วันอังคาร, 24 กันยายน 2567

เดอะโอ๋ !!! แถลงปิดคดี ผู้ต้องขังหลบหนีออกจากเรือนจำชั่วคราวทุ่งน้อย (มทบ.11) โดยใช้เวลาในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดเพียง 3 วันเศษ

16 ธ.ค. 2021
46

เดอะโอ๋ !!! แถลงปิดคดี ผู้ต้องขังหลบหนีออกจากเรือนจำชั่วคราวทุ่งน้อย (มทบ.11) โดยใช้เวลาในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดเพียง 3 วันเศษ

วันที่ 15 ธ.ค.64 ที่ สภ.ควายสามเผือก พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อม พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พล.ต.ต.วิสิทธิ์ ศิริสหวัฒน์ ผบก.ศพฐ.7 พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวาณิชกูล ผบก.สส.ภ.7 นายณรงค์ จุ้ยเส่ย รองอธิบดีกรมราชฑัณฑ์ พ.ต.ท.วรชัย อารักษ์รัฐ ผบช.เรือนจำกลางนครปฐม

พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าวว่าการประชุมเร่งรัดติดตามความคืบหน้าของคดีกรณีผู้ต้องขังหลบหนีออกจากเรือนจำชั่วคราวทุ่งน้อย (มทบ.11) ต.ทุ่งน้อย อ.เมือง นครปฐม ซึ่งเป็นผู้ต้องขังเข้าใหม่ ที่ถูกแยกกักตัวตามมาตราป้องกันโรคโควิท 19 หลบหนีไปจากเรือนนอนชาย(พลเรือน) จำนวน 9 คน 1.นายวัชระ นะโมมั่น อายุ 28 ปี ความผิดฐานทำร้ายร่างกาย 2.นายเอกราช แป้งกลั่น อายุ 18 ปี ความผิดฐาน พรบ.ยาเสพติด 3.นายวีรเชษฐ์ เทพชู อายุ 28 ปี ความผิดฐาน ลักทรัพย์ 4.นายนัถกร มาตรวังแสง อายุ 24 ปี ความผิดฐาน ลักทรัพย์ 5.นายไพฑูรย์ มีคลองแบ่ง อายุ 36 ปี ความผิดฐาน พรบ.ยาเสพติด 6.นายบำรุง วงศ์สว่าง อายุ 43 ปี ความผิดฐาน พรบ.ยาเสพติด 7.นายพัชรวุฒิ มูลทองสงค์ อายุ 38 ปี ความผิดฐาน พรบ.ยาเสพติด 8.นายจำรูญ คล้ายสุบรรณ อายุ 33 ปี ความผิดฐาน พรบ.ยาเสพติด 9.นายพานิช บัวศร อายุ 35 ปี ความผิดฐาน พรบ.ยาเสพติด เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2564 เวลาประมาณ 02.30 น.”
จากนั้นได้ร่วมกันแถลงข่าว จับกุม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม (เพิ่มเติม) ในข้อหาความผิดฐาน ร่วมกันหลบหนีไประหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจศาลโดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป และกระทำด้วยประการใดๆให้เข้ามา/ครอบครอง/ใช้ในเรือนจำซึ่งสิ่งของต้องห้าม(เลื่อยเหล็ก) ซึ่งเป็นเครื่องมืออันเป็นอุปกรณ์ในการหลบหนี ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับที่หลบหนีได้แล้ว จำนวน 5 คน และเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.64 ได้ร่วมกันจับกุมนายจำรูญ คล้ายสุบรรณ อายุ 33 ปี หมายจับเลขที่ จ.350/2564 โดยจับกุมได้ที่ สถานีตำรวจภูธรบางหลวง จังหวัดนครปฐม และนายพานิช บัวศร อายุ 35 ปี หมายจับเลขที่ จ.352/2564 โดยจับกุมได้ที่ หน้าบ้านเลขที่ 61 หมู่ 17 ตำบลบางหลวง อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ต่อมาเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 64 เจ้าหน้าที่ได้จับกุมนายพัชรวุฒิ มูลทองสงค์ หมายจับเลขที่จ.347/2564 ซึ่งเป็นตัวการในการหลบหนีที่คุมขังในครั้งนี้ โดยจับกุมได้ที่ ภายในโรงแรม 59 รีสอร์ท ตำบลบางเลน อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐมพร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำนวน 100 เม็ด,วิกผม สีน้ำตาลเข้ม (ที่ใช้ในการปลอมตัว),แว่นตา (ที่ใช้สำหรับปลอมตัว),โทรศัพท์ จำนวน 2 เครื่อง,รถยนต์เก๋งยี่ห้อ Honda civic สีน้ำตาล ทะเบียน วศ-6216 กทม. จำนวน 1 คัน ในชั้นจับกุม แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบว่า ร่วมกันหลบหนีไประหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจศาลโดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ ๓ คนขึ้นไป และ จำหน่ายโดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
วันเดียวกัน เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.64 เวลาประมาณ 20.50 น. ได้ร่วมกันจับกุมนายบำรุง วงศ์สว่าง หมายจับเลขที่ จ.346/2564 โดยจับกุมได้ที่ สวนมะพร้าว ถนนเลียบคลองรางยาว ตำบลบางพระ อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าวว่า ผู้ต้องขังที่หลบหนีจากเรือนจำชั่วคราวทุ่งน้อย ทั้งหมด 9 คน ซึ่งหลบหนีไปตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค. 64 สามารถติดตามจับกุมตัวได้ครบทั้งหมด โดยสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาคนสุดท้ายได้ในวันที่ 14 ธ.ค. 64 โดยใช้เวลาในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดเพียง 3 วันเศษ ผู้ต้องหาทั้ง 9 คน ได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และ จะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ในการปฏิบัติในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมบูรณาการกำลังตามหลักการ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในเวลาต่อมา การปฏิบัติการดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้จึงถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในการพิทักษ์และรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง

ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 7 ได้ฝากถึงประชาชนว่าตำรวจทำงานอย่างเต็มที่และให้ความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย ขอชมเชยพร้อมทั้งขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป

Loading