วันศุกร์, 7 กุมภาพันธ์ 2568

นาย วีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำส่วนราชการ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองและบวงสรวงถวายพระเจ้าอู่ทอง เป็นปฐมฤกษ์ ก่อนจัดงาน “ยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก” 17-26 ธ.ค.นี้

นาย วีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำส่วนราชการ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองและบวงสรวงถวายพระเจ้าอู่ทอง เป็นปฐมฤกษ์ ก่อนจัดงาน “ยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก” 17-26 ธ.ค.นี้

วันที่ 13 ธันวาคม นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานนำส่วนราชการ และพี่น้องประชาชน ร่วมประกอบพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัด ประกอบด้วย ศาลหลักเมือง อยุธยามหาปราสาท บวงสรวงสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) และพระบรมสารีริกธาตุ เป็นปฐมฤกษ์ ก่อนการจัดงาน “ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก” ประจำปี 2564 เพื่อเฉลิมฉลองที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ตั้งแต่ปี 2534 เป็นต้นมา

นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ในปีนี้พิเศษกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากครบ 30 ปี ที่ยูเนสโก้ยกย่องให้อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2534 จนถึงปีนี้ เป็นปีที่ 30 ได้เน้นการเฉลิมฉลองครบ 3 ทศวรรษ แห่งการเป็นเมืองมรดกโลก โดยกำหนดจัดงานดังกล่าวขึ้น ระหว่างวันที่ 17 – 26 ธันวาคม 2564 (รวม 10 วัน 10 คืน) ณ บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เพื่อเป็นการตอกย้ำให้โลกรู้ว่าอยุธยามีดี ตลอดจนเพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) เป็นการสืบสานมรดกทางวัฒนธรรม ประเพณีไทย พร้อมจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมขอเชิญชวนแต่งกายผ้าไทยร่วมประกาศกึกก้องความเป็นเมืองมรดกโลก ภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมโรคไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

ดร.จิระพันธุ์ พิมพ์พันธุ์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ในปี้นี้เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 จึงไม่สามารถนำคณะนางรำชาวอยุธยา 16 อำเภอมารำบวงสรวงถวายแด่สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ได้ ในปีนี้มีเพียงครูต้นแบบ จำนวน 30 ท่าน มารำบวงสรวงครั้งนี้ สุขุม แก้วกุดั่น อยุธยา

Loading