เดอะโอ๋ !!! ประชุมเร่งรัด ติดตามความคืบหน้าของคดีตรวจยึดกัญชา จำนวน 320 แท่ง
วันนี้ 15 ธ.ค.64 เวลาประมาณ 13.00 น.ที่ สภ.กำแพงแสน จว.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง ผบช.ภ.7 พร้อมด้วยพล.ต.ต.พิสิฐ ตันประเสริฐ รอง ผบช.ภ.7(ปส) พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม นายอภินันท์ เผือกผ่อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม นายอำนาจ เหล่ากอที ผอ.ปปส.ภ.7 และ รอง ผบก.ฯ ผกก.ฯ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมเร่งรัด ติดตามความคืบหน้าของคดี “ตรวจยึดกัญชา จำนวน 320 แท่ง น้ำหนักต่อแท่ง 1 กิโลกรัม โดยแบ่งบรรจุใส่กระสอบ จำนวน 8 กระสอบ กระสอบละ 40 แท่ง และแต่ละกระสอบห่อด้วยถุงพลาสติกสีดำอีกชั้นหนึ่งซุกซ่อนอยู่ในป่าปรือในที่ดินว่างเปล่าของนายสุชาติ ห้วยหงษ์ทอง ภายในหมู่บ้าน หมู่ที่ 7 ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จว.นครปฐม เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2564 เวลาประมาณ 17.00 น.”
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง ผบช.ภ.7 กล่าวในที่ประชุมโดยได้กำชับสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน เร่งรัดสืบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยให้ตรวจสอบกล้องวงปิดทั้งบริเวณจุดทิ้งของ เส้นทางไปและเส้นทางกลับ สืบสวนเดินภาคพื้นดิน บ้านเรือนประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ตรวจสอบภาคอากาศ จุดบริเวณที่ใกล้เคียง และให้ติดตามตัวเจ้าของมาดำเนินคดีให้จงได้ ตามที่ได้สั่งการเพิ่มเติม และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสอบสวน ดำเนินการเร่งรัดผลตรวจพิสูจน์หลักฐาน เร่งรัดผลการตรวจลายนิ้วมือ ผลการตรวจพิสูจน์หลักฐาน DNA นำเข้าในสำนวนการสอบสวน เร่งรัดดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับเจ้าของ โดยให้อยู่ภายใต้แนวทางของกฎหมายอย่างเคร่งครัด พร้อมให้ผู้บังคับบัญชา ควบคุมกำกับดูแลและสั่งการในคดีด้วยตนเอง,ให้ดำเนินการแจ้งความคืบหน้าทางคดีเป็นระยะ และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน และให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในคดีทุกนาย พึงระมัดระวังการให้ข่าว โดยเน้นย้ำอย่าให้มีการเผยแพร่แนวทางการสืบสวน หรือข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องทางคดี ต่อสื่อมวลชนหรือมีภาพไปปรากฎยังสื่อโซเชี่ยลมีเดียต่าง ๆ เพราะจะทำให้ข้อมูลความลับคดีหรือเทคนิคในการสืบสวนรั่วไหล ทำให้ทำงานได้ยาก พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายให้ทำงานร่วมกันเป็นทีม(teamwork) บูรณาการการข่าวร่วมกันทุกฝ่าย แบ่งหน้าที่กันทำงานให้ชัดเจน และ ให้รายงานผลการปฏิบัติให้ทราบทุกระยะ หากพบปัญหาให้รายงานให้ทราบ เน้นย้ำอย่าให้เกิดข้อบกพร่อง
จากนั้นได้ร่วมกันแถลงข่าวตรวจยึด ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชาแห้งชนิดอัดแท่ง) ซุกซ่อนห่อด้วยกระดาษฟรอยด์สีทอง และห่อด้วยพลาสติกใสอีกชั้นหนึ่ง จำนวน 320 แท่ง น้ำหนักต่อแท่ง 1 กิโลกรัม โดยแบ่งบรรจุใส่กระสอบ จำนวน 8 กระสอบ กระสอบละ 40 แท่ง และแต่ละกระสอบห่อด้วยถุงพลาสติกสีดำอีกชั้นหนึ่งซุกซ่อนอยู่ในป่าปรือในที่ดินว่างเปล่าของนายสุชาติ ห้วยหงษ์ทอง ภายในหมู่บ้าน หมู่ที่ 7 ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จว.นครปฐม
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.64 เวลาประมาณ 17.00 น.ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กำแพงแสน ได้รับแจ้งจาก นายอุดม ห้วยหงส์ทอง ว่าได้ขับรถไถเพื่อทำการปรับพื้นที่ป่าปรือในที่ดินว่างเปล่าของนายสุชาติ ห้วยหงษ์ทอง (พี่ชายของนายอุดมฯ) ม.7 ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จว.นครปฐม ได้พบวัตถุห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกสีดำ จำนวน 8 ถุง วางซ้อนทับกัน ด้วยความสงสัยจึงได้ทำการเปิดดู พบว่าเป็นกระสอบซึ่งภายในบรรจุกัญชาอัดแท่งจำนวนมาก จึงได้แจ้งเจ้าพนักงานตำรวจให้มาตรวจสอบจากนั้นเจ้าพนักงานตำรวจได้ร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบ พบว่าเป็นกัญชาแห้งชนิดอัดแท่ง ห่อด้วยกระดาษฟรอยด์สีทอง และห่อด้วยพลาสติกใสอีกชั้นหนึ่ง จำนวน 320 แท่ง น้ำหนักต่อแท่ง 1 กิโลกรัมโดยแบ่งบรรจุใส่กระสอบ จำนวน 8 กระสอบ กระสอบละ 40 แท่ง และแต่ละกระสอบห่อด้วยถุงพลาสติกสีดำอีกชั้นหนึ่ง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพนักงานตำรวจจึงได้ร่วมทำการตรวจยึดของกลางดังกล่าว ส่งพนักงานสอบสวน สภ.กำแพงแสน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สืบเนื่องจากการตรวจยึดของเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนหาสาเหตุที่มียาเสพติดจำนวนมากถูกตรวจยึดในครั้งนี้จากเหตุใด เป็นของผู้ใดหรือมีการซุกซ่อนไว้ระหว่างลำเลียงเพื่อทำการค้าหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค7จะบูรณาการตามหลักการ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก”สืบสวนหาสาเหตุและตัวผู้การทำความผิดต่อไป
ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 7 ได้ฝากถึงประชาชนว่าตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ หากประชาชนผู้ใดพบสิ่งของต้องสงสัยว่าอาจเป็นสิ่งของผิดกฎหมาย สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค7 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค7จะติดตามหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้จงได้ และขอชมเชยพร้อมทั้งขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป
