วันอังคาร, 24 ธันวาคม 2567

ศรีสะเกษ !! เลขาธิการสมาพันธ์สมาคมครูไทยค้าน พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ….เผยหากระบุว่าใครก็เป็นครูสอนเด็กได้จะส่งผลร้ายต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของคนไทยเป็นอันตรายต่อความมั่นคงทุกด้าน

ศรีสะเกษ !! เลขาธิการสมาพันธ์สมาคมครูไทยค้าน พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ….เผยหากระบุว่าใครก็เป็นครูสอนเด็กได้จะส่งผลร้ายต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของคนไทยเป็นอันตรายต่อความมั่นคงทุกด้าน

เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 64 ที่หอประชุมสหกรณ์ออมทรัพย์ครูศรีสะเกษ จำกัด อ.เมืองศรีสะเกษ นายวิสัย เขตสกุล เลขาธิการสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (ส.ค.ท.) พร้อมด้วย นายอุดม โพธิ์ชัย ประธานชมรมครูประถมศึกษา จ.ศรีสะเกษ นายสุนทร กุมรีจิตร รองเลขาธิการสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (ส.ค.ท.) ได้ร่วมกันจัดเวทีเสวนาฝ่าวิกฤติ ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ……ซึ่งการจัดเสวนาครั้งนี้ สมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (ส.ค.ท.)ร่วมกับ ชมรมครูประถมศึกษา จ.ศรีสะเกษและองค์กรเครือข่ายทุกองค์กร ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมครั้งนี้ขึ้นโดยมีสมาชิกชมรมครูประถมศึกษา จ.ศรีสะเกษ ประกอบด้วย ผู้บริหารโรงเรียน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา มาเข้าร่วมเสวนาจำนวนมาก

นายวิสัย เขตสกุล เลขาธิการสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (ส.ค.ท.) กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ…. เป็นร่าง พ.ร.บ.ที่องค์กรครูทั่วประเทศคัดค้านมาตลอดไม่เห็นด้วยและถึงแม้ว่าจะเข้ากฤษฎีกาแล้วและปรับปรุงแก้ไขก็ยังเป็นที่กังวลของพี่น้องครู ที่สำคัญก็คือพี่น้องครูนั้นไม่สบายใจกลัวจะเป็นเหตุการณ์ที่กระทบต่อความเป็นอยู่ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจสังคมและการเมือง เช่น 1.เด็กจะไม่เคารพพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ บุคคลที่ควรเคารพ 2.จะเกิดสงครามกลางเมือง 3.เด็กจะขาดศักยภาพในการแข่งขันนานาชาติ ซึ่ง พ.ร.บ.ไม่เอื้อ ที่สำคัญอีกประเด็นหนึ่งก็คือจะถ่ายโอนการจัดการศึกษาไปสู่เอกชนเนื่องจากรัฐจะไม่จัดการศึกษาเอง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. …ฉบับนี้ ไม่ให้ครูเป็นวิชาชีพควบคุม ใครก็เป็นครูได้ ใครก็จัดการศึกษาได้ ครูเปรียบเสมือนเบ้าหลอมหรือแบบพิมพ์ของทุกคนในชาติ ถ้าคนเรียนเก่งมากๆ มาเป็นครู ลูกศิษย์ของครูก็จะเก่งมากด้วย พ่อแม่ต่างรักลูกดุจแก้วตาดวงใจ เกิดมาชาติหนึ่งจะทุกข์จะยากแค่ไหนก็ขอให้ได้ครูเก่งที่สุดและดีที่สุดให้ลูกก็พอ

นายวิสัย เขตสกุล กล่าวต่อไปว่า ประเทศมหาอำนาจ ให้ครูเป็นวิชาชีพชั้นสูง ให้ทั้งเกียรติและค่าตอบแทนมากกว่า ทำให้คนเก่งและดีที่สุดเลือกเรียนครู นักเรียนจึงเก่ง โตขึ้นเป็นพลเมืองมีคุณภาพสูง สร้างประเทศเป็นผู้นำด้านการพัฒนา ตามร่าง พรบ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ…. ตนเห็นว่า รัฐบาลนี้ไม่ต้องการให้คนไทยเป็นคนเก่งและคนดีมากนัก เพราะ ม.48 วรรคหนึ่ง ให้จัดการศึกษาในสถานศึกษาหรือนอกสถานศึกษา จะจัดโดยบุพการีหรือผู้ปกครอง ม.11(2) และ(3) ได้ให้บิดามารดา ผู้ปกครอง และบุคคลธรรมดาทั่วไปเป็นครูสอนลูกหลานของตนและบุคคลทั่วไปได้ ตั้งแต่ระดับก่อนวัยเรียนจนจบชั้น ม.6 โดยไม่มีเงื่อนไข ไม่จำเป็นต้องให้ครูเป็นวิชาชีพชั้นสูง ดังนั้น นับแต่ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ….มีผลบังคับใช้ นักเรียนที่สอบเรียนต่อไม่ได้แล้ว จึงจะหันกลับมาเลือกเรียนครู น่าสงสารอนาคตของชาติ ที่รัฐบาลสร้างตรรกะการจัดการศึกษาให้ใครๆ ก็เป็นครูสอนเด็กได้ ส่งผลร้ายต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของคนไทย นับเป็นอันตรายต่อความมั่นคงทุกด้าน อีกไม่นานเราจะสูญเสียเอกราชทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมแบบเบ็ดเสร็จ ตนเห็นว่ารัฐตั้งเป้าไม่ให้ประชาชนเป็นคนฉลาด เพราะปกครองยาก แต่ถ้าประชาชนไม่ค่อยฉลาดมากนัก ก็จะปกครองได้ง่ายขึ้น ตนและองค์กรครูทั่วประเทศขอคัดค้าน พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ…. จนกว่าจะมีการแก้ไขตามที่องค์กรครูได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็นเพื่อให้ทำการแก้ไขปรับปรุงให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อภาพรวมของการจัดการศึกษาของประเทศชาติต่อไป

นายอุดม โพธิ์ชัย ประธานชมรมครูประถมศึกษา จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ในฐานะประธานชมรมครูประถมศึกษา จ.ศรีสะเกษที่ได้ติดตามวิเคราะห์ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ…. ฉบับนี้มาโดยตลอดแล้ว เห็นว่าร่าง พ.ร.บ.การศึกษาฉบับนี้มีวัตถุประสงค์มีเจตนารมณ์อยู่ 2 เรื่องใหญ่ๆ ก็คือ 1.ไม่ต้องการให้ครูเป็นข้าราชการเพื่อที่จะประหยัดงบประมาณในด้านของบำเหน็จบำนาญ 2. มีเจตนาที่จะยกการศึกษาให้เอกชนเป็นผู้จัดการศึกษา ในเมื่อมีเจตนารมณ์อยู่ 2 ประเด็นนี้เราก็เป็นห่วงว่าขีดความสามารถในการจัดการศึกษาของประเทศจะเป็นอย่างไร ในเมื่อไม่ให้คนดีคนเก่งมาเป็นครูไม่ให้ครูเป็นวิชาชีพควบคุม

นายสุนทร กุมรีจิตร รองเลขาธิการสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (ส.ค.ท.) กล่าวว่า พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ…..ฉบับนี้เป็นสิ่งที่น่าห่วงเพราะว่าภาพกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ไม่ตอบโจทย์ต่อการพัฒนาประเทศชาติ ถ้าหากไม่มีการปรับแก้ เชื่อว่าอีกไม่เกิน 5 ปีข้างหน้าจะเกิดศึกใหญ่กลางใจเมือง เพราะว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้จะสร้างกลุ่มคนที่มีความคิดที่แตกต่างกัน ในมาตรา 11 นั้นบ่งบอกไว้ว่าเปิดทางให้บุคคลหรือว่าบิดา มารดา บุพการี คณะบุคคลทั่วไปสามารถจัดการศึกษาได้ โดยที่ไม่มีเงื่อนไขให้จัดการศึกษาได้ เมื่อการจัดการศึกษาใครก็จัดกันได้ แนวคิดเป้าหมายในการจัดการศึกษาก็ย่อมแตกต่างกัน จึงจะทำให้เด็กไทยต่อไปนี้ จะไหว้พระสวดมนต์ได้ปีละกี่ครั้ง จะร้องเพลงชาติไทยดัง ๆ ได้ปีละกี่หน จะทนฟังเพลงชาติและเพลงสรรเสริญพระบารมีได้กี่มากน้อย จึงฝากพี่น้องเพื่อนครูทั่วประเทศว่า ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ…. ฉบับนี้ถ้าไม่มีการปรับแก้ไขตามที่องค์กรครูเราเรียกร้องจะเกิดอันตรายต่อประเทศชาติในอนาคตเป็นอย่างมาก

ข่าว/ภาพ…… บุญทัน ธุศรีวรรณ ศรีสะเกษ

Loading