วันจันทร์, 23 ธันวาคม 2567

กมธ.วิสามัญพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา ลงพื้นที่เดินหน้าสืบสาน รักษา ต่อยอด หวังหนุน “โฉนดแปลงแรกของประเทศไทย” เป็นแหล่งเรียนรู้ท่องเที่ยวเชิงวิถีเกษตรอยุธยา

กมธ.วิสามัญพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา ลงพื้นที่เดินหน้าสืบสาน รักษา ต่อยอด หวังหนุน “โฉนดแปลงแรกของประเทศไทย” เป็นแหล่งเรียนรู้ท่องเที่ยวเชิงวิถีเกษตรอยุธยา

เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (5 มกราคม 65) ณ แปลงโฉนดที่ดินฉบับแรกของประเทศไทย โฉนดเลขที่ 1 ตำบลวัดยม อ.บางปะอิน นายประทีป การมิตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้การต้อนรับ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา พร้อมด้วย นายวิทยา ผิวผ่อง สมาชิกวุฒิสภา และคณะกรรมาธิการฯ เดินทางมาเพื่อศึกษาเรียนรู้และเยี่ยมชมสถานที่ เพื่อสืบสาน รักษา และต่อยอด แนวพระราชปณิธานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาประเทศ พัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน โดยมีการใช้นวัตรกรรมการปลูกข้าว “ดำนาปลูกข้าว” ตามระบบเกษตรอัจฉริยะ Thai Ha Intelligent Farm ณ แปลงต้นแบบร่วมกับ ผู้แทนบริษัทไทยฮา จำกัด (มหาชน) บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด องค์การบริหารส่วนตำบลวัดยม ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จากนั้น ได้ร่วมกิจกรรมการปักดำข้าวและปล่อยพันธ์ปลาในแหล่งน้ำธรรมชาติ โดยมี นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) หัวหน้าส่วนราชการในจังหวัด ผู้บริหารภาคเอกชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเกษตรกร ให้การต้อนรับและร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

ด้าน นายสุวพันธุ์ฯ กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ เป็นงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญการพิทักษ์รัฐธรรมนูญสถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา เพื่อสืบสาน รักษา และต่อยอด แนวพระราชปณิธานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาประเทศ พัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน สำหรับที่ดินผืนนี้มีพื้นที่ จำนวน 91 ไร่เศษ มีเกษตรกรเข้าร่วมในโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ จำนวน 9 ราย เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น เป็นการต่อยอดพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 โดยร่วมกับภาคเอกชน ซึ่งคิดว่าที่ดินนี้เป็นที่ดินศักดิ์สิทธิ์ จะเพิ่มคุณค่าด้วยการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาให้ประชาชนและเกษตรกรได้เรียนรู้ หวังว่าการเกิดผลสำเร็จก็ต้องได้รับความร่วมมือจากเกษตรกรที่มาร่วม พัฒนาที่ดินส่วนนี้ จะทำให้ผลผลิตของเกษตรกรดีขึ้น นอกจากนี้ที่ดินบริเวณนี้จะพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เรียนรู้ด้านเกษตร และเรียนรู้เข้าใจถึงพระราชปณิธานของในหลวง ซึ่งเป็นประโยชน์ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวิถีเกษตรของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวส่งเสริมการเรียนรู้ และตระหนักถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำขึ้นในลำดับต่อไป
นายวิทยา เปิดเผยว่า ที่ดินแห่งนี้มีความเกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ในรัชกาลที่ 5 ได้ให้ประชาชนมีที่ดินเหมือนกับพระมหากษัตริย์ได้ จึงชวนภาพของเอกชนมาร่วม ทำให้ที่นี่เป็นเกษตรเพื่อการท่องเที่ยว และที่เรียนรู้ เชื่อว่าเกษตรกรจะมีรายได้เสริมจากการร่วมโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ นอกจากโครงการนี้จะทำโครงการตามรอยพระมหากรุณาธิคุณ เส้นทางตามรอยอีก 4 แห่งเชิญชวนนักท่องเที่ยวได้แก่โครงการแก้มทอง ทุ่งมะขามหย่อง ทุ่งภูเขาทอง และอนุสารณ์สถานแห่งความจงรักภักดี หันตรา ซึ่งจะทำเส้นทางท่องเที่ยวในเร็วๆนี้
สำหรับ โฉนดที่ดินฉบับแรกของประเทศไทย แห่งนี้ มีพระนาม “สมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์” ทรงถือกรรมสิทธิ์ เป็นโฉนดเลขที่ 1 เลขที่ดิน 117 ระวาง 17ต 3 อ ตำบลบ้านแป้ง อำเภอพระราชวัง แขวงเมืองกรุงเก่า เมืองกรุงเก่า (จังหวัดพระนครศรีอยุธยาในปัจจุบัน) เนื้อที่ 89 – 1 – 52 ไร่ ออกเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ร.ศ. 120 (พ.ศ. 2444) ปัจจุบัน สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ได้รับโอนมาจากกระทรวงการคลัง เพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2533 เนื้อที่รังวัดปัจจุบัน 91 ไร่ 1 งาน 99 ตาราง

สุขุม แก้วกุดั่น อยุธยา

Loading