วันพฤหัสบดี, 14 พฤศจิกายน 2567

พม่าหัวใส”โชว์บัตรสีชมพูกระดาษอ่อนแต่ไปไม่รอดถูกรวบ

กาญจนบุรี – ไหวพริบล้วนๆ 3 พม่าหัวใส โชว์บัตรสีชมพู แต่ผิดสังเกตเหตุบัตรทำด้วยกระดาษอ่อนตัดแปะ สุดท้ายโดนรวบคาด้าน สารภาพจ้างเพื่อนร่วมชาติใบละ 1.5 หมื่นบาท

วันนี้ 23 มิ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.วรณัน สุขเจริญ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.ภุชงค์ ณรงค์อินทร์ ผกก.สภ.ไทรโยค ว่าขณะที่ พ.ต.ต.วุฒิชัย น้อยยะ สวป.สภ.ไทรโยค ร.ต.อ.สมจิตร บัวรับพร รอง สว.ตม.กาญจนบุรี ร.ต.ท.อิสระพงษ์ คนหลัก ผบ.มว.ร้อย ตชด.ที่ 136 รวมทั้ง จ.ส.อ.ภูวดล วิมาเนย์ ผบ.หมู่ ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอไทรโยค ปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดตรวจถาวร ตม.ไทรโยค บ้านวังกะ หมู่ 4 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี

พบรถยนต์ตู้โดยสารสายกาญจนบุรี – สังขละบุรี วิ่งมาจากทางด้านอำเภอทองผาภูมิ เมื่อมาถึงจุดตรวจเจ้าหน้าที่จึงเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจสอบเอกสาร รวมทั้งตรวจวัดอาการไข้ของประชาชนที่โดยสารมาด้วย เพื่อป้องการโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากการตรวจวัดอาการไข้ไม่พบอุณหภูมิเกิน 37.5 องศาฯ แต่จากการขอตรวจเอกสารบัตรประจำตัว ผลปรากฏว่า มีแรงงานชาวเมียนมา จำนวน 3 รายเป็นชาย 2 ราย หญิง 1 ราย นำบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บัตรสีชมพู)มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่

แต่เจ้าหน้าที่พบผิดสังเกต เนื่องจากบัตรที่บุคคลทั้ง 3 รายนำมาแสดงนั้น เป็นบัตรที่ทำจากกระดาษอ่อนและตัดนำมาแปะกันเอาไว้ สีออกซีด ลายเซ็นของผู้ถือบัตรและผู้ออกบัตรก็ไม่ชัดเจน ซึ่งแตกต่างจากบัตรจริงเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่จึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนอำเภอไทรโยค ให้ช่วยตรวจสอบ ผลปรากฏว่าบัตรทั้ง 3 ใบ ไม่มีอยู่ในสาระบบ จึงถือว่าเป็นบัตรปลอมที่ทำขึ้นมาเอง

ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวแรงงานทั้ง 3 ราย ลงมาจากรถเพื่อสอบสวนขอข้อเท็จจริง ทราบชื่อคือนายวินทู ไม่มีนามสกุล ชาว เมียนมา อายุ 32 ปี นายซอ ไม่มีนามสกุล ชาวเมียนมา อายุ 35 ปี และนางคาย ไม่มีนามสกุลชาวเมียนมา อายุ 20 ปี โดย พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เดินทางไปสอบปากคำด้วยตนเอง

สุดท้ายแรงงานชาวเมียนมา ทั้ง 3 ราย ยอมรับสารภาพว่า พวกตนขึ้นรถตู้โดยสารมาจากด่านเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี โดยจะไปลงที่ท่ารถตู้บริเวณตลาดผาสุก เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี จากนั้นก็จะแยกย้ายกันเดินทางไปทำงานในพื้นที่จังหวัดชั้นใน

ส่วนบัตรสีชมพูที่นำมาแสดงเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่นั้น ยองรับสารภาพว่า ได้ว่าจ้างให้นางชาญ ชาวเมียนมา ที่อาศัยอยู่กิ่งอำเภอพญาตองซู ประเทศเมียนมา ทำบัตรให้ โดยเสียค่าใช้จ่ายคนละ 15,000 บาท แต่ก็ไม่สามารถแสดงเพื่อ ตบตาเจ้าหน้าที่ได้ และต้องมาถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด

หลังจากผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค ดำเนินคดีใน 3 ข้อหา ประกอบด้วยข้อหา ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอมฯ ข้อหาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และ ข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมกรรมการควบคุมโรค”

ทั้งนี้ พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี กล่าวว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นต้องขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมที่มีไหวพริบที่ดี ทำให้แรงงานที่ถูกจับกุมไม่สามารถหลุดเข้าไปทำงานในพื้นที่จังหวัดชั้นในได้ และหลังจากนี้ไปตนจะได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดตรวจต่างๆให้เข้มข้นตรวจบัตรของผู้โดยสารอย่างละเอียด โดยเฉพาะแรงงานที่นำบัตรมาแสดง หากสงสัยขอให้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนอำเภอที่อยู่ใกล้เคียงให้ช่วยตรวจสอบบัตรที่นำมาแสดงอย่างละเอียด เพื่อป้องกันความผิดพลาดเพราะหากแรงานเหล่านี้หลบหนีเข้าไปทำงานในพื้นที่จังหวัดชั้นในได้ ก็จะสุ่มเสี่ยงต่อการนำเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปแพร่ระบาดได้

ปรีชา ไหลวารินทร์ / กาญจนบุรี

Loading