วันอาทิตย์, 17 พฤศจิกายน 2567

บิ๊กธีร์”นำทีมชุดสืบสวนภาค 1”รวบแล้วมือยิงหนุ่มการไฟฟ้า

26 เม.ย. 2021
20

บิ๊กธีร์ !!! นำทีมสืบสวนภาค 1 โชว์ผลงานตามลากคอแก๊งค้ายาโหด”หลอน”คิดว่าตำรวจตาม ไล่ยิงหนุ่มการไฟฟ้าดับคาเก๋ง

วันที่ 25 เม.ย.64 ที่ห้องประชุม ศปก.ภ.จว.ลพบุรี พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง รอง ผบช.ภ.1 /รอง ผอ.ศปอร.ภ.1 พล.ต.ต.ดร.พัลลภ แอร่มหล้า ผบก.ภ.จว.ลพบุรี พล.ต.ต.พลฑิต ไชยรส ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.ศราวุธ สวัสดิชัย รอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.ชินโชติ วัฒนธนานพ ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.1 ว่าที่ พ.ต.อ.สมชาย ชูแก้ว ผกก.สภ.เมืองลพบุรี พ.ต.อ.พงศ์สุริยะ สุวรรณพันธ์ ผกก.สส.ภ.จว.ลพบุรี พ.ต.อ.ประวิทย์ ยงยุทธ ผกก.(สอบสวน)กลุ่มงานสอบสวน ภ.จว.ลพบุรี พ.ต.ท.พูนสุข เตชะประเสริฐพร รอง ผกก.สส.1บก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.ศตวรรษ บุญมี ผกก.1 บก.ทล.และ พ.ต.ต.สาโรจน์ เปี่ยมเจริญ สว.ส.ทล.3 กก.1 บก.ทล.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 2 คน นายมานะ หรือมด สีสังข์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 8 ต.บางพึ่ง อ.บ้านหมี่ จว.ลพบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดลพบุรี ที่ 38/2564 ลงวันที่ 24 เม.ย.64 และนายชนะพงษ์พันธ์ หรืออุ้ม แก้วแดงดี อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/2 บ้านดงสวอง ต.เขาสามยอด อ.เมืองลพบุรี จว.ลพบุรีตามหมายจับศาลจังหวัดลพบุรี ที่ 39/2564 ลงวันที่ 24 เม.ย.64 พร้อมของกลาง อาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อ บาเร็ตต้า ขนาด 9 มม.จำนวน 2 กระบอก กระสุนปืนขนาด 9 มม.จำนวน 15 นัดซองกระสุน จำนวน 1 อัน ยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 39.65 กรัม รถยนต์เก๋ง ฮอนด้า ซีวิค สีดำ หมายทะเบียน ชภ-8857 กทม.จำนวน 1 คัน

โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า”ร่วมกันฆ่าผู้อื่น,ร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต,พาอาวุธปืนติดตัวและยิงปืนในที่สาธารณะ”
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองลพบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง รอง ผบช.ภ.1 /รอง ผอ.ศปอร.ภ.1 เปิดเผยว่า จากกรณีคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนายพงษ์เทพ ขันธเขต อายุ 39 ปีอยู่บ้านเลขที่ 37 ถ.พัฒนา ต.คูหาสวรรค์ อ.เมืองพัทลุง จว.พัทลุงพนักงานระดับ 7 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต 3 (ภาคเหนือ) จว.ลพบุรี หัวหน้าทีมฮอตไลน์ 22 เควี เสียชีวิตคารถเก๋ง ที่บริเวณริมถนนสายพหลโยธิน ขาออก ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 151-155 ม.2 จุดกลับรถเยื้องห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขา 2 ต.ท่าศาลา อ.เมืองลพบุรี จว.ลพบุรี เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2564 เวลาประมาณ 00.25 น.

ต่อมาเมื่อวันที่ 7 เม.ย.64 เวลา 18.30 น.พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง รอง ผบช.ภ.1 /รอง ผอ.ศปอร.ภ.1ได้เดินทางลงพื้นที่เรียกประชุมด่วนทีมสืบสวน บก.สส.ภ.1 กก.สส.ภ.จว.ลพบุรี ชุดสืบสวน สภ.เมืองลพบุรี โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนร่วมกันบูรณาการกำลังลงพื้นที่ปูพรมเก็บวัตถุพยานหลักฐานต่างๆพร้อมกำชับให้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามสถานที่ต่างๆทั้งในตัวเมืองลพบุรีและพื้นที่ใกล้เคียงอย่างละเอียดรวมทั้งกล้องหน้ารถของผู้เสียชีวิตเพื่อนำมาวิเคราะห์เส้นทางหลบหนีของคนร้าย เพื่อเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญและผู้เสียชีวิตเป็นเจ้าหน้าที่องค์กรของรัฐ

พล.ต.ต.สุภธีร์ กล่าวว่า จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทราบว่ามีผู้ต้องหาร่วมก่อเหตุจำนวน 2 คน นาย มานะ หรือมด และนาย ชนะพงษ์พันธ์ หรือ อุ้ม ซึ่งเป็นกลุ่มพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ อยู่ในพื้นที่ จว.ลพบุรี จึงได้รวบรวมวัตถุหลักฐานยื่นขออนุมัติศาลจังหวัดลพบุรีออกหมายจับ นายมานะ หรือมด และ นายชนะพงษ์พันธ์ หรืออุ้มผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดลพบุรี ที่ 38-39 / 2564 ลงวันที่ 24 เม.ย.64 ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสืบทราบว่านายมานะ หรือมดและนายชนะพงษ์พันธ์ หรืออุ้ม ได้ย้อนกลับเข้ามาในพื้นที่ อ.หนองม่วง ไปเช่าห้องพักอยู่ที่รีสอร์ท แห่งหนึ่งใน อ.หนองม่วง จว.ลพบุรี จึงนำกำลังเข้าจับกุม พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด 9 มม.กระสุน 15 นัด ยาไอซ์ 39.65 กรัม และรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีดำ ทะเบียน ชภ 8857 กรุงเทพมหานคร ที่ใช้ก่อเหตุ

พล.ต.ต.สุภธีร์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวน นายมานะ หรือมด และ นายชนะพงษ์พันธ์ หรืออุ้ม รับสารภาพว่าตนได้ใช้อาวุธปืนยิงนายพงศ์เทพ ขันธเขต ผู้เสียชีวิตจริง เนื่องจากตนเข้าใจผิดคิดว่า ถูกนายพงศ์เทพ ขันธเขต ติดตามเนื่องจากช่วงค่ำคืนวันที่ 6 เมษายน 2564 เวลาประมาณ 00.23 น. พวกตนได้นัดส่งมอบยาบ้าให้กับนายกล้า ผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ ที่บริเวณถนนพหลโยธินใกล้สะพานข้ามโรงเรียนเมืองใหม่(วงเวียนพระนารายณ์มหาราช) และขณะนั้นตนเห็นรถยนต์เก๋งมาสด้า 2 สีแดง ของนายพงศ์เทพ ขันธเขต ขับผ่านมาคนเดียวหลังแยกย้ายจากเพื่อนๆที่นั่งดื่มกินกันที่ร้านอาหารในตัวเมืองลพบุรี มุ่งหน้ากลับบ้านใน ต.ท่าศาลา ตนเข้าใจผิดว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสะกดรอยติดตาม เลยเกิดความหวาดระแวง หลังจากส่งยาบ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้ขับรถออกมาจากจุดส่งมอบยาบ้า วิ่งมาตามถนนพหลโยธิน โดยนายชนะพงษ์พันธ์ หรืออุ้ม เป็นคนขับขี่รถยนต์เก๋งฮอนด้าซีวิค สีดำ หมายเลขทะเบียน ชภ-8857

กรุงเทพมหานคร ส่วนตนนั่งคู่เบาะหน้าข้างซ้าย พอถึงจุดเกิดเหตุที่บริเวณริมถนนสายพหลโยธิน ขาออก ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 151-155 ม.2 จุดกลับรถเยื้องห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขา 2 ต.ท่าศาลา อ.เมืองลพบุรี จว.ลพบุรี พบรถยนต์เก๋งของนายพงศ์เทพ ขันธเขต ผู้เสียชีวิต วิ่งช้าๆ อยู่เลนขวาด้านหน้า ก่อนจะเปลี่ยนเข้ามาเลนซ้ายกะทันหัน จังหวะนั้นมีรถกระบะอีกคันขับตามหลังมา ตนคิดว่าเป็นรถตำรวจที่ตามมาจะจับกุมเนื่องจากบนรถตัวเองยังมียาบ้าอีกจำนวนมากที่เตรียมไปส่งลูกค้า จึงรีบเร่งเครื่องขึ้นประกบฝั่งขวา และตนลดกระจกลงมาใช้อาวุธปืนพกบาเร็ตต้าขนาด 9 มม.ที่พกติดตัวมายิงใส่ที่ประตูหน้าข้างขวารถนายพงศ์เทพ ขันธเขต จำนวน 1 นัด เพื่อเปิดทางหนี กระสุนเจาะเข้าประตูฝั่งคนขับทะลุเข้าชายโครงขวาของนายพงศ์เทพ ขันธเขต ทำให้รถเสียหลักพุ่งขึ้นฟุตบาทไปชนป้ายโฆษณาข้างทางก่อนจะเสียชีวิต หลังจากนั้นตนและนายชนะพงษ์พันธ์ หรืออุ้ม ได้พากันหลบหนี เอาอาวุธปืนไปซ่อนไว้ในบ้านเช่าใน ต.ท่าศาลา อ.เมืองลพบุรี เอารถเก๋งไปซ่อนในบ้านเช่า ต.ทะเลชุบศร อ.เมืองลพบุรี ก่อนจะย้ายไปเก็บที่ อ.สนามชัยเขต จว.ฉะเชิงเทรา และตนได้หลบหนีไปบวชพระที่วัดแห่งหนึ่งในจว.นครสวรรค์โดยมีนายชนะพงษ์พันธ์ หรืออุ้ม ได้ติดตามไปเป็นลูกศิษย์ ต่อมาได้สึกและย้อนกลับเข้ามาในพื้นที่ อ.หนองม่วงและได้เข้าพักที่สีสันรีสอร์ท ด้วยกัน ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนบุกเข้าจับกุมและตัวนำไปตรวจยึดอาวุธปืนกระบอกที่ใช้ก่อเหตุและรถยนต์คันที่ใช้เหตุ

ภายหลังจากการแถลงข่าวเสร็จทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองไปจำลองเหตุการณ์ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บริเวณด้านหน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี
ขณะเดียวกัน นางพงษ์ศิริ ขันธเขต อายุ 65 ปี มารดาของนายพงศ์เทพ ขันธเขต ผู้เสียชีวิต ได้นำช่อดอกไม้มามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจและทีมงานเพื่อเป็นการขอบคุณที่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายที่ยิงลูกชายเสียชีวิตมาดำเนินคดีได้อย่างรวดเร็วโดยใช้เวลาเพียง 19 วัน โดยมี พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง รอง ผบช.ภ.1/รอง ผอ.ศปอร.ภ.1 เป็นตัวแทนรับมอบ

Loading