วันอาทิตย์, 19 มกราคม 2568

วัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม ลงพื้นที่มอบสิ่งของอุปโภค บริโภค”

เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2564 เวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดนครปฐม ดร.สุดารัตน์   พงศ์อัมพรไกวัล วัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม

ดำเนินการจัดโครงการจิตอาสารวมใจเพื่อคนทั้งมวล ภายใต้โครงการปันน้ำใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน และโครงการศาสนิกสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ประจำปี พ.ศ. 2564  โดยมี พระเทพมหาเจติยาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม นางวราภรณ์ เจริญศิริโชติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม ประธานแม่บ้านมหาดไทย นางชวนชม  จันทะวงษ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นางกัญจนา สร้อยอินทรากุล ผู้ช่วยนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม นายอะมัด อายุเคน อิหม่ามประจำมัสยิด   ปากีสตาน จังหวัดนครปฐม และศาสนาจารย์วิรัตน์ เป็งกันทะ ศิษยาภิบาลคริสตจักรภาคที่ 11 จังหวัดนครปฐม และคณะเจ้าหน้าที่ ร่วมมอบสิ่งของอุปโภค บริโภค ให้แก่โรงพยาบาลนครปฐม โดยมีนายวีระเดช เฉลิมพลประภา ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลนครปฐม เป็นผู้รับมอบสิ่งของเพื่อส่งต่อให้กับบุคลากร ทางการแพทย์ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด – 19  ในโรงพยาบาลสนาม โรงพยาบาลในพื้นที่ และกลุ่มเปราะบางในจังหวัดนครปฐม 

ซึ่งครอบคลุมทั้งเด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ  คนพิการ คนด้อยโอกาส เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครปฐม เป็นการผนึกกำลังการบูรณาการขับเคลื่อนงานโครงการจิตอาสารวมใจเพื่อคนทั้งมวล ภายใต้โครงการปันน้ำใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน  โครงการศาสนิกสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ประจำปี พ.ศ. 2564 และโครงการนครปฐมรวมน้ำใจ สู้ภัยโควิด – 19 เป็นการช่วยเหลือ เยียวยา ประชาชนในจังหวัดนครปฐม ให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างเข้มแข็ง และปลอดภัย ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากสาเหตุโรคระบาดดังกล่าว ทั้งนี้ได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงวัฒนธรรม

สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม กระทรวงวัฒนธรรม ยังได้สนับสนุนช่วยเหลือศูนย์พักคอย         ในจังหวัดนครปฐม และในวันนี้ได้นำสิ่งของอุปโภค บริโภคมาถวายแด่พระครูปุญญาภิสันท์ เจ้าคณะอำเภอ    บางเลน เจ้าอาวาสวัดบางไผ่นารถ และผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์วัดบางไผ่นารถ ภายใต้โครงการศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ รวมใจภักดิ์ สืบสานอัตลักษณ์ความเป็นไทย ปันน้ำใจ คนไทย     ไม่ทิ้งกัน เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2564  เพื่อนำสิ่งของมอบให้กับผู้กักตัว และให้นำไปใช้ในภารกิจที่ต้องดูแลผู้ที่เข้ารับการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 โดยในช่วงสถานการณ์ปกติได้เป็นสถานที่ให้ความรู้ในด้านพระพุทธศาสนา จัดตั้งเป็นศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ เป็นแหล่งอบรมปลูกฝังศีลธรรม วัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามแก่เด็กและเยาวชน  จัดการศึกษาสงเคราะห์นอกระบบโรงเรียน โดยมีกลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่เป็นเด็ก เยาวชน ที่กำลังอยู่ในวัยแห่งการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้ได้รับการพัฒนาจิตใจอย่างครบถ้วน และในช่วงสถานการณ์วิกฤตจากโรคระบาดดังกล่าว วัดบางไผ่นารถได้มีการจัดสถานที่ให้เป็นที่สงเคราะห์ บริการแก่ประชาชนในพื้นที่ โดยจัดเป็นสถานที่กักตัว และรักษาผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 ที่อาการไม่รุนแรง โดยมีบุคลาการทางแพทย์ทำการรักษาช่วยเหลือผู้ป่วย อย่างใกล้ชิด วัดบางไผ่นารถจึงเป็นศูนย์กลางในการช่วยเหลือประชาชนในชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนได้รับการรักษาได้อย่างรวดเร็ว ทันท่วงที และกลับไปมีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป

Loading