เดอะโอ๋ !!! ใช้เวลา 24 ชม.แถลงรวบมือปืนยิงกลางงานบวช
วันนี้ 3 ม.ค.65 เวลาประมาณ 14.00 น.ที่ สภ.กำแพงแสน จว.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.สุรชัย สุกใส รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ธนบดี บุญพา นวท.(สบ.4) ศพฐ.7 พ.ต.อ.ธีรเชษฐ์ ธนวินรวีร์ ผกก.สภ.กำแพงแสน และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวผู้ต้องหา นายธนัท หรือเอ็ม จ้อยร่อย อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ.1/2565 ลงวันที่ 2 มกราคม 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่น,พยายามฆ่าผู้อื่น,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน” พร้อมของกลาง อาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. ยี่ห้อ CZ รุ่น 75 P-01 จำนวน 1 กระบอก ซองกระสุนปืน ขนาด 9 มม.จำนวน 1 อัน เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม.จำนวน 16 นัด
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 กล่าวว่าเมื่อวันที่ 1 ม.ค.2565 เวลาประมาณ 23.30 น.ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กำแพงแสน ได้รับแจ้งว่าที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 41 หมู่ 6 ต.ทุ่งขวาง อ.กำแพงแสน จว.นครปฐม ว่ามีผู้ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเสียชีวิตจำนวน 1 รายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวน 3 ราย หลังก่อเหตุคนร้ายได้ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นชิตี้ สีเทา หลบหนีออกไปจากที่เกิดเหตุ
จากการสืบสวนสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายธนัท หรือเอ็ม จ้อยร่อย ทางเจ้าพนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมวัตถุพยานหลักฐานเพื่อ ขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดนครปฐม ต่อมาวันนี้ 2 ม.ค. 2565 ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ระดมกำลังออกไล่ล่าติดตามจับกุมตัวนายธนัท หรือเอ็ม จ้อยร่อย พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุได้
ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.กำแพงแสน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า ในการปฏิบัติในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมบูรณาการกำลังตามหลักการ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในเวลาอันรวดเร็ว การปฏิบัติการดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้จึงถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในการพิทักษ์และรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง
ในนามของตำรวจภูธรภาค 7 ได้ฝากถึงครอบครัวผู้เสียชีวิต และครอบครัวผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับผู้เสียหาย โดยจะรวบรวมพยานหลักฐาน สอบสวนอย่างตรงไปตรงมา และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ในทั้งนี้ ผบช.ภ.7 ขอชมเชยพร้อมทั้งขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป
