เดอะโอ๋ !!! ประชุมเร่งรัดติดตามผลความคืบหน้าผลของคดี
วันที่ 22 พ.ย. 64 ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 จว.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 ได้เดินทางมาประชุมเร่งรัดติดตามผลความคืบหน้าของคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ และเป็นที่น่าสนใจของประชาชน ในคดี “เหตุคนร้ายพยายามฆ่าฯ นายสุคนธ์ ศรีสำราญ ด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่ สนามฟุตบอลหญ้าเทียม Triple S ม.2 ต.โคกพระเจดีย์ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2564 เวลา 20.00 น.”โดยมี พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พล.ต.ต.อภิชาติ วรรณภักดิ์ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พ.ต.อ.ชิตภพ โตเหมือน รอง ผบก.สส.ภ.7
พ.ต.อ.ณัฐพิสิษฐ์ รัตนอุดมพล ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.ภาณุทัต เหลืองสัจจกุล ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ธนบดี บุญพา นวท.(สบ.4) ศพฐ.7 พ.ต.ท.ธีรพันธ์ เรืองเกษมพงศ์ รอง ผกก.(สอบสวน)สภ.นครชัยศรี
พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 กล่าวในที่ประชุมโดยได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน เร่งรัดสืบสวนหาพยานหลักฐานในคดีตามที่ได้สั่งการเพิ่มเติม และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสอบสวน สอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องในคดีเพิ่มเติม เร่งติดตามผลการตรวจพิสูจน์หลักฐาน จากกองพิสูจน์หลักฐาน และติดตามผลชันสูตรบาดแผล นำเข้าสำนวนการสอบสวน และดำเนินการตามที่ได้สั่งการเพิ่มเติม
พร้อมให้ผู้บังคับบัญชา ควบคุมกำกับดูแลและสั่งการในคดีด้วยตนเอง,ให้ดำเนินการแจ้งความคืบหน้าทางคดีให้ฝ่ายผู้เสียหายทราบเป็นระยะ และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกันและให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในคดีทุกนาย พึงระมัดระวังการให้ข่าว โดยเน้นย้ำ อย่าให้มีการเผยแพร่แนวทางการสืบสวน หรือข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องทางคดี ต่อสื่อมวลชนหรือมีภาพไปปรากฎยังสื่อโซเชี่ยลมีเดียต่างๆเพราะจะทำให้ข้อมูลความลับคดีหรือเทคนิคในการสืบสวนรั่วไหล ทำให้ทำงานได้ยาก และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายให้ทำงานร่วมกันเป็นทีม(teamwork) บูรณาการการข่าวร่วมกันทุกฝ่าย แบ่งหน้าที่กันทำงานให้ชัดเจนพร้อมให้รายงานผลการปฏิบัติให้ทราบทุกระยะ หากพบปัญหาให้รายงานให้ทราบ เน้นย้ำอย่าให้เกิดข้อบกพร่องและให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายยึดหลักการทำงานแบบ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” และ “ขยัน อดทน ดำรงตนอย่างมีเกียรติ”