กาญจนบุรี – แรงงานเมียนมา ตั้งค่ายพักแรมโดยใช้ใบไม้มาปู อยู่ตามแนวชายแดนรอผู้นำพาเดินทางเข้าพื้นที่ชั้นในตามใบสั่ง ทหารชุด ฉก.กกล.สุรสีห์ – ตร.-ตชด.-ฝ่ายปกครอง จับได้อีก 141 คน กลุ่มล่าสุดพบอีก 71 คน รอผู้นำพาไปรับ โดยใช้ใบไม้มาปูนอนพักแรม เห็นได้จากพื้นที่ดังกล่าวราบเต็มไปด้วยแรงงาน แค่วันเดียวชายแดน อ.ไทรโยค เฉพาะวันนี้จับได้เกิน 400 คน แล้ว
จาก กรณีที่พลเอกประวิทย์ วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมาได้ประชุมร่วมกับหลายหน่วยงาน โดยในที่ประชุมได้กำชับให้ทางจังหวัดกาญจนบุรี เน้นดูแลปัญหาแรงงานเมียนมา ให้เข็มข้นกว่าปกติ และหากพบว่ามีหน่วยงานภาครัฐเข้าไปพัวพันให้ดำเนินการอย่างเฉียบขาด เรื่องนี้โดยนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พล.ต.บรรยง ทองน่วม ผบ.พล.ร.9 พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.อ.เฉลิมชัย ชัดใจ ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พ.อ.ธัชเดช อาบัวรัตน์ รอง.ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พ.ต.อ.สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผกก.กก.ตชด.13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า )
ได้มอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดสนธิกำลังเฝ้าระวังป้องกันการกระทำผิดกฎหมายทุกชนิด โดยเฉพาะการลักลอบเข้ามาราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายของแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเน้นย้ำบริเวณชายแดน 5 อำเภอ ที่มีแนวเขตติดกับประเทศเมียนมา ประกอบด้วย อ.ด่านมะขามเตี้ย อ.เมืองกาญจนบุรี อ.ไทรโยค อ.ทองผาภูมิ และ อ.สังขละบุรี ที่มีระยะทางตามแนวชายแดนรวมกันประมาณ 371 กิโลเมตร
ล่าสุดวันนี้ 25 ต.ค.64 เจ้าหน้าที่ทหาร กกล.สุรสีห์ โดย หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ ได้รับการประสานจาก เจ้าหน้าที่ทหารชุดปฏิบัติการข่าว กกล.สุรสีห์ ว่าจะมีแรงงานชาวเมียนมาอีกเป็นจำนวนมาก ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายโดยใช้ช่องทางธรรมที่มีชายแดนติดกับประเทศเมียนมาในพื้นที่ หมู่ 4 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
หลังรับแจ้งจึงสนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ร้อย.ตชด.136 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไทรโยค เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ไทรโยค และ เจ้าหน้าที่สาธารณะสุข อ.ไทรโยค เดินทางไปตรวจสอบบริเวณจุดที่ได้รับแจ้ง จนกระทั่งพบกลุ่มแรงงานชาวเมียนมาทั้งชายหญิงหลบซ่อนตัวอยู่ภายในป่าท้องที่หมู่ 4 ต.ศรีมงคล เจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุม นับรวมกันได้ทั้งหมด จำนวน 141 คน เป็นชาย 75 คน หญิง 55 คน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ได้ทำการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย เบื้องต้น ไม่พบสูงเกิน 37.5 องศาเซลเซียส
จากการสอบถามทราบว่า แรงงานทั้งหมดเป็นชาว จ.ทวาย จ.พะโค กรุงย่างกุ้ง รวมทั้งรัฐยะไข่ และ จ.เมาะลำไย ประเทศเมียนมา โดยมีจุดมุ่งหมายไปทำงานในพื้นที่ ของจังหวัดชั้นใน โดยก่อนเดินทางข้ามชายแดนเข้ามาในประเทศไทย ได้จ่ายค่าหัวให้กับนายหน้าไปแล้วรายละ 20,000 บาท
หลังจากกลุ่มแรงงานยอมรับสารภาพเจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค เพื่อสอบปากคำเพิ่มเพื่อขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการ ก่อนที่จะดำเนินคดีในข้อหา กระทำผิดฐาน ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยไม่ได้รับอนุญาต (พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522) และฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ตามมาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2019
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น เจ้าหน้าที่ชุดเดียวกันจับกุมแรงงานชาวเมียนมาที่ลักลอบเข้ามาทางด้านชายแดนอำเภอไทรโยค ได้ จำนวน 120 คน และวันนี้เพียงวันเดียว เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมแรงงานได้ทั้งหมด มากถึง 189 คน
โดยล่าสุดเมื่อเวลา 17.30 น. ของวันที่ 25 ต.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่ กกล.สุรสีห์ โดย ฉก.ลาดหญ้า ได้รับการประสานจาก ชุดปฏิบัติการข่าว กกล.สุรสีห์ ทราบว่าจะมีการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง จึงจัดกำลังร่วมกับ ร้อย.ตชด.136, สภ.ไทรโยค ฝ่ายปกครอง อ.ไทรโยค และ สาธารณะสุข อ.ไทรโยค เข้าทำการตรวจสอบ พบผู้กระทำผิด ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยไม่ได้รับอนุญาต (พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522) และฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ตามมาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2019 สัญชาติเมียนมา จำนวน 71 ราย (ช.36 ญ.35) บริเวณ บ.พุพญา หมู่ที่ 4 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งจากการเข้าไปตรวจพบแรงงานทั้งหมดได้นำใบไม้มารองปูนอนพักแรม รอการเดินทางเข้าพื้นที่ชั้นใน ตามแหล่งต่างๆ ที่ได้นัดกับผู้นำพากันไว้ แต่ถูกเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจพบและจับกุมได้เสียก่อน จึงไม่พบผู้นำพาแต่อย่างใด
จากการสอบถามเบื้องต้น ทราบว่าทั้งหมดเดินทางมาจาก ทวาย, พะโค และ เมาะลำไย สมม. จากนั้นเดินทางต่อถึงฝั่งชายแดนไทย และจะเข้าไปในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร, กทม., จ.นครปฐม, จ.สระบุรี, จ.ชลบุรี และ จ.กาญจนบุรี โดยจะจ่ายเงินให้กับนายหน้าเมื่อถึงที่หมาย เป็นเงิน 17,000 – 20,000 บาท/คน จนท.สาธารณสุข ได้ทำการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ผู้ต้องหาเบื้องต้น ไม่พบอุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 37.5 องศาเซลเซียส จึงนำตัวผู้ต้องหาส่งเจ้าหน้าที่ เพื่อดำเนินการสืบสวน สอบสวนเพิ่มเติม และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
แรงงานเหล่านี้ได้เตรียมรอเข้าพื้นที่ชั้นในอย่างต่อเนื่อง ตามกระแสข่าวที่ได้มาทราบว่าแรงงานนับหมื่นคน เตรียมรอเดินทางเข้ามาในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ทำให้ จนท.ทุกหน่วยช่วงนี้ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างหนักมากกว่าปกติ เพื่อยับยั้งแรงงานเหล่านี้ แต่ทำได้ตามที่เป็นข่าวตลอดแรงงานเข้ามามากในช่วงนี้
ปรีชา ไหลวารินทร์ / กาญจนบุรี