กาญจนบุรี ไล่ยาวเน้นหน่วยงานเกี่ยวข้อง พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีติดตามสถานการณ์และแนวทางบริหารจัดการน้ำ สั่งการเร่งขับเคลื่อนโครงการผันน้ำเขื่อนศรีนครินทร์เสริมความมั่นคงน้ำให้ประชาชนในพื้นที่
วันนี้ 20 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เขื่อนแม่กลอง ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดกาญจนบุรี ติดตามสถานการณ์น้ำและแนวทางการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ให้การต้อนรับและรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่ รายงานผลการดำเนินการป้องกันการหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ร่วมกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี และผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 จากนั้นรับฟังการบริหารจัดการน้ำและเตรียมพื้นที่รับน้ำหลากปี 2564 การเตรียมการฤดูแล้งในปี 2564 แนวทางการบริหารจัดการเขื่อนแม่กลองและคลองจระเข้สามพัน โดยกรมชลประทาน รับฟังการนำเสนอศักยภาพและการพัฒนาทรัพยากรน้ำบาดาล จังหวัดกาญจนบุรี โดย กรมทรัพยากรน้ำบาดาล
ต่อจากนั้น รองนายกรัฐมนตรี ได้กดปุ่มเปิดน้ำชุมชน ตำบลทุ่งกระบ่ำ อำเภอเลาขวัญ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับตัวแทนประชาชนที่ประสบอุทกภัยใน 4 อำเภอของจังหวัดกาญจนบุรี รับมอบสุขาลอยน้ำจากกระทรวงแรงงานเพื่อมอบให้กับจังหวัดกาญจนบุรี และพบปะพูดคุยกับผู้นำชุมชน
จากนั้น ในเวลา 11.15 น. พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปยัง เขื่อนศรีนครินทร์ ที่ ห้องประชุมอาคารเคียงธารา เขื่อนศรีนครินทร์ ในการติดตามภาพรวมการเตรียมการรับมือฤดูฝน ปี 2564 และความก้าวหน้าโครงการผันน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ โดยเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) การนำเสนอแนวโน้มสถานการณ์น้ำของเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ รวมถึงรับทราบแนวทางการจัดการและความปลอดภัยของเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติได้ดำเนินโครงการศึกษาความเหมาะสมและวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมการผันน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์ แบ่งการดำเนินงานเป็น 2 ระยะ ระยะที่ 1 โครงการสถานีสูบน้ำจากแม่น้ำแควใหญ่เริ่มดำเนินปี 2566 ระยะเวลาก่อสร้าง 2 ปี เมื่อแล้วเสร็จจะสามารถสูบผันน้ำได้ปีละ 27.25 ล้านลูกบาศก์เมตร มีพื้นที่รับประโยชน์ 78,508 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 21,659 ครัวเรือน ระยะที่ 2 โครงการอุโมงค์ผันน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์ เริ่มดำเนินการปี 2568 ระยะเวลาก่อสร้าง 5 ปี เมื่อแล้วเสร็จจะผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ตามแรงโน้มถ่วงได้ปีละ 265.50 ล้านลูกบาศก์เมตร พื้นที่รับประโยชน์ 486,000 ไร่ มีน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภคในเขตอำเภอเลาขวัญและอำเภอห้วยกระเจา รวม 2.97 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ประชาชนได้รับประโยชน์ 53,810 ครัวเรือน ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการผู้ชํานาญการพิจารณารายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (คชก.) ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ในปี2561-2564 จังหวัดกาญจนบุรี มีแผนงานโครงการด้านน้ำในพื้นที่รวม 1,132 โครงการ เช่น ก่อสร้างปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาค ก่อสร้างระบบผันน้ำจากแม่น้ำแควน้อย–บ้านไตรรัตน์ และก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำแควน้อย ขณะที่งบประมาณบูรณาการปี 2565 จำนวน 39 โครงการ เช่น แก้มลิงบ้านหนองปลาซิว ฝายคลองหมื่นเทพ พร้อมระบบส่งน้ำ ระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนด่านมะขามเตี้ย เป็นต้น ซึ่ง สทนช. จะติดตามและเร่งรัดงานด้านทรัพยากรน้ำทุกโครงการให้เป็นไปตามเป้าหมาย เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชนตามแผนแม่บทฯ น้ำ 20 ปี”
ทั้งนี้ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานเกี่ยวข้องบูรณาการความร่วมมือเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากหรือน้ำป่าไหลหลาก และดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุอย่างเคร่งครัด รวมถึงแผนการช่วยเหลือเยียวยาหรือฟื้นฟูให้กลับมาสู่สภาพเดิมโดยเร็วที่สุด โดยให้ครอบคลุมทุกด้านและทั่วถึงทุกกลุ่มประชาชนที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งให้เร่งรัดการจัดทำแผนหลักแบบบูรณาการเพื่อการบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้ง พร้อมทั้งเน้นย้ำการวางแผนกักเก็บน้ำสำรองทุกแหล่ง ทั้งผิวดินและใต้ดิน ไว้รองรับในช่วงฤดูแล้งหน้าด้วย โดยให้ สทนช. ร่วมกับกรมชลประทาน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) พิจารณากำหนดแผนการจัดสรรน้ำของอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนวชิราลงกรณ และเขื่อนแม่กลอง ซึ่งต้องคำนึงถึงการใช้น้ำทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการสนับสนุนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคให้กับพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยการประปานครหลวง ในช่วงฤดูแล้งที่จะถึงนี้ ให้ทั่วถึงอย่างเท่าเทียมและมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งต้องบริหารจัดการทรัพยากรน้ำให้สอดคล้องกับกฎหมายน้ำด้วย
“แม้ลุ่มน้ำแม่กลองจะเป็นลุ่มน้ำที่มีศักยภาพเก็บกักน้ำได้มาก สามารถส่งน้ำไปช่วยเหลือลุ่มน้ำข้างเคียงได้ก็ตาม แต่จังหวัดกาญจนบุรี ยังมีพื้นที่ภัยแล้งที่เสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำที่เรียกว่า “อีสานของจังหวัดกาญจนบุรี” ครอบคลุม 5 อําเภอใน จังหวัดกาญจนบุรี ได้แก่ อำเภอบ่อพลอย อำเภอหนองปรือ อำเภอห้วยกระเจา อำเภอเลาขวัญ และ อำเภอพนมทวน จึงได้กำชับให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติบูรณาการร่วมกับ กรมชลประทาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งรัดการดำเนินงานโครงการผันน้ำเขื่อนศรีนครินทร์เพื่อบรรเทาภัยแล้ง จังหวัดกาญจนบุรี ให้บรรลุผลเป็นรูปธรรมและยั่งยืน รวมถึงโครงการต่างๆ ที่ได้รับงบประมาณแล้ว ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้ง ในพื้นที่ จังหวัดกาญจนบุรี ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
หลังจากการประชุมเสร็จสิ้น ได้เดินทางต่อไปยังอาคารพลับพลา บริเวณสันเขื่อน เขื่อนศรีนครินทร์ ในการติดตามสถานการณ์น้ำภายในอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ พร้อมพบปะผู้นำชุมชนอีกด้วย
ต่อจากนั้นในเวลา 14.00 น. ที่ หอประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลหลุมรัง อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปมอบถุงยังชีพในพื้นที่อำเภอบ่อพลอย ซึ่งประสบปัญหาน้ำท่วมบ้านเรือนและพืชผลทางการเกษตร ตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม 2564 โดยนำถุงยังชีพจำนวน 2,000 ชุดมอบให้กับตัวแทนประชาชนอำเภอบ่อพลอย เพื่อที่จะนำไปมอบให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัยเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน พร้อมให้กำลังใจประชาชนขอให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้ ทางหน่วยงานภาครัฐจะช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเต็มที่ และได้เดินทางกลับหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ
ปรีชา ไหลวารินทร์ / กาญจนบุรี