วันอังคาร, 24 กันยายน 2567

เดอะโอ๋ !!! ถกทีมสืบสวนเร่งไล่ล่า 4 นักโทษ

12 ธ.ค. 2021
49

เดอะโอ๋ !!! ถกทีมสืบสวนเร่งไล่ล่า 4 นักโทษ

วันนี้ 12 ธ.ค.64 เวลาประมาณ 12.00 น.ที่สภ.สามควายเผือก จว.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พล.ต.ต.วิสิทธิ์ ศิริสหวัฒน์ ผบก.ศพฐ.7พ.ต.ท.วรชัย อารักษ์รัฐ ผบช.เรือนจำกลางนครปฐม พ.ต.อ.สธนทัต ตั้งสิทธิ์เสรีวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.พงษ์สวัสดิ์ คำปาเชื้อ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ต่อวงศ์ พิทักษ์โกศล ผกก.ปพ.ภ.7 พ.ต.อ.ศุภชัย ไตรสมบูรณ์ นวท.(สบ.5) ศพฐ.7 พ.ต.อ.นฤพนธ์ วานิชนุเคราะห์ ผกก.สภ.สามควายเผือก พ.ท.คชธร สารีทอง ผู้บังคับกองเรือนจำ มทบ.11 ร่วมประชุมเร่งรัด ติดตามความคืบหน้าของคดีผู้ต้องขังหลบหนีออกจากเรือนจำชั่วคราวทุ่งน้อย (มทบ.11) ต.ทุ่งน้อย อ.เมือง นครปฐม ซึ่งเป็นผู้ต้องขังเข้าใหม่ ที่ถูกแยกกักตัวตามมาตราป้องกันโรคโควิท 19 หลบหนีไปจากเรือนนอนชาย(พลเรือน) จำนวน 9 คน เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2564 เวลาประมาณ 02.30 น.

หลังจากนั้นได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม “ข้อหาความผิดฐาน ร่วมกันหลบหนีไประหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจศาลโดยแหกที่คุมขังและร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป และกระทำด้วยประการใดๆให้เข้ามา,ครอบครอง,ใช้ในเรือนจำซึ่งสิ่งของต้องห้าม(เลื่อยเหล็ก) ซึ่งเป็นเครื่องมืออันเป็นอุปกรณ์ในการหลบหนี”

โดยสามารถจับกุมเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2564 1.นายวัชระ มะโนมั่น อายุ 28 ปี หมายจับเลขที่ จ.353/2564 2.นายเอกราช แป้งกลั่น อายุ 18 ปี หมายจับเลขที่ จ.349/2564 3.นายวีรเชษฐ์ เทพชู อายุ 28 ปี หมายจับเลขที่ จ.354/2564 4.นายนัถกร มาตรวังแสง อายุ 24 ปี หมายจับเลขที่ จ.348/2564 5.นายไพฑูรย์ มีคลองแบ่ง อายุ 36 ปี หมายจับเลขที่ จ.351/2564 พร้อมด้วยของกลาง ใบเลื่อยจำนวน 1 อัน ( 2 ชิ้น )ตรวจยึดได้บริเวณใกล้กับห้องน้ำภายในที่เกิดเหตุจำนวน 1 ชิ้น และ พบเจออยู่ในกระเป๋าเสื้อของผู้ต้องขังที่นำไปวางไว้บนลวดหนามหีบเพลง ใกล้กับกำแพงที่ผู้ต้องขังปีนหลบหนีไปจำนวน 1 ชิ้น เสื้อสีฟ้าของผู้ต้องขังจำนวน 1 ชิ้นตรวจยึดได้บนกำแพงห้องน้ำ เสื้อสีฟ้าของผู้ต้องขังจำนวน 1ชิ้น ที่ภายในพบบัตรประชาชน นายพาณิช บัวศร ตรวจยึดได้บริเวณบนลวดหนามหีบเพลงที่อยู่ใกล้กับกำแพงที่ผู้ต้องขังปีนหลบหนีไป เศษผ้าห่มและผ้าเช็ดตัว จำนวน 1 ถุงซึ่งตรวจยึดได้บริเวณบนลวดหนามหีบเพลงที่อยู่ใกล้กับกำแพงที่ผู้ต้องขังปีนหลบหนีไป

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 กล่าวว่าเมื่อวันที่11 ธันวาคม 2564 เวลาประมาณ 02.30 น. พ.ต.ท.ธนิศร เอกรัตนณัฐ สว.(สอบสวน) สภ.สามควายเผือก ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุว่า มีผู้ต้องขังหลบหนีออกจากเรือนจำชั่วคราวทุ่งน้อย ตำบลทุ่งน้อย อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบเจ้าหน้าที่เรือนจำพลเรือน แจ้งว่ามีผู้ต้องขังเข้าใหม่ ที่ถูกแยกกักตัวตามมาตราป้องกันโรคโควิท 19 หลบหนีไปจากเรือนนอนชาย(พลเรือน) จำนวน 8 คน ต่อมาวันเดียวกันเวลา 10.55 น.พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสามควายเผือกได้รวบรวมพยานหลักฐานและขออนุญาตต่อศาลจังหวัดนครปฐมออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด ศาลจังหวัดนครปฐม อนุมัติตามหมายจับที่จ.346-354/2564
ต่อมาภายในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่เรือนจำนครปฐมได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องขังที่หลบหนีได้จำนวน 5 ราย ตามรายชื่อข้างต้นนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจสามควายเผือกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 5 คนนั้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีกจำนวน 4 คน ได้แก่ผู้ต้องหาที่ 6.นายบำรุง วงศ์สว่าง อายุ 43 ปี ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจังหวัดนครปฐม ดำเนินการติดตามจับกุมตัว และผู้ต้องหาที่ 7.นายพัชรวุฒิ มูลทองสงค์ อายุ 38 ปี 8.นายจำรูญ คล้ายสุบรรณ อายุ 33 ปี 9.นายพานิช บัวศร อายุ 35 ปี ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภาค ดำเนินการติดตามดำเนินคดีต่อไป

พร้อมทั้งได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในคดีทุกนาย พึงระมัดระวังการให้ข่าว โดยเน้นย้ำอย่าให้มีการเผยแพร่แนวทางการสืบสวน หรือข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องทางคดี ต่อสื่อมวลชนหรือมีภาพไปปรากฎยังสื่อโซเชี่ยลมีเดียต่าง ๆ เพราะจะทำให้ข้อมูลความลับคดีหรือเทคนิคในการสืบสวนรั่วไหล ทำให้ทำงานได้ยาก ทั้งนี้หากใครพบเห็นผู้ต้องหาดังกล่าว สามารถแจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทุกเมื่อ
ในการปฏิบัติในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมบูรณาการกำลังตามหลักการ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในเวลาต่อมา การปฏิบัติการดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้จึงถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในการพิทักษ์และรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง

Loading