กาญจนบุรี – สส.ยศวัฒน์ เขต 3 กาญจน์ พาสำรวจเส้นทางท่องเที่ยววิถีใหม่ในฐานะอำเภอหน้าด่านประตูสู่จังหวัดกาญจนบุรี ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยป้องกันโรคโควิด-19 พร้อมรับนักท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 นี้ ในรูปแบบ New Normal
วันนี้ 31 ต.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจังหวัดกาญจนบุรี เขต 3 พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ตามที่นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้มีการประชุมมอบแนวทางและมอบหมายภารกิจให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการขับเคลื่อนฟื้นฟูเศรษฐกิจท่องเที่ยวของจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจตามแนวทางมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยกระดับให้มีมาตรฐาน สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวในการเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรีให้เกิดความมั่นใจในการเดินทางมาท่องเที่ยว การเลือกซื้อสินค้าและบริการในจังหวัดกาญจนบุรี ในรูปแบบการท่องเที่ยวแบบ New Normal สนองนโยบายรัฐบาลที่สั่งการให้มีการเปิดรับการเดินทางของนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศโดยไม่ต้องกักตัว สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว โดยเริ่มวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 นี้
ดังนั้นเพื่อเป็นการสนองนโยบายของนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีที่จะเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยว ตนในฐานะสส.พื้นที่ท่ามะกา และอำเภอพนมทวน ได้สนองตอบต่อนโยบายดังกล่าว จึงได้ลงพื้นที่สำรวจเส้นทางท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังจังหวัดกาญจนบุรี โดยอำเภอท่ามะกาและอำเภอพนมทวนถือว่าเป็นอำเภอด่านหน้าในการต้อนรับนักท่องเที่ยว ซึ่งวันนี้ตนได้นำคณะลงพื้นที่ศึกษาเส้นทางท่องเที่ยววิถีใหม่ โดยเริ่มต้นเข้าสู่จังหวัดกาญจนบุรีผ่านตลาดลูกแกเข้าซอยไปเล็กน้อยก็จะพบกับอันซีนทางวัฒนธรรมอันเก่าแก่สไตล์ธิเบตที่วัดโพธิ์เย็นตำบลดอนขมิ้น อำเภอท่ามะกา ภายในพระอุโบสถมีพระปฏิมากรพระศากยมุนีพระพุทธเจ้าประดิษฐานอยู่กลางเป็นพระประธาน รองลงมามีพระไวโรจน์พุทธเจ้า และซ้ายขวามีรูปพระเวทโพธิสัตว์ และ พระสังฆารามปาลโพธิสัตว์ด้านหน้าพระอุโบสถมีรูปพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ประดิษฐานอยู่ เป็นประติมากรรมลักษณะนูนต่ำ รวมทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆที่เคยปกปักรักษาให้มีความแคล้วคลาดปลอดภัยอยู่เย็นเป็นแก่ประชาชนชาวลูกแกมาอย่างยาวนาน เมื่อกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์วัดโพธิ์เย็น(วัดจีน)แล้วสามารถเดินทางต่อไปยังวัดใหม่รางวาลย์จะพบกับพระอุโบสถจัตุรมุขตั้งตระหง่านบริเวณประตูทางเข้าและเข้ากราบไหว้พระนอนที่ใหญ่ที่สุดในเขต 7 ภายในบรรจุหัวใจพระพร้อมพุทธประวัติบรรยายธรรมให้แก่นักท่องเที่ยวได้เข้ามาศึกษา
จากนั้นแวะชิวพักรับประทานอาหารกลางวันท่ามกลางบรรยากาศท้องทุ่งนาเขียวขจีที่ร้านลั่นทุ่งคาเฟ่ ตำบลโคกกระบอง ซึ่งบรรยากาศภายในร้านตกแต่งด้วยสไตล์เหมือนบ้านโอบล้อมด้วยทุกนาเขียวขจีดูแล้วเพลินตา พร้อมอาหารเครื่องดื่มไว้บริการด้วยราคาสบายกระเป๋า ก่อนจะเดินทางว้าวไปอันซีนยังวัดเขาช่อง ตำบลเขาสามสิบหาบ นับเป็นวัดที่ตกแต่งแบบไทยรามัญท่ามกลางวิวทิวทัศน์ของท้องทุ่งนาและบ้านเรือนของประชาชนรอบวัดที่สวยงามท่ามกลางตะวันตกดินเป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด นอกจากนั้นยังมีสถานที่ที่น่าสนใจสามารถเที่ยวชมได้ตลอดเส้นทางที่อยู่ใกล้กัน อาทิเช่น วัดปากบางที่มีโบสถ์มหาอุตที่เก่าแก่เชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่เคารพบูชาของประชาชนมารุ่นต่อรุ่นส่วนท้ายวัดจะมีลำธารไหลเชื่อมต่อกับแม่น้ำแม่กลองท่ามกลางบรรยากาศที่ร่มรื่นสามารถเป็นจุดพักรถก่อนเดินทางต่อ
สส.ยศวัฒน์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับ อำเภอท่ามะกาและอำเภอพนมทวน นั้นถือว่าเป็นอำเภอด่านหน้าในการต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนยังจังหวัดกาญจนบุรี โดยตนได้มีการแผนในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวต่างๆเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั้งในรูปแบบบ้านพัก โฮมสเตย์ โดยเบื้องต้นจะเน้นในรูปแบบวันเดย์ทริป เพื่อให้นักท่องเที่ยวใช้เป็นจุดเช็คอิน จุดพักผ่อน ก่อนจะเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆของจังหวัดกาญจนบุรี โดยได้บรูณาการกับผู้นำชุมชน ผู้นำหมู่บ้านร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการต้อนรับนักท่องเที่ยวเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับจังหวัดกาญจนบุรีเกิดความประทับใจและเดินทางกลับมาท่องเที่ยวอีกครั้งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับประชาชนในพื้นที่และจังหวัดกาญจนบุรี ได้อีกทางหนึ่ง แต่ทั้งนี้ก็ยังขอความร่วมมือในการปฏิบัติตามมาตรการการเฝ้าระวังของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของจังหวัดกาญจนบุรี อย่างเข้มงวด ไม่ประมาท กราด์อย่าตกเพื่อก้าวผ่านสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน สส.ยศวัฒน์ กล่าว
ปรีชา ไหลวารินทร์ / กาญจนบุรี