วันอาทิตย์, 24 พฤศจิกายน 2567

กาญจนบุรี หน.อช.เขื่อนศรีฯ เข้มประกาศห้าม ปชช.-นทท.ทั้งในและนอกพื้นที่ กางเต้นท์พักผ่อนตามเกาะแกะแก่ง เหตุผิด พรบ.อช.แห่งงฉบับใหม่ พ.ศ.2562 ม.20 โทษปรับมากถึง 1 แสน ส่วนผู้ประกอบการที่ฉวยโอกาสแอบอ้างหลอก นทท.โทษคุกไม่เกิน 2 ปีปรับไม่เกิน 2 แสน

กาญจนบุรี หน.อช.เขื่อนศรีฯ เข้มประกาศห้าม ปชช.-นทท.ทั้งในและนอกพื้นที่ กางเต้นท์พักผ่อนตามเกาะแกะแก่ง เหตุผิด พรบ.อช.แห่งงฉบับใหม่ พ.ศ.2562 ม.20 โทษปรับมากถึง 1 แสน ส่วนผู้ประกอบการที่ฉวยโอกาสแอบอ้างหลอก นทท.โทษคุกไม่เกิน 2 ปีปรับไม่เกิน 2 แสน

วันนี้ 5 ม.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ตามนโยบายของนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และ นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ที่สั่งการให้อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ดำเนินการปราบปรามกลุ่มบุคคลที่แอบลักลอบเข้าไปล่าสัตว์ในอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ภายในอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์อย่างเข้มข้น รวมถึงจัดระเบียบการท่องเที่ยวพื้นที่ภายในเขื่อนศรีนครินทร์ส่วนที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติให้เป็นไปตามกฎหมาย

จากนโยบายข้างต้นวันนี้ ตนในฐานะหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ จึงได้ลงนามในประกาศอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เรื่อง ห้ามนักท่องเที่ยวเข้าพักแรม บริเวณพื้นที่เกาะ แก่ง และพื้นที่ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์

โดยประกาศดังกล่าวระบุว่า ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ได้มีกลุ่มบุคคลได้แอบลักลอบเข้าไปแสวงหาประโยชน์ โดยการให้บริการประกอบกิจกรรมการท่องเที่ยว และพักค้างแรมในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

โดยเฉพาะการแอบยึดถือครอบครองที่ดินในพื้นที่บริเวณพื้นที่เกาะ แก่ง และพื้นที่ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ และมีการให้บริการนักท่องเที่ยวเข้าพักแรมในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะการใช้เต็นท์ กระโจม รถพ่วง รถบ้าน หรือวิธีการอื่นๆ เป็นจำนวนมาก

ซึ่งอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ พิจารณาแล้ว เพื่อเป็นการสงวน อนุรักษ์ คุ้มครองดูแลทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงการควบคุมดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวที่เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ จึงห้ามนักท่องเที่ยวเข้าไปพักค้างแรม บริเวณพื้นที่เกาะ แก่ง และพื้นที่ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ โดยเฉพาะการใช้เต็นท์ กระโจม รถพ่วง รถบ้าน เรือ หรือแล้วแต่กรณี สำหรับกรณีการพักค้างแรมในแพพักต่างๆจะต้องเป็นแพที่ได้ลงทะเบียนสำรวจไว้กับอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์เท่านั้น ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดระเบียบ แพพัก แพบริการ ตามกฎหมาย

ทั้งนี้หากมีการฝ่าผืนจะต้องระวางโทษตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 มาตรา 20 ฐาน บุคคลซึ่งเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ ต้องปฏิบัติตามคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ ประกอบระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่าด้วยการเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2563 ข้อ 4 (2) และ (3)
ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 20 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท กรณีเข้าไปดำเนินกิจการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์ จะต้องระวางโทษตามมาตรา 19(6) ประกอบมาตรา 44 จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เปิดเผยว่า การประกาศห้ามข้างต้น เป็นการห้ามกลุ่มนักท่องเที่ยวชอบแอบลักลอบเข้าพักค้างแรมในป่า โดยเฉพาะปัจจุบันมีกลุ่มบุคคลแอบเข้าไปลักลอบพักค้างแรมตามเกาะแก่ง ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นพื้นที่สงวนหวงห้าม เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า

ซึ่งประกาศดังกล่าวเป็นการครอบคลุมกลุ่มบุคคลที่ฉวยโอกาสเข้าพื้นที่เพื่อลักลอบล่าสัตว์ป่าขณะที่สัตว์ลงมาดื่มน้ำตามเกาะแก่งต่างๆ ไปในตัวด้วย โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณท้ายเขื่อนศรีนครินทร์ ที่มีสภาพป่าที่สมบูรณ์ มีแนวเขตเชื่อมต่อกับผืนป่ามรดกโลกทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง อันเป็นที่อยู่ของสัตว์ป่า อาธิ เสือโคร่ง กระทิง วัวแดง ควายป่า ช้างป่า เก้ง กวาง โดยเฉพาะนกยูง ซึ่งพบได้ตลอดในพื้นที่ราบริมอ่างเก็บน้ำ

สำหรับการป้องกันเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ได้จัดชุดลาดตระเวนทั้งทางบกและทางน้ำอย่างเข้มข้นตลอด 24 ชั่วโมง ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวกลุ่มนายพรานเหล่านี้ได้อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ถูกจับกุมบางรายมีพฤติกรรมแอบแฝงเข้ามาเป็นนักท่องเที่ยวด้วยการเช่าแพเพื่อล่องไปจอดนอนตามเกาะแก่ง แต่สุดท้ายแล้วกลุ่มบุคคลเหล่านี้ก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมดำเนินคดีทุกราย

นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เปิดเผยว่า การที่นักท่องเที่ยวจะเข้าพักค้างแรมในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ จะต้องเป็นบริเวณที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้เพื่อการนั้น ซึ่งต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นหลัก หากเกิดเหตุต่างๆขึ้นในพื้นที่อุทยานฯ เจ้าหน้าที่จะได้เข้าควบคุมดูแลได้อย่างทั่วถึง

และที่ผ่านมา นายสมบูรณ์ แผนสมบูรณ์ นายอำเภอศรีสวัสดิ์ ได้ให้ความสำคัญในการจัดระเบียบการท่องเที่ยวในเขื่อนศรีนครินทร์เป็นอย่างมาก จึง ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานดำเนินการจัดระเบียบการท่องเที่ยวภายในเขื่อนศรีนครินทร์ ภายใต้อำนาจหน้าที่อย่างเข้มข้น

ซึ่งปัจจุบัน ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าพักแรมได้ 2 แหล่งท่องเที่ยว คือ บริเวณน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น และบริเวณน้ำตกผาตาด ซึ่งมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ทั้งนี้หากนักท่องเที่ยวสงสัย สามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการท่องเที่ยวได้ที่เบอร์ 034 -540316 หรือ 092-482-1564

ปรีชา ไหลวารินทร์ / กาญจนบุรี

Loading