‘บิ๊กต่อ’ เดอะโอ๋ !!! ร่วมแถลงข่าวรวบเพิ่ม 5 โจ๋ ยกพวกดวลปืนสนั่นเมืองเพชรบุรี
วันที่ 31 ตุลาคม 2564 ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วย ผบ.ตร.พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พ.ต.อ.วันชัย ขาวรัมย์ ผกก.สภ.เมืองเพชรบุรี ร่วมแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องเพิ่มเติมจำนวน 5 คนนายกฤษฎา ยิ่งยง อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับเลขที่273/2564 นายณกรพัสส์ ทรัพย์เกิด อายุ 25 ปีชาวจว.เพชรบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับเลขที่274/2564 นายชนาธิป หรือ อาร์ท กิตติเวช อายุ 22 ปีชาว จว.เพชรบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับเลขที่ 275/2564 นายจิระธนินทร์ หรือ เรด นาคหมื่นไวย์ อายุ 23 ปีผู้ต้องหาตามหมายจับเลขที่ 276/2564 นายอันดา หรือโต๊ด เดชรุ่ง อายุ 23 ปีชาว จว.สุพรรณบุรีผู้ต้องหาตามหมายจับเลขที่ 277/2564 ผู้ต้องหาตามหมายศาลจังหวัดเพชรบุรี ข้อหาความผิดฐาน “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันมีอาวุธปืนและกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนายทะเบียน, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวและโดยไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนตามสมควร, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร” รวมจำนวน 9 คน พร้อมของกลางรถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแมกซ์ สีเทา 4 ประตู หมายเลขทะเบียน 6 กฐ 4972 กรุงเทพมหานครจำนวน 1 คัน รถยนต์เก๋งโตโยต้า รุ่น CAMRY สีขาว หมายเลขทะเบียน 8696 เพชรบุรี จำนวน 1 คัน รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่น HRV สีดำ หมายเลขทะเบียน กน 9936 เพชรบุรีจำนวน 1คัน รถยนต์กระบะโตโยต้า รุ่น VIGO 4 ประตู สีดำ หมายเลขทะเบียน กง 6045 เพชรบุรีจำนวน 1 คัน อาวุธปืนพกสั้นแบบกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ COLT ขนาด .380 เลขทะเบียน กท 55250606 จำนวน 1 กระบอก และอาวุธปืนพกสั้นแบบกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อเรมิงตัน ขนาด .45 เลขทะเบียน 1/11076 จำนวน 1 กระบอก
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 กล่าวว่าทั้งนี้การจับกุมดังกล่าวเป็นการขยายผลการจับกุมผู้ต้องหา จากกรณีเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 27 ตุลาคม ที่เกิดเหตุวัยรุ่นของ “กลุ่มหน้าลาบ” กับ “กลุ่มไร่กล้วย” ฝ่ายละกว่า 10 คน ยกพวกก่อเหตุทะเลาะวิวาท ชกต่อย และต่างฝ่ายใช้อาวุธปืนจำนวนหลายกระบอกยิงต่อสู้ตอบโต้กันไปมา ที่บริเวณถนนเลียบคลองชลประทาน ตรงข้าม นาซ่าผับ บ้านนาแค หมู่ 5 ต.ต้นมะม่วง อ.เมือง จว.เพชรบุรี ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนหลายรายเข้ารักษาตัวโรงพยาบาลพระจอมเกล้าฯ เพชรบุรี และโรงพยาบาลกรุงเทพเพชรบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดเพชรบุรี ตรวจพื้นที่พบปลอกกระสุนปืน ขนาด.38 , ขนาด.380 และขนาด .45 ตกกระจายอยู่ทั่วบริเวณบนถนนและไหล่ทาง จำนวนมาก ใกล้กับจุดเกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแม๊ก สีบรอนด์ หมายเลขทะเบียน 6 กฐ 4972 กรุงเทพมหานคร จอดทิ้งไว้ 1 คัน
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 กล่าวต่อว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน บก.สส.ภ.7 บูรณาการกำลังร่วมกับ กก.สส.ภ.จว.เพชรบุรี และ สภ.เมืองเพชรบุรีลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ จนกระทั่งสืบทราบว่าผู้ที่กันร่วมก่อเหตุมีด้วยกันจำนวน 2 กลุ่ม คือ “กลุ่มหน้าลาบ” ที่นำโดย นายจิระธนินทร์ หรือเรด กับพวก ประมาณ 10 คน และ “กลุ่มไร่กล้วย” ที่นำโดยนายภานุวัฒน์ หรือเกมส์ กับพวกประมาณ 15 คน โดยทั้ง 2 กลุ่มมีเรื่องบาดหมางกัน ท้าทายกันทางเฟสบุ๊ค และมีการนัดมาพบกันบริเวณที่เกิดเหตุ เมื่อถึงที่เกิดเหตุมีการพูดจาด่าทอ และท้าทายกัน กระทั่งเกิดชกต่อยกันและมีเสียงปืนดังขึ้น
จากนั้นทั้ง 2 ฝ่ายจึงเกิดการยิงโต้ตอบใส่กันไปมาหลายสิบนัด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเพชรบุรี จึงรวบรวมพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ขอหมายจับจากศาลจังหวัดเพชรบุรี และจับกุมผู้ต้องหาที่ปรากฏภาพชัดในคลิป VDO เบื้องต้นไปแล้วเมื่อวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมาจำนวน 4 คน คือ เมื่อวันที่ 29 ต.ค.2564 จำนวน 4 คน นายภาณุวัฒน์ น้อยคง อายุ 24 ปี ชาวจว.เพชรบุรีผู้ต้องหาตามหมายจับเลขที่ 267/2564 นายชินาธิป ศักดิ์ปรีชา อายุ 22 ปี ชาวจว.เพชรบุรีผู้ต้องหาตามหมายจับเลขที่ 268/2564 นายธนกฤต โชคพินอุดม อายุ 23 ปี ชาวจว.เพชรบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับเลขที่ 269/2564 นายณธภณ โพธิ์ศิริ อายุ 24 ปีชาวจว.เพชรบุรีผู้ต้องหาตาม หมายจับเลขที่ 270/2564
ในการปฏิบัติในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมบูรณาการกำลังตามหลักการ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในเวลาต่อมา การปฏิบัติการดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้จึงถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในการพิทักษ์และรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง
ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 7 ได้ฝากถึงประชาชนว่าตำรวจทำงานอย่างเต็มที่และให้ความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย ขอชมเชยพร้อมทั้งขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป
ด้าน พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วย ผบ.ตร.เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญถือว่าเป็นการเย้ยกฎหมายบ้านเมือง ทางนายกรัฐมนตรีและสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นย่างมาก จึงกำชับให้ตำรวจภูธรภาค 7 ลงพื้นที่มาดำเนินการกวดล้างจับกุม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมด 9 คน ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างขออนุมัติหมายจับซึ่งคาดว่าจะได้ตัวทั้งหมดมาดำเนินคดีทางกฎหมายในเร็วนี้