ราชบุรี – ทวี” ฉะ “อุ๊งอิ๋ง” ไม่มีวิสัยทัศน์ แค่เปิดตัวยังพูดไม่จริง
จากกรณี เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยจัดงานประชุมใหญ่ประจำปีภายใต้ธีม “พรุ่งนี้เพื่อไทยเพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน” ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ขอนแก่น โดยมีวาระสำคัญคือการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค และเลือกตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.ชุดใหม่ โดยในงานประชุมใหญ่ฯ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และได้แนะนำ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ “อุ๊งอิ้ง” ลูกสาวของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย โดย น.ส.แพทองธาร ได้พูดถึงวิสัยทัศน์ว่า “มีความใกล้ชิดกับคุณพ่อ ตามคุณพ่อในยุคการเมืองตั้งแต่อายุ 8 ปี คุณพ่อตั้งพรรคไทยรักไทย พาลงพื้นที่ตลอดเวลา”
ล่าสุดวันนี้่( 31 ต.ค.) นายทวี ไกรคุปต์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม บิดาของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีตส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ ถึงที่พรรคเพื่อไทย แต่งตั้ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ้ง ขึ้นเป็นประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย โดยได้กล่าวว่า ตนขอต้อนรับน้องใหม่ น้องอุ๋งอิ๋ง เป็นประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมนวัตกรรมของพรรคเพื่อไทย แต่ที่ตนถึงกับงง หลังเปิดตัวประชุมใหญ่วิสามัญประจำปีของพรรคเพื่อไทย ตนได้ดูและอ่านข่าววิสัยทัศน์ของ น้องอุ๋งอิ๋ง ที่บอกว่า “มีความใกล้ชิดกับคุณพ่อ ตามคุณพ่อในยุคการเมืองตั้งแต่อายุ 8 ปี คุณพ่อตั้งพรรคไทยรักไทย พาลงพื้นที่ตลอดเวลา”
แต่ช่วงที่ตนได้ร่วมหาเสียงให้พรรคเพื่อไทยในปี 2544 ในทุกพื้นที่ทุกภาคทุกจังหวัด ให้กับนายกทักษิณ ตนซึ่งมั่นใจว่าอยู่ในช่วงหาเสียงมาตลอดเวลา แต่เท่าที่ผ่านมาตนไม่เคยเห็น น้องอุ๋งอิ๋ง เดินตามคุรพ่อหาเสียงหรือปราศรัยที่ไหนเลย ตามที่ น้องอุ๋งอิ๋ง เปิดวิสัยทัศน์ตามที่เป็นข่าว ที่ตนพูดมานั้นไม่ใช่จะมาจับผิดอะไร ตนเห็นอะไรตนก็พูดตามความจริง ไม่ได้มีเจตนาอะไรเลย มันขัดแย้งกับที่น้องอุ๋งอิ๋งพูดว่า พ่อพาเดินสายหาเสียงตลอดเวลา ซึ่งตนอยากพูดว่า “การเป็นนักการเมืองที่ดี ต้องพูดความจริงกับประชาชน จึงจะเป็นที่น่าเชื่อถือ”
น้องอุ๋งอิ๋ง ได้แสดงวิสัยทัศน์ต่อว่า “การเข้ามาทำงานในพรรคเพื่อไทย ไม่ได้มาทำการเมือง” ทำให้ตนและประชาชนงงในคำพูดของ น้องอุ๋งอิ๋ง ทั้งที่มาเปิดตัวเป็นประธานคณะที่ปรึกษของพรรคแล้ว มาพูดแสดงวิสัยทัศน์แล้ว ในวันประชุมใหญ่สำคัญของพรรคอยู่ในท่ามกลางบรรยากาศของนักการเมือง ทั้งเนื้อหาสาระที่พูดก็เป็นสาระของการเมือง ตนถึงไม่เข้าใจและแปลกใจว่า น้องอุ๋งอิ๋ง พูดสรุปแสดงวิสัยทัศน์ในช่วงท้ายว่า “ตนเองไม่ใช่นักการเมือง การเข้ามาทำงานในพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่มาเป็นนักการเมือง” เป็นการพูดที่สุดแปลก เป็นการพูดที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง หรือในพฤติกรรมที่ปฏิบัติ ในวันนั้นถ้าน้องอุ๋งอิ๋ง อยากจะเป็นนักการเมือง ก็ไม่ควรรังเกียจนักการเมือง หรือคำว่าเป็นนักการเมือง
วันรุ่งขึ้นหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ พาดหัวว่า “ตู๋ มึน อุ๋งอิ๋ง ไม่มีความกดดันใดๆ” ซึ่ง พล.อ. ประยุทธ์ ถูกถามเรื่อง น.ส.แพรทองธาร เข้ามาเป็นประธานคณะที่ปรึกษาของพรรคเพื่อไทย พล.อ.ประยุทธ์ ไม่พูดอะไรมากเลย แต่มันกลับเป็นเรื่องมันใหญ่โตกับคำที่นายกถามว่า “เขาคือใคร ใครก็ไม่รู้ก็ไปว่ากันมา” เมื่อถามว่า “จะสู้ได้หรือไม่” พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบคำถาม เมื่อถามย้ำว่า “กดดันหรือไม่” นายกกล่าวว่า “ไม่มีอะไรหรอก ก็อยู่คนละพรรคกัน” แต่ลูกชายของ นายกทักษิณ ได้ทวิตเตอร์ข้อความหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า “นายก ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า ไม่รู้จักอุ๋งอิ๋ง หรือ น.ส.แพรทองธาร” ซึ่งท่านไม่ได้พูดอย่างนี้เลย ไม่ได้บอกว่าไม่รู้จักกันเลย กลับใส่เอาคำพูดมาใส่ปากว่าท่านพูดท่านไม่ได้พูด พร้อมนายพานทองแท้ ระบุว่า “อุ๋งอิ๋ง คือหลานของ นายกปู ก็คือนายกหญิงคนแรกของไทย ที่ลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ มาเกาะโต๊ะของบซื้ออาวุธ โดยอ้างว่า ตราบใดที่ผมยังเป็น ผบ.ทบ.จะไม่ให้มีการรัฐประหาร”
ตนขอเรียนว่า เรื่องงบดังกล่าว เป็นเงินภาษีของประชาชนไม่ใช่ ซึ่งซื้อมาเป็นของกองทัพบก ไม่ใช่เป็นของท่านนายกประยุทธ์ การจัดงบทุกองค์กร รวมกองทัพบกก็เช่นเดียวกัน จัดไปตามหน่วยงานที่ขึ้นตรงเสนอขอมา แล้วนำเสนอปลัดกระทรวงดำเนินต่อไป ถือเป็นการหมดหน้าที่ จึงไม่มีความจำเป็นที่ พล.อ.ประยุทธ์ “จะต้องเกาะโต๊ะกราบไหว้ นายกปู เพื่อของบ ไม่มีประโยชน์ ไม่มีเหตุผลอะไร เป็นการพูดเพื่อดิสเครดิต พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี” ทั้งพูดโม้โอ้อวดว่า “อาปูเป็นนายกที่ยิ่งใหญ่ในแผ่นดิน” ถ้ายิ่งใหญ่จริงตามที่คุย ทำไมนายกปู ต้องหนีคดีทุจริต 6 แสนล้านบาท ไปอยู่ที่ประเทศดูไบ ทิ้งภาระหนี้ 6 แสนล้านบาท ให้กับประชาชนจนถึงลูกถึงหลานถึงเหลนถึงโหลนถึงทุกรัฐบาล ทำให้ใครที่ขึ้นมาเป็นรัฐบาล ก็ต้องกู้เงินเพื่อผ่อนใช้หนี้ และดอกเบี้ยเงินที่ทุจริต แล้วยังหนีคดีไปต่างประเทศ ทำให้ลูกน้องหลายคนติดคุกหัวโต คนละ 50 ปี
สุจินต์ นฤภัย(เต้) จ.ราชบุรี