กาญจนบุรี โหดสุดๆ วัคซีนเข็มที่ 2!! ทีมเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล พร้อมเจ้าหน้าที่ เดินทางเข้าทุ่งใหญ่นเรศวร เพื่อฉัดวัคซีนเข็มที่ 2 (ชิโนฟาร์ม) ให้กับชาวบ้านจะแก 146 คน ด้วยเฮลิคอปเตอร์
โหดสุดๆ วัคซีนเข็มที่ 2!! นายก อบต.ไล่โว่ นำทีมเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล พร้อมเจ้าหน้าที่ เดินทางเข้าทุ่งใหญ่นเรศวร เพื่อฉัดวัคซีนเข็มที่ 2 (ชิโนฟาร์ม) ให้กับชาวบ้านจะแก 146 คน ด้วยเฮลิคอปเตอร์ ของกองกำลังสุรสีห์ โดยการสนับสนุน ของ พลตรี บรรยง ทองน่วม ผบ.พล.ร.9 (กองกำลังสุรสีห์)
วันนี้ 01 ต.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชาย วุฒิพิมลวิทยา นายก อบต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี นำทีมคณะ น.พ. ปัญญา สุนทรฐิติ (ซึ่งเป็นแพทย์จิตอาสา) จาก กทม. พยาบาลจากโรงพยาบาลสังขละบุรี 4 คน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ อบต.ไล่โว่ เดินทางเข้าพื้นที่บ้านจะแก หมู่ที่ 6 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ. กาญจนบุรี
ซึ่งการเดินทางในวันนี้ได้รับการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ จากกองกำลังสุรสีห์ โดย พลตรี บรรยง ทองน่วม ผบ.พล.ร 9 ( กองกำลังสุรสีห์) โดยมี พ.ท.เวหา วิมลโนช นักบินที่ 1 ร.อ.กิตติพงศ์ สวัสดิ์ทิม นักบินที่ 2 จ.ส.อ.ดลวัฒน์ จันทร์หอม จ.ส.อ. ชัยพร พรเจริญ จ.ส.อ. วุฒิพงศ์ วงศ์เพชรอ่อน (ช่างเครื่อง) ช่วยในการลำเลียงเวชภัณฑ์ วัคซีน รวมทั้ง คณะแพทย์ และ พยาบาล เดินทางไปฉีดวัคซีนแก่ชาวบ้านจะแกในครั้งนี้
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 3 กันยายน ที่ผ่านมา คณะแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ อบต.ไล่โว่ ได้เดินทางด้วยรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ เข้าไปฉีดวัคซีนเข็มแรก ให้ชาวบ้าน โดยต้องใช้ระยะเวลาในการเดินทาง เข้า-ออก เป็นเวลา 6 วัน 5 คืน ท่ามกลางอันตรายจากเส้นทาง และ น้ำป่า ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมาในพื้นที่มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ เส้นทางได้รับความเสียหาย น้ำในลำห้วยต่างต่างเพิ่มสูงขึ้น บางช่วงของเส้นทางได้รับความเสียหายจากดินโคลนถล่มปิดเส้นทาง รวมทั้งมีต้นไม้ใหญ่ล้มลงปิดเส้นทางจนไม่สามารถเดินทางเข้าไปได้ จึงขอสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ ในการเดินทางวันนี้ (เสียงนายสมชาย วุฒิพิมลวิทยา)
ซึ่งการเข้าไปดำเนินการฉีดวัคซีน ในวันนี้ เป็นการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ซึ่งประกอบด้วย ชิโนฟาร์ม ที่ชาวบ้านลงทะเบียนไว้กับ อบต.ไล่โว่ 62 โดส และ ซิโนแวค ซึ่งได้รับการจัดสรรมาจาก ร.พ.สังขละบุรี 80 โดส นอกจากนั้นยังมีชาวบ้านบางส่วนที่เดินทางมารับวัคซีนเข็มที่ 1 หลังจากพลาดการฉีดเมื่อครั้งที่ผ่านมา นอกจากชาวบ้านแล้ว ยังมีการฉีดวัคซีนให้พระภิกษุสงฆ์ ที่จำวัดในพื้นที่ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร รวมทั้งครูโรงเรียนบ้านหินตั้งจำนวน 22 คน และ เจ้าหน้าที่ อสม.บ้านจะแก อีกด้วย ซึ่งการฉีดวัคซีนเข็ม 2 ในวันนี้เป็นไปตามขั้นตอนและมาตรฐานที่กระทรวงฯ กำหนด
ภายใต้การควบคุมของแพทย์ โดยมีการวัคความดันและซักประวัติก่อนดำเนินการฉีดวัคซีน และ สังเกตอาการหลังการฉีด จนครบ 30 นาที ก่อนจะทำการวัดความดันอีกรอบก่อนกลับบ้าน พร้อมคำแนะการดูแล และ สังเกตอาการของตนเองภายหลังการรับวัคซีนจากแพทย์ ซึ่งพื้นฐานของชาวบ้านที่นี่เป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรงอยู่แล้ว จึงทำให้ยังไม่พบผู้ที่รับวัคซีนแล้วมีอาการช้างเคียงที่รุนแรง เสียง..นายแพทย์ปัญญา
ทั้งนี้บ้านจะแก มีบ้าน 372 หลัง ประชากร 2,512 คน ประชาชนเป็นชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง ประกอบอาชีพ ทำไร่ปลูกข้าวไร่และข้าวนาไว้บริโภคเอง และ ทำปศุสัตว์
ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร(ทิศตะวันตก) ซึ่งเป็นพื้นที่ห่างไกลและมีความยากลำบากในการเดินทาง โดยห่างจากตัวอำเภอสังขละบุรี ประมาณ 80 กม.ติด ต.แม่จัน อ.อุ้มผาง จ.ตากตำบลไล่โว่ เป็นชุมชนของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงดั้งเดิม ที่อาศัยอยู่ในพื้นมานานกว่า 300 ปี ปัจจุบัน มีประชากรที่มีสัญชาติไทย 6,124 คน นอกจากนั้นยังมีประชากรที่ยังไม่ได้รับสัญชาติไทยอาศัยอยู่อีก จำนวนหนึ่ง
ตำบลไล่โว่ ได้ชื่อว่าเป็นพื้นที่แห่งหนึ่งในประเทศไทย ที่เดินทางเข้ายากลำบากที่สุด โดยเฉพาะบ้านจะแก ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ไกลที่สุด เนื่องจากเส้นทางที่ประชาชนใช้สัญจร เป็นเส้นทางลำลองในป่า ที่ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน และต้องข้ามแม่น้ำลำธารต่างๆ (โดยเฉพาะลำห้วยดงวี่) สลับกับเขาสูงชันโดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ฤดูฝน การเดินทางต้องใช้เวลาเดินทางหลาย
ทั้งนี้การเดินทางเข้าไปฉีดวัคซีนให้ประชาชนถึงหมู่บ้าน ในวันนี้ก็เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนในพื้นที่ ซึ่งหากให้ประชาชนเดินทางออกมาที่โรงพยาบาลสังขละบุรี เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก ที่สำคัญบ้านจะแก มีมีพรมแดนธรรมชาติ ติดกับประเทศเมียนมา ที่กำลังเผชิญกับวิกฤติการระบาดของโควิด -19 จึงเป็นพื้นที่เฝ้าระวังที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งที่ทุกฝ่ายให้ความสำคัญ เนื่องจากหากมีผู้ป่วย โควิด-19 ในพื้นที่นี้ จะก่อให้เกิดปัญหาในการป้องกัน รวมทั้งการรักษา เนื่องจากเป็นพื้นที่ห่างไกล และมีความยากลำบากในการเดินทาง
ปัจจุบันเมื่อเข้าสู่ฤดูฝน หากประชาชนเกิดเจ็บป่วย และมีความจำเป็นต้องเดินทางเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล ก็จะต้องอาศัยการส่งต่อผู้ป่วยผ่านสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินฯ โดยต้องใช้เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ของหน่วยงานราชการ ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ทหาร ตำรวจ มารับผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล
ปรีชา ไหลวารินทร์ / กาญจนบุรี
