วันอาทิตย์, 29 ธันวาคม 2567

นครปฐม”มอบสับปะรดภูแล 5 ตัน

จังหวัดนครปฐม มอบสับปะรดภูแล จำนวน 5 ตัน เดินหน้าระดมความช่วยเหลืออาหารและผลไม้มอบให้แก่วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง)

เพื่อเป็นศูนย์กลางในการมอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม และประชาชน เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน ในสถานการณ์ภาวะวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้

เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดนครปฐม ได้มอบหมายให้ ดร.สุดารัตน์ พงศ์อัมพรไกวัล วัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วยนางสาวนุสรา ลี้เปลี่ยน หัวหน้าฝ่ายบริหารงานทั่วไป และเจ้าหน้าที่ ขับเคลื่อนโครงการตามนโยบายชาติ และนโยบายกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ดำเนินการมาตรการเยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ในโครงการ “ปันน้ำใจ คนไทย ไม่ทิ้งกัน” โดยใช้ “พลังบวร” ในวันนี้ได้นำสับปะรดภูแล จำนวน 5 ตัน มอบให้แก่วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชน บุคลากรทางการแพทย์ และผู้ป่วยในโรงพยาบาล และโรงพยาบาลสนาม ที่มีความจำเป็นต้องใช้อาหารจำนวนมากเพื่อดูแลประชาชน จากสถานการณ์โรคระบาดในพื้นที่อำเภอสามพราน ซึ่งเป็นการระดมศักยภาพขององค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงวัดที่มีศักยภาพในการบริจาคอาหาร รวมถึงสิ่งของอุปโภคต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในการดำรงชีพ และเพื่อใช้ในโรงพยาบาล และโรงพยาบาลสนาม สำหรับสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ และผู้ป่วย ซึ่งได้รับความเมตตาจากท่านเจ้าคุณพระไพศาลประชาทร วิ. (พระครูพบโชค) เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง ได้ส่งต่อความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชนจังหวัดนครปฐม พระคุณท่านเป็นภิกษุผู้ถือเป็นแบบอย่างของสังคม เป็นภิกษุที่สังคมให้การยอมรับว่าเป็นที่พึ่งแก่ผู้ทุกข์ยาก เมตตาช่วยเหลือสังคมมาโดยตลอด อาทิ สงเคราะห์กลุ่มเด็กที่ประสบปัญหาทางสังคม กลุ่มเด็กพิการ ด้อยโอกาส ยากจน ไร้ที่พึ่ง กลุ่มคนพิการ นับพันคน ส่งเด็กเรียน จนถึงมหาวิทยาลัย เป็นศูนย์กลางขนาดใหญ่แห่งการแบ่งปัน จึงทำให้ผู้คนที่ทราบข่าวถึงศูนย์กลาง แห่งความเมตตาของพระคุณท่าน จึงมีสิ่งของจากทั่วสารทิศร่วมบริจาคมายังวัดห้วยปลากั้ง จังหวัดเชียงราย พระคุณท่านไม่ได้ช่วยเหลือภายในจังหวัดเชียงรายเท่านั้น จังหวัดใด หน่วยงานใดขอความอนุเคราะห์ท่านเมตตาให้ความช่วยเหลือเสมอมา

ในส่วนของโรงทาน และโรงพยาบาลสนามในพื้นที่ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ได้รับความเมตตาจาก พระเทพศาสนาภิบาล เจ้าคณะภาค 14 เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) ได้ให้ความอนุเคราะห์สถานที่ในการเปิดโรงพยาบาลสนามชุมชน (Community Isolation) โดยใช้อาคารเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มหาราชินี วัดไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม เพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด – 19 ที่มีภูมิลำเนาในตำบลไร่ขิง เป็นกลุ่มผู้ป่วยสีเขียวที่มีอาการไม่รุนแรง หรือไม่มีอาการ และไม่มีโรคประจำตัว สามารถรองรับผู้ป่วยได้จำนวน 300 เตียง โดยเปิดใช้ก่อน 3 ชั้น คือชั้นที่ 2 เป็นผู้สูงอายุ ชั้นที่ 3 เป็นผู้ป่วยหญิง และชั้นที่ 4 เป็นผู้ป่วยชาย ซึ่งแยกเป็นห้องพัก ห้องละ 2 เตียง รวมชั้นละ 28 ห้อง ถ้าหากผู้ติดเชื้อมาเป็นครอบครัว จะเสริมเป็น 3 เตียง ซึ่งถ้าหากไม่เพียงพอจะเปิดใช้พื้นที่ในชั้นที่ 5 สามารถตั้งเตียงได้ประมาณ 100 เตียง ส่วนทีมแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ ที่มาดูแลผู้ปวย ได้รับความอนุเคราะห์จากโรงพยาบาลสามพราน (วัดไร่ขิง) และโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) และเจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขเทศบาลเมืองไร่ขิงในการจัดเจ้าหน้าที่หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนดูแล ผู้ติดเชื้อโควิด – 19 อย่างสม่ำเสมอด้วย

สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) จังหวัดนครปฐม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) มีมติออกประกาศให้จังหวัดนครปฐม เป็นพื้นที่สีแดงเข้ม เป็นหนึ่งใน 29 จังหวัด ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวด โดยมีการล็อกดาวน์ – เคอร์ฟิว ตั้งแต่เวลา 21.00 น. – 04.00 น. ต่อไปอีก 14 วัน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2564 หลังมาตรการเดิมครบกำหนดในวันที่ 2 สิงหาคม 2564 โดยจะมีการวิเคราะห์ทบทวน ในวันที่ 18 สิงหาคม 2564 หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคระบาดฯ ยังไม่ดีขึ้น จะยืดระยะเวลาออกไปถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2564

​นับจากสถานการณ์การแพร่ระบาดทุกระลอกที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าการบูรณาการงานร่วมกันระหว่าง บ้าน วัด ราชการ (โรงเรียน) นั้น มีความสำคัญอย่างยิ่ง เป็นสามเสาหลัก ที่ยึดโยง ค้ำจุน เกื้อหนุนให้เกิดความสมดุล แก่ประชาชน จังหวัดนครปฐม และในสังคมไทย ซึ่งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ทำให้ พี่น้องประชาชนสามารถเผชิญหน้ากับโรคระบาดได้อย่างเข้มแข็ง และผ่านพ้นวิกฤตมาได้ทุกช่วงเวลา อันเนื่องมาจากการเกื้อกูล เผื่อแผ่ แบ่งปัน และประสานความร่วมมือ ระดมสรรพกำลังเพื่อช่วยเหลือประชาชนในทุกมิติในส่วนที่สามารถจะจัดสรรทรัพยากรเองได้ ให้เป็นไปอย่างรวดเร็วโดยกระจายลงในทุกพื้นที่ของจังหวัด โดยมีเป้าหมายคือการให้ประชาชนผ่านพ้นสถานการณ์โรคระบาดนี้ได้อย่างปลอดภัย ด้วยศักยภาพและความทุ่มเทของ “บ้าน วัด ราชการ (โรงเรียน)”

ชนิดา พรหมผลิน
ผู้สื่อข่าวนิวส์รีพอร์ต รายงา

Loading