วันอังคาร, 24 กันยายน 2567

เดอะโอ๋ !!! แถลงปิดคดีรวบ 2 โจ๋ยิงเด็กต่างสถาบันดับ 1 เจ็บ 1

25 ธ.ค. 2021
51

เดอะโอ๋ !!! แถลงปิดคดีรวบ 2 โจ๋ยิงเด็กต่างสถาบันดับ 1 เจ็บ 1

วันที่ 25 ธ.ค.64 ที่สภ.สามควายเผือก ต.สามควายเผือก อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา รอง ผบช.ภ.7 (สส) พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.พงษ์สวัสดิ์ คำปาเชื้อ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ณัฐพิสิษฐ์ รัตนอุดมพล ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.อรรถการ กองสุผล ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ธนบดี บุญพา นวท.(สบ.4) พฐ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.นฤพนธ์ วานิชนุเคราะห์ ผกก.สภ.สามควายเผือก และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครปฐมจำนวน 2 คน นายเอ(นามสมมุติ)อายุ 17 ปี ตามหมายจับเลขที่ 4 /2564 ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2564 และนายบี(นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ตามหมายจับเลขที่ 5/2564 ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2564 ในความผิดฐาน “ร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร” พร้อมของกลางอาวุธปืนพกสั้นลูกโม่ รีวอลเวอร์ สมิธแอนด์เวสสัน หมายเลขทะเบียน กท 835709 ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก ตรวจยึดได้จากผู้ก่อเหตุกลุ่มที่ 1 ลูกกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 2 นัด ตรวจยึดได้จากผู้ก่อเหตุกลุ่มที่ 1 รองเท้าผ้าใบ ยี่ห้อ คอนเวิร์ส สีเทาจำนวน 1 คู่ ตรวจยึดได้จากผู้ก่อเหตุกลุ่มที่ 1 หมวกกันน็อคยี่ห้อ อินเด็ก สีขาว จำนวน 1 ใบ ตรวจยึดได้จากผู้ก่อเหตุกลุ่มที่ 1,รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ 110 สีดำแดง ทะเบียน 1กด-5980 นครปฐม จำนวน 1 คัน,เสื้อช็อปสีเทา จำนวน 1 ตัว กางเกงขายาวยี่ห้อ Dickies สีดำ จำนวน 2 ตัว รองเท้าใบสีน้ำตาลยี่ห้อ workland จำนวน 1 คู่ กระสุนปืน(ตะกั่ว) จำนวน 1 ลูก ตรวจยึดได้ในสถานที่เกิดเหตุ มีดยาว จำนวน 3 เล่ม ตรวจยึดได้ในสถานที่เกิดเหตุบริเวณถนนหน้าร้านบิ๊กซีมินิมาร์ท สามควายเผือก หมู่ 3 ต.ธรรมศาลา อ.เมืองนครปฐม จว.นครปฐม

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 กล่าวว่าเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 64 เวลาประมาณ 14.37 น.ที่ผ่าน ผู้ก่อเหตุกลุ่มที่นายเอ ขับขี่รถจักรยานยนต์ของกลางโดยมีนายซี (นามสมมุติ) นั่งกลางและนายบี (นามสมมุติ) นั่งซ้อนท้ายหลังสุด มาตามถนนที่เกิดเหตุ เมื่อถึงทางโค้งบริเวณบิ๊กซีมินิมาร์ท พบฝ่ายผู้ก่อเหตุ กลุ่มที่ 2 คือ นาย ก (นามสมมุติ) และ นาย ข (นามสมมุติ) ที่ได้ขับขี่รถสวนทางกัน ต่อมาฝ่ายผู้ก่อเหตุกลุ่มที่ 2 ได้ขับรถวกกลับมาไล่กวดฝ่ายผู้ก่อเหตุกลุ่มที่ 1 และลงจากรถจักรยานยนต์ใช้อาวุธมีดคนละเล่มไล่กวดฟันฝ่ายผู้ก่อเหตุกลุ่มที่ 1 นายซี จึงวิ่งหลบหนีเข้าไปหลบอยู่ภายในห้างบิ๊กซี ต่อมานายบี ใช้อาวุธปืนยิงไปที่ผู้ก่อเหตุกลุ่มที่ 2 จำนวน 1 นัด ทำให้นาย ข ได้รับบาดเจ็บ โดยฝ่ายผู้ก่อเหตุกลุ่มที่ 2 ยังคงกลับไล่กวดฟันผู้ก่อเหตุกลุ่มที่ 1 ซ้ำอีก นายบีจึงใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปที่นาย ก อีก 1 นัด ทำให้นาย ก ถึงแก่ความตายในที่เกิดเหตุ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปสถานที่เกิดเหตุ พบนาย ก นอนเสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุ และพบนาย ข ถูกอาวุธปืนยิงได้รับบาดเจ็บ จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลนครปฐม และได้พบลูกกระสุนปืน(ตะกั่ว) จำนวน 1 ลูก กับมีดยาว จำนวน 3 เล่ม ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 กล่าวต่อว่า ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ทําการสืบสวนสอบสวนจนทราบว่าบุคคลที่ก่อเหตุ คือนายบี (นามสมมุติ) อายุ 17 ปีเป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธยิงนาย ก (นามสมมุติ) จนเสียชีวิต และนาย ข (นามสมมุติ) ได้รับบาดเจ็บ โดยมีนาย เอ (นามสมมุติ)เป็นผู้ขับขี่
จึงได้รวบรวมวัตถุพยานหลักฐานต่างๆ ภาพจากกล้องวงจรปิดยื่นต่อศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครปฐม ขออนุมัติหมายจับ นายเอ (นามสมมุติ) ตาม หมายจับเลขที่ 4/2564 ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2564 และนายบี (นามสมมุติ) ตามหมายจับเลขที่ 5/2564 ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2564 ในความผิดฐาน “ร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร”
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ โดยผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การรับสารภาพเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.สามควายเผือกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อป

ในการปฏิบัติในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมบูรณาการกำลังตามหลักการ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในเวลาต่อมา การปฏิบัติการดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้จึงถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในการพิทักษ์และรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง

ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 7 ได้ฝากถึงครอบครัวผู้เสียชีวิตว่าตำรวจได้ทำงานอย่างเต็มที่และให้ความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย ขอชมเชยพร้อมทั้งขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป

Loading