ตร.ปส.รวบยกแก๊ง เอริ๊กหรือจ่าปู บ้านลาดพร้อมของกลางยาบ้า 60,000 เม็ด
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 26 เม.ย.60 พล.ต.ต.ดุษฎี ชูสังกิจ ผบก.ปส.4 พ.ต.อ.วัชระ ทิพย์มงคล พ.ต.อ.อานันทพงศ์ เชิดเกียรติกุล รอง ผบก.ปส.4 พ.ต.อ.ยุทธนา พฤกษารุ่งเรือง ผกก.1 บก.ปส.4 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาจำนวน 3 คน นายอภิวัฒน์ หรือเอริ๊ก ชะเอมน้อย อายุ 34 ปีอยู่บ้านเลขที่ 105 ม.4 ต.ถ้ำรงค์ อ.บ้านลาด จว.เพชรบุรี นายบรรพจน์ หรือพจน์ ศรีจันทร์ อายุ 41 ปีอยู่บ้านเลขที่ 131/1 ม.3 ต.ปึกเตียน อ.ท่ายาง จว.เพชรบุรี นายมานะ หรือนะ บัวสุวรรณ อายุ 40 ปีอยู่บ้านเลขที่ 146 หมู่ 12 ต.ดอนยาง อ.เมืองเพชรบุรี จว.เพชรบุรีพร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวน 30 มัดรวมประมาณ 60,000 เม็ดโทรศัพท์มือถือจำนวน 5 เครื่องรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้าสีแดงหมายเลขทะเบียน ขงธ 553 เพชบุรีจำนวน 1 คัน อาวุธปืน Remington ขนาด .45 จำนวน 1 กระบอกหมายเลขทะเบียน อ.บ.1/10508 เครื่องกระสุนปืนขนาด.45 มม.จำนวน 7 นัดบรรจุอยู่ในซองบรรจุกระสุนปืนจำนวน 1 ซอง ซองพกอ่อน จำนวน 1 ซองรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้าสีขาวหมายเลขทะเบียน กฉ 8184 เพชรบุรี จำนวน 1 คัน
พ.ต.อ.วัชระ กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดของนายอภิวัฒน์ต้องการจำหน่ายยาบ้าจำนวน 30 มัด (รวม 60,000 เม็ด)ในราคามัดละ100,000 บาทรวมทั้งหมดเป็นเงิน 3,00,000 บาทจึงได้ให้สายลับพร้อมเจ้าหน้าที่อำพรางทำการติดต่อล่อซื้อและนัดดูเงินส่งมอบกันในพื้นที่ จว.เพชรบุรีโดยนายอภิวัฒน์ได้นัดหมายให้สายลับมาพบที่บริเวณร้านกาแฟแบล็คแคนย่อนภายในปั้มน้ำมัน ปตท.บางเค็ม ต.ห้วยโรง อ.เขาย้อย จว.เพชรบุรีจึงวางแผนพร้อมวางกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนอำพรางตัวอยู่ภายในบริเวณใกล้เคียงจุดนัดหมายจนกระทั่งถึงเวลานัดนายอภิวัฒน์ ได้เดินเข้ามาพบสายลับและและเจ้าหน้าที่อำพรางได้พานายอภิวัฒน์ ไปดูเงินที่รถซึ่งจอดอยู่ที่ลานจอดรถบริเวณหน้าร้านแบล็คแคนย่อนเมื่อดูเงินเป็นที่พอใจแล้วนายอภิวัฒน์ได้แจ้งให้ขับรถยนต์ไปจอดคอยที่บริเวณริมถนนตรงสะพานยกระดับสาย 2 ต.ท่ายาง อ.ท่ายาง จว.เพชรบุรีเมื่อเดินทางไปถึงจุดนัดหมายนายบรรพจน์ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาพร้อมกับนายมานะได้เปิดประตูรถของเจ้าหน้าที่อำพรางและเข้ามานั่งและได้พาไปจุดที่ได้วางยาบ้าไว้ซึ่งอยู่ตรงที่ถังขยะใกล้สะพานยกระดับสาย 2 โดยนายบรรพจน์ ได้ขับรถจักรยานยนต์นำหน้าเจ้าหน้าที่อำพรางไปเมื่อถึงจุดที่วางยาบ้าได้เปิดประตูรถยน์เดินลงไปหยิบยาบ้าจำนวน 30 มัดตามที่นายมานะบอกตรวจสอบพบว่าเป็นยาบ้า เจ้าหน้าที่อำพรางจึงส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเข้าแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการจับกุมนายมานะและนายบรรพจน์ ได้พยายามต่อสู้ขัดขืนการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจจนเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บขณะเข้าจับกุมจำนวน 3 นาย(ด.ต.สหัส เกี้ยงบางยาง,ส.ต.ท.ณัฐวุฒิ จันทะวงศ์และส.ต.ท.นุวัต เขียนโกลา)
จากการสอบสวนนายอภิวัฒน์ ให้การรับสารภาพว่ายาบ้าเป็นของนายกิตติ ได้ให้ตนเองมาดูเงินโดยตนเองจะได้ค่าจ้างเป็นเงิน 60,000 – 70,000 บาท เมื่อทำงานเสร็จแล้วส่วนนายบรรพจน์และนายมานะจะทำหน้าที่ไปรับของ-ส่งของ
พ.ต.อ.ยุทธนา กล่าวว่าขณะนี้ได้ทำการสืบสวนขยายผลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการพร้อมตรวจสอบยึดอายัดทรัพย์สินตามพรบ.มาตรการของกลุ่มนายอภิวัฒน์ในเบื้องต้น มีฟาร์มวัวชน วัวชนจำนวน 3 ตัว สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารต่างๆทองรูปพรรณอื่นอีกหลายรายการมูลค่ากว่า 2 ล้าน
โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” และแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหา 2 เพิ่มเติมว่า“มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในทางไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทาง สาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็น และไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว”และแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาที่ 2 และ3 ว่า“ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฎิบัติหน้าที่ ”
จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง พนักงานสอบสวน.บก.ปส.4 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป