล.ต.ต.พัลลภ กล่าวว่า จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทราบว่ากลุ่มคนร้ายแก๊งนี้มีแผนประทุษกรรมแยบยลของกลุ่มคนร้ายว่า จะใช้วิธีการหาข้อมูลส่วนตัวของของเหยื่อจากทางเฟซบุ๊ก โดยที่ไม่เคยรู้จักและไม่มีความใกล้ชิดกันมาก่อน โดยจะใช้วิธีการแอบอ้างตัวเป็นผู้เสียหายจากนั้นจะติดต่อกับพนักงานธนาคาร ขอเปลี่ยนอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (MobileBanking และ Non-card)ซึ่งทางพนักงานของทางธนาคารหลงเชื่อได้เปลี่ยนข้อมูลทางบัญชีตามที่คนร้ายต้องการพร้อมขอรหัสเปิดใช้งานใหม่กับอุปกรณ์เครื่องใหม่ทันที จากนั้นกลุ่มคนร้ายก็จะรีบโอนเงินจากบัญชีของผู้เสียหายไปยังบัญชีธนาคารที่กลุ่มคนร้ายว่าจ้างคนอื่นเปิดให้และรับซื้อบัญชีไว้ในราคาบัญชีละ 5,000-6,000 บาท จำนวนหลายครั้งรวมเป็นเงิน 8 ล้านบาท เมื่อเงินเข้าบัญชีแล้วจะไปตระเวนใช้บัตร(ATM)ถอนเงินสดออกมาแบ่งกัน
พล.ต.ต.พัลลภ กล่าวต่อว่า หลังจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สอบสวนได้ทำการขยายผลการจับกุมสามารถตรวจยึดทรัพย์สิน เงินสด ทองรูปพรรณ โทรศัพท์มือถือ รถยนต์จำนวน 3 คัน รถจักรยานยนต์จำนวน 1 คัน อาวุธปืนขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอก นอกจากนี้ยังพบหลักฐานสำคัญอื่นๆ จากโทรศัพท์มือถือที่กลุ่มคนร้ายใช้โอนเงินมีข้อมูลการแจ้งเตือนของธนาคาร เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาที่ได้ทำการแฮ็กข้อมูลเปลี่ยน (EMAIL)อีเมลที่ผู้เสียหายแจ้งไว้กับธนาคาร ทำให้ระบบการตอบโต้อัตโนมัติของธนาคารเมื่อกลุ่มผู้ต้องหาทำธุรกรรมจะไม่แจ้งเตือนไปยังเจ้าของบัญชี
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 4 คนให้การรับสารภาพและให้การซัดทอดผู้ร่วมขบวนการอีกหลายรายซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป
ด้าน น.ส.ปราณี เปลี่ยนชัย ผู้เสียหาย ได้นำกระเช้าดอกไม้มามอบให้กับพล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า ผบก.ภ.จว.ลพบุรี เพื่อแสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมเปิดเผยว่า เมื่อตนทราบว่ามีเงินจากบัญชีธนาคารหายไปในวันที่ 18 มี.ค.64 โดยก่อนหน้านั้นโทรศัพท์ของตนไม่สามารถใช้งานได้ ตนจึงได้แจ้งไปยังธนาคารให้อายัดบัญชีแต่พบว่าเงินถูกถอนไปแล้ว 8 ล้านบาท หลังจากเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ธนาคารได้โทร.มาแจ้งตนเพียงครั้งเดียวว่ากำลังดำเนินการอยู่ โชคดีที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมแก๊งคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว