วันศุกร์, 27 กันยายน 2567

อดีตผู้สมัครสจ.เข้าแจ้งความ”

27 พ.ค. 2021
17

อดีตผู้สมัคร สจ.เขต เข้าแจ้งความ ตร. หลังโดนเฟสบุ๊คโพตส์ใส่ร้ายว่าเป็นคนมีคดีฆ่าคนตาย มาสมัคร สจ.ทำให้เสียชื่อเสียง ซึ่งอาจเป็นเพราะการเลือกตั้งครั้งที่แล้วถึงแม้ไม่ได้เป็น สจ.แต่คะแนนนำมาเป็นอันดับที่ 2 ทั้งๆ ที่เพิ่งลงสมัครเล่นการเมืองครั้งแรก

เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 26 พ.ค.ที่ สภ.เมืองชลบุรี นายสุพจน์ สงวนพงศ์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 160 / 13 หมู่ 1 ต.บางทราย อ.เมือง จ.ชลบุรี อดีตผู้สมัคร สจ.เขต เมืองชลบุรี ได้เดินทางพร้อมกับ น.ส.มุกดา บุญฟัก ทนายความ และนายเพชรพิเชฐ เอี้ยบกงไชย สท.เทศบาล ต.บางทราย เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ชินวัชร์ ธิศาลา สว.( สอบสวน ) สภ.เมืองชลบุรี พร้อมหลักฐานที่มีผู้โพตส์ในเฟสบุ๊คลงในเพจ ขาวสารชลบุรี ใช้ชื่อว่า ยายแก่แต่หลังค่อม มีข้อความว่า “#เตือนภัยชาวชลบุรี ก่อนที่เราจะเลือกคนมาเป็นผู้นำชุมชนต้องดูก่อนนะว่าเขาเป็นใคร กรณีนี้เขต #บางทราย เป็นนักโทษคดีเพียบเคยฆ่าคนตายและมีประวัติอาชญากรรมอีกเพียบ แล้วมาสมัครเป็น สจ.เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง ขอเตือนพี่น้องประชาชนไว้ตรงนี้ด้วย #โหน่งบางทราย”

โดยมีภาพวีดีโอจากทีวีช่องหนึ่งถึงคดียิงกันในบ่อนไก่ เมื่อปี 2562 มีคนตายและเสียชีวิต และภาพป้ายผู้สมัคร สจ.เขตเมืองชลบุรี เบอร์ 2 มีสโลแกนการหาเสียงว่า “หยุดโกงกิน ให้โอกาสคนรุ่นใหม่ สุพจน์ ( โหน่ง ) สงวนพงศ์” โดยมีผู้เข้ามาคอมเม้นและแชร์เสียงแตกเป็น 2 ฝ่าย โดยส่วนมากจะคอมเม้นว่าคดีจบแล้วคุณเอามาแฉทำไม คุณดีแค่ไหนถึงมาขุดคุ้ยอดีตคนอื่นเขาและอีกมากมาย

นายสุพจน์ ( โหน่ง ) สงวนพงศ์ เผยว่า คนมาโพตส์แบบนี้ทำให้ผมเสื่อมเสียชื่อเสียงและวงศ์ตระกูล ผมจะเอาเรื่องจนถึงที่สุดไม่ยอมความเด็ดขาด เขากล่าวหาผมว่ามีคดีความ ซึ่งคดีความดังกล่าวนั้นจบแล้ว คดีถึงที่สุดแล้วผมเป็นผู้บริสุทธิ์ ถ้ามีคดีผมจะเข้ามาสมัคร สจ.ได้อย่างไร กกต.ก็ต้องตรวจสอบถ้ายังมีคดีก็คงไม่ผ่าน กกต.ถึงแม้ผมจะแพ้การเลือกตั้ง แต่คะแนนของผมมาที่ 2 ทั้งๆ ที่ผมไม่เคยลงเล่นการเมือง นี่ก็อาจจะเป็นสิ่งหนึ่งที่มีคนทำเฟสอวตารมาใส่ร้ายให้ผมเสียชื่อเสียง ขอฝากถึงผู้ที่เข้ามาคอมเม้น คุณควรตรวจสอบว่าผมผิดจริงมั้ย ไปเห็นที่โพตส์เฟสปลอมแบบนี้ก็คอมเม้นเลย ผมเอาผิดแน่นอน เพราะได้จ้างทนายแล้ว
ทางด้าน พ.ต.อ.นิทัศน์ แหวนประดับ ผกก.สภ.เมืองชลบุรี ( เปิดเผยทางโทรศัพท์ ) ว่า เบื้องต้นทาง สว.( สอบสวน ) ได้รายงานแล้ว ซึ่งต่อไปก็จะสอบสวนรายละเอียดทั้งหมด สืบหาข้อมูลเจ้าของเฟสบุ๊ค ว่าเป็นใครอยู่ที่ไหน เพื่อจะได้นำตัวมาสอบสวน หากมีข้อมูลว่าเป็นการใส่ร้ายป้ายสีทำให้ผู้เสียหายเสียชื่อเสียง ก็จะดำเนินคดี ในข้อหาดูหมิ่น และข้อหาผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ ตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว นิราช/นันฐพล/พิชญ์ฐญา ทิพย์ศรี ผู้สื่อข่าว จ.ชลบุรี
นายพรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก

Loading