ศปน.ตร.เปิดยุทธการ“ข้ามฟ้าล่า App เงินกู้”ทลายแก๊งค์เงินกู้นอกระบบตั้งฐานทวงหนี้ริมตะเข็บชายแดน
วันนี้ 2 มิ.ย.2564 เวลา 11.30 น.พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.เป็นประธานแถลงข่าวพร้อมด้วย พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปน.ตร.พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.สง.ก.ตร./ รอง ผอ.ศปน.ตร.พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข รอง ผบช.ก.พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ปอศ.พ.ต.อ.ภาดล จันทร์ดอน พ.ต.ท.กริช วรทัต รองผกก.5 บก.ปอศ.พร้อมตำรวจสังกัด กก.5 บก.ปอศ.แถลงข่าวเปิดยุทธการ “ข้ามฟ้า ล่า APP เงินกู้”บุกทลายแก๊งค์เงินกู้นอกระบบ พร้อมจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 10 ราย นาย อนุวัตร (ชื่อเดิม ไทยฝา) กังสดาลบรรพต กรรมการผู้จัดการบริษัทฯหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ 240/2564 และ 241/2564 ลง 27 พ.ค.64 ในฐานะนิติบุคคลและฐานะส่วนตัว 2.น.ส. สุภาวรรณ กังสดาลบรรพต ทำหน้าที่ควบคุมพนักงานทวงหนี้หมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ 261/2564 ลง 31 พ.ค.64,3. น.ส. ปิยฉัตร นภาพันธ์ ทำหน้าที่อนุมัติสินเชื่อและนาย ภัทรณิชา โพธิกุล ทำหน้าที่ฝ่ายบุคคล และจับกุมพนักงานทวงหนี้ของบริษัทฯ ที่อยู่ในที่เกิดเหตุได้อีก 6 คน พร้อมยึดของกลางเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค จำนวน 19 เครื่อง,โทรศัพท์มือถือ จำนวน 50 เครื่อง,สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 7 เล่ม,แฟ้มประวัติพนักงาน จำนวน 33 แฟ้ม,เอกสารแนะนำทวงหนี้ จำนวน 3 ชุด และเอกสารที่เกี่ยวข้อง จำนวน 1 ลัง
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า”ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด,ร่วมกันกระทำการทวงหนี้ในลักษณะข่มขู่ การใช้ความรุนแรงหรือการกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่น”
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.สง.ก.ตร./ รอง ผอ.ศปน.ตร.เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทำให้ได้รับความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง บางส่วนหันไปพึ่งพาการกู้เงินจากนายทุนเงินกู้นอกระบบ ซึ่งมีการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา การทวงถามหนี้โดยผิดกฎหมาย อันเป็นการซ้ำเติมประชาชน ทำให้เกิดปัญหาทั้งทางด้านเศรษฐกิจสังคมและอาชญากรรมต่างๆ ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปน.ตร.เร่งดำเนินการปราบปรามความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบกลุ่มนายทุนเงินกู้เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกเอารัดเอาเปรียบและการทวงถามหนี้โดยผิดกฎหมายอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.สง.ก.ตร./ รอง ผอ.ศปน.ตร.เปิดเผยต่อว่า จากการสืบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าแอพพลิเคชั่น“Consumer Finance”และ“Mini Loan”ดำเนินงานโดย บริษัท ไทย วาลี จำกัด มีการประกอบธุรกิจให้กู้ยืมเงินโดยผิดกฎหมายเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด และมีการทวงหนี้โดยผิดกฎหมาย และมีการย้ายที่อยู่เพื่อหลบหนีการจับกุมของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาหลายครั้ง โดยล่าสุดได้หลบมาเช่าบ้านพักเป็นฐานสำหรับติดตามทวงถามหนี้และใช้เป็นที่พักของพนักงานอยู่ที่หมู่ 19 ต.รอบเวียง อ.เมือง จว.เชียงราย ส่วนกลุ่มนายทุนจะแยกตัวไปสั่งการและบริหารงาน อยู่ที่บนดอยแม่สลอง ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง จว.เชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อตะเข็บชายแดน เพื่อสะดวกต่อการหลบหนีและยากต่อการติดตามจับกุมของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน(ศปน.ตร.)นำโดยกก.5 บก.ปอศ.ได้บูรณาการกำลังร่วมกับ กก.ตชด.32 กก.12 บก.รน. กก.5 บก.ทล.และ กก.สส.ภ.จว.เชียงราย นำหมายค้นของศาลจังหวัดเชียงรายเข้าตรวจค้นสถานที่ทั้ง 2 แห่งดังกล่าว โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 10 คน ประกอบด้วย 1.นายอนุวัตร กังสดาลบรรพต กรรมการผู้จัดการบริษัท 2.น.ส. สุภาวรรณ กังสดาลบรรพต ทำหน้าที่ควบคุมพนักงานทวงหนี้ 3.น.ส.ปิยฉัตร นภาพันธ์ ทำหน้าที่อนุมัติสินเชื่อ 4.นายภัทรณิชา โพธิกุล ทำหน้าที่ฝ่ายบุคคล และจับกุมพนักงานทวงหนี้ของบริษัทอยู่ในที่เกิดเหตุอีก 6 คน พร้อมตรวจยึดของกลางประกอบด้วย เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 19 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 50 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 7 เล่ม แฟ้มประวัติพนักงาน 3 แฟ้ม เอกสารแนะนำทวงหนี้ 3 ชุด เอกสารที่เกี่ยวข้อง 1 ลัง จึงแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งหมดว่า ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด, ร่วมกันกระทำการทวงหนี้ในลักษณะข่มขู่ การใช้ความรุนแรงหรือการกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่น
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.สง.ก.ตร./ รอง ผอ.ศปน.ตร.เปิดเผยอีกว่า จากการสอบสวนกลุ่มผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าพวกตนได้กระทำความผิดดังกล่าวจริง โดยมีการปล่อยกู้ให้กับลูกหนี้ ในปัจจุบันมีฐานลูกหนี้ทั่วประเทศมากกว่า 30,000 คน โดยพนักงานทวงหนี้ของบริษัทจะทำการทวงหนี้เฉลี่ยตกวันละ 3,500 คน/วัน ทั้งนี้บริษัทยังมีการกระทำความผิดเชื่อมโยงกันทั้งหมดจำนวน 21 APPLICATION ประกอบด้วย Consumer Finance / Loanmaket / Taka THB / cash borrow / Moobin loan / เงินกู้ดีที่สุด / Innovat cash / Loan studio / same dayloan / money loan / ใช้ตังค์ / cash ready / Mini loan / 365 loans / TiK Tak /SpeedLoan / Big money / We cash / หมูบิน เงินกู้ / loan studio / และ Full wallet ทั้งนี้บริษัทฯมีพนักงานทวงหนี้กว่า 100 คน เมื่อรับพนักงานทวงหนี้เข้ามาจะทำการอบรมพร้อมแจกเอกสารวิธีทวงหนี้ให้พนักงาน และจะให้แยกย้ายกันไปทำงานทวงหนี้แบบ Work From Home เพื่อไม่ให้มีพนักงานรวมกันอยู่จำนวนมาก เป็นที่ผิดสังเกต โดยในเอกสารจะระบุวิธีการทวงหนี้ต่างๆเช่นการพูดกดดันทำอย่างไร ควรโทรเวลาไหน ถ้าลูกหนี้ปิดเครื่องหรือบล็อกเบอร์ให้โทรทวงกับคนใกล้ชิด รวมไปถึงการส่งข้อความทวงหนี้ หรือข่มขู่ในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งขณะนี้สามารถสืบสวนจนทราบรายชื่อพนักงานทวงหนี้ work from home หมดทุกคนแล้ว อยู่ระหว่างขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องต่อไป
จากการตรวจสอบบัญชีที่เกี่ยวข้องจำนวน 60 บัญชีของทางเจ้าหน้าที่พบว่ามียอดเงินหมุนเวียนเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 200 ล้านบาทซึ่งขณะนี้ได้ทำการอายัดบัญชีที่เกี่ยวข้องดังกล่าวแล้ว
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.สง.ก.ตร./ รอง ผอ.ศปน.ตร.กล่าวว่า ทางศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มุ่งมั่นที่จะปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบที่เป็นการซ้ำเติม พ่อ แม่ พี่ น้องประชาชน สำหรับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน หรือ ไม่ได้รับความเป็นธรรม ต้องการแจ้งเบาะแส สามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชั้น 3 อาคาร 1 และที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ถนนสาทรเหนือ เขตบางรัก กรุงเทพฯ หรือโทรศัพท์ สายด่วน 1599 หรือที่สถานีตำรวจทุกแห่ง ได้ตลอด 24 ชั่วโมง