ชุมพร แก็งค์ค้ายา ร้องเพจแก้เกี้ยว ที่แท้รายใหญ่ภาคใต้
ข่าวโดย นายสาธิต ศรีหฤทัย จ.ชุมพร
เมื่อเวลา 15.30 น.วันที 18 กย.64 ที่ สภ.ละแม อ.ละแม จ.ชุมพร พ.ต.ท.นิรันดร์ ชูหลอง สว.ส. พูดคุย ถึงเหตุการณ์ที่ มีเพจนำข้อร้องเรียน ให้ ผบก.ตร.ภ.จว.ชุมพร ตรวจสอบว่ามี ตำรวจของ สภ.ละแม บุกเข้าตรวจค้นบ้านชาวบ้านโดยไม่มีหมายค้น และ ทำลายทรัพย์สิน ยกตู้เชพ จากบ้านเลขที่ 69/25 หมู่ที่ 10 ต.ละแม อ.ละแม จงชุมพร พร้อมทั้งบอกให้เจ้าของบ้านแจ้งความให้ถึงที่สุดนั้น
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านหลังดังกล่าว ในหมุ่บ้านละแมโมเดริน์ เลขที่ 69/25 หมู่ที่ 10 เป็นบ้านชั้นครึ่ง แต่ไม่มีใครอยู่บ้าน จึงได้เดินทางไปยัง สภ.ละแม เพื่อสอบถามรายละเอียด พ.ต.ท.นิรันดร์ เล่าว่า “เมื่อวันที่ 15 กย.เวลา ประมาณ 18.00 น.ได้รับแจ้งจาก จนท.ปกครอง ของ อำเภอละแม ให้ไปร่วมตรวจค้นบ้าน ที่มีผู้ต้องสงสัยว่าค้ายาเสพติด จึงไปที่บ้านเลขที่ 69/25 ในหมู่บ้านละแมโมเดริน์ หมู่ที่ 10 ต.ละแม อ.ละแม จ.ชุมพร พบ นายถนัดกิจ จันทร์กลั่น ปลัดอำเภอละแม ฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วยกำลัง อส. ผู้ใหญ่บ้าน ม.10 พร้อมด้วยเจ้าของโครงการหมู่บ้านละแมโมเดริน์ เข้าตรวจค้นในบ้านพบ สิ่งของผิดกฏหมาย มี อาวุธปืนพกสั้น ขนาด.38 ลูกโม่ไม่มีทะเบียน กระสุนปืน 2 นัด อุปกรณ์เสพยาเสพติด (ยาไอซ์) จำนวน 5 ชุด ตาชั่งดิจิตอล ถุงซิบ ขนาดเล็ก 90 ถุง และ ตู้เชพ1ตู้ จึงยึดมาตรวจสอบ มี ร.ต.อ.ชินวงศ์ ไหมทอง พงส.เป็นร้อยเวพ เจ้าของคดี” ต่อมา ร.ต.อ.ชินวงศ์ ซึ่งไม่ได้เข้าเวร เดินทางมาที่ สภ.ละแม เพื่อทำสำนวนคดี ได้นำของกลางต่างๆมาให้ผู้สื่อข่าวดู ก่อนจะให้รายละเอียดว่า หลังจากตรวจสอบการแจ้งความร้องทุกข์ จาก นายฐิติวัชร บุญกิจ นายอำเภอละแม พร้อมพยานหลักฐาน จึงได้นำเรื่องเสนอ ผู้บังคับบัญชาเพื่อขอออกหมายจับ นายสรรเสริญ ชูเกิด อายุ 31 ปี หรือ นายตั้ม ในข้อหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ไม่มีทะเบียนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน หลบหนีการจับกุม และ ทำให้ทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย ต่อไป
นายถนัดกิจ จันทร์กลั่น ปลัดอำเภอละแม ฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า “ในวันที่ 15 กย.64 เวลาประมาณ 17.00 น.ได้นำกำลัง อส.ละแม ออกตรวจไปในพื้นที่รับผิดชอบ เมื่อผ่านไปยังหน้าบ้านหลังดังกล่าว ทราบว่า เป็นบ้านที่นายสรรเสริญ เช่าอาศัย เห็นภายในบ้านมีรถยนต์กระบะอีซูซุ ตรงตามหลักฐานที่ จนท.ฝ่ายปกครองเคยทำการล่อซื้อยาเสพติดจากนายสรรเสริญ แต่ในครั้งนั้น นายสรรเสริญ ไหวตัวทัน หลบหนีไปได้ และเห็นนายสรรเสริญอยู่ในรถ จึงนำรถยนต์กะบะติดตราของฝ่ายปกครอง อ.ละแม เข้าไปทำการจอดขวางประตูทางออกจากบ้าน อาศัยอำนาจของ พรบ.ยาเสพติด แสดงตัวเป็นจนท.ด้านปราบปรามยาเสพติด ขอให้นายสรรเสริญลงจากรถ เพื่อมาพุดคุย แต่ นายสรรเสริญกลับชี้ให้เข้าไปจับกุมคนในบ้าน แต่ จนท.ไม่ยอมและ ยังขอให้นายสรรเสริญลงจากรถ นายสรรเสริญได้เร่งเครื่องรถพุ่งชนรถยนต์ของทางราชการ ที่มี อส.ชายหญิง2 คน ยืนคุมเชิงไว้กระโดดหลบจ้าละหวั่น แล้วพุ่งหนีออกจากบ้านไป จนท.จึงใช้ปืนยิงใส่ยางรถของนายสรรเสริญ แล้วรีบกลับหัวรถยนต์ติดตามนายสรรเสริญไป แต่ตามไม่ทัน หลังจากนั้นจึงกลับไปที่บ้านหลังดังกล่าว พบว่า คนในบ้านก็หลบหนีไป จึงได้รายงาน นายอำเภอพร้อมทั้ง แจ้งไป สภ.ละแม ให้ ส่งร้อยเวรไปยังที่เกิดเหตุ ให้ ผญบ. และเจ้าของโครงการหมู่บ้านละแมโมเดริน มาร่วมรับทราบในการค้นบ้าน ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย จึงพบสิ่งของผิดกฎหมายและ สิ่งของต้องสงสัยว่าจะเกี่ยวพันกับการค้าขายยาเสพติด พร้อมตู้เชพ นำไปที่ ที่ว่าการอำเภอละแม หลังจากได้รวบรวมรายละเอียดครบจึงได้นำเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ต่อ ตำรวจละแม “
นายถนัดกล่าวต่อไปว่า “สำหรับผู้ต้องสงสัยรายนี้มีประวัติว่ามีที่อยู่หลายสถานที่ มีหมายจับ และ ประวัติทางด้านคดีในพื้นที่ อ.ไชยา จ.สุราษฏร์ธานี รวมถึง ผู้ที่ถูกจับกุมรายย่อยในคดีค้าและเสพยาเสพติดจะให้การว่าไปรับยาเสพติดจาก นายสรรเสริญมาแล้วหลายครั้ง จนสืบทราบว่าเป็นพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ของภาคใต้ตอนบน และมาทราบจากผู้สื่อข่าวว่า มีญาติของนายสรรเสริญร้องเรียนไปยังเพจ แต่กล่าวว่าเป็นตำรวจมาก่อเหตุ
นายฐิติวัชร บุญกิจ นายอำเภอละแม กล่าวว่า “ได้รับรายงานจาก ทีมความมั่นคงในการออกปราบปรามติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยค้ายาเสพติดรายนี้ตลอดเวลา และ ยืนยันว่า จนท.ปฏิบัติไปตามกฎหมายทุกประการ ผู้ต้องสงสัยมีประวัติเกี่ยวพันกับยาเสพติด ในพื้นที่ อ.ละแม และ ใน จ.สุราษฏร์ธานี อุปกรณ์ที่ยึดได้ก็แสดงให้เห็นชัดเจนว่า มีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติด นายอำเภอเองทำงานด้านปราบปรามยาเสพติดมาทุกที่ที่ได้รับตำแหน่งจนได้รับรางวัลต่างๆมากมาย ยืนยันว่า จนท.อ.ละแม ทำตามหน้าที่เพื่อปราบปรามผู้ค้ายาเสพติดตามขั้นตอนของกฎหมายทุกประการ ถึงแม้จะยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ในตอนนี้ แต่ จะติดตามจับกุมตัวมาให้ได้ และ อยากให้ออกมาดำเนินการตามกฎหมายตามที่ร้องเรียนในเพจ เพื่อจะได้จับกุมตัวดำเนินคดีต่อไป”