กาญจนบุรี – ญาติเสี่ยเจ้าของธุรกิจร้านเกาลัด เกิดข้อสงสัยการเสี่ยชีวิต จากดูคลิปที่ปล่อยออกมายาว คาดว่าเสี่ยไม่น่าแค่ตกรถเสียชีวิต นางสาวแหม่มตามไปมีปากเสียงกับสามีที่คลินิก ตนเองก็ไม่สนใจเพราะเป็นเรื่องส่วนตัวทั้ง 2 คน ตนไม่ยุ่งด้วย แต่คงเคลียร์กันไม่ได้
บรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนสนิทของ นายอภิชาต พูลเผือก หรือ เสี่ยก้อง อายุ 39 ปี เจ้าของธุรกิจร้านเกาลัดชื่อดังในจังหวัดกาญจนบุรี เข้าแจ้งความกรณี นางสาวแหม่ม เพื่อนสาวคนสนิทของเสี่ยก้อง หลังจากที่ญาติๆและเพื่อนสนิทของเสี่ยก้อง ได้เห็นคลิปวีดีโอจากกล้องหน้ารถ ซึ่งบันทึกภาพเหตุการณ์ วันที่เสี่ยก้อง ประสบอุบัติตกจากรถยนต์กระบะที่มีนางสาวแหม่ม เป็นคนขับ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อวันที่ 22 มกราคม ก่อนจะเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เมื่อวันที่ 25 มกราคาที่ผ่านมา
ล่าสุดในวันนี้ 01 ก.พ. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทาง น.ส. พภัสสรณ์ ปิ่นจุ ( นุ่น ) อายุ 37 ปี ภรรยาเสี่ยก้อง พร้อมนางลักษ์ชนก อินดาคา อายุ 39 ปี พี่สะใภ้เสี่ยก้อง ได้เข้าพบกับ พ.ต.อ. ศราวุธ ศรีสังวร ผกก.สภ.ท่าม่วง ให้ช่วยตรวจสอบการเสียชีวิตของ เสี่ยก้องหลังจากได้ทำการเผาศพ นายอภิชาต พูลเผือก หรือ เสี่ยก้อง ไปเมื่อวานนี้ เนื่องจากมาเห็นภาพคลิปแบบเต็มๆ ยาวๆ แล้ว พี่สะใภ้ กับภรรยา เกิดข้อสงสัยการเสียชีวิตของสามีคงจะไม่ใช่แค่ตกจากรถธรรมดา น่าจะมีการถูกทำร้ายก่อนมากกว่า
นางสาวพภัสสรณ์ ป่นจุ ภรรยา ได้เล่าถึงก่อนจะเกิดเหตุ สามีได้พาตนเองไปส่งยังคลินิก เพื่อตรวจร่างกาย โดยมีตนเอง สามีและลูกสาวไปด้วย แล้วจากนั้นได้มีนางสาวแหม่ม หญิงสาวคนสนิทของเสี่ยก้อง มาปรากฏตัวบริเวณหน้าคลินิก สามีจึงเดินออกไปพบกับ นางสาวแหม่ม เกิดมีเสียงทะเลาะมีปากเสียงกัน เสียงดังมาก บริเวณรถกระบะป้ายแดง ที่มีนางสาวแหม่มเป็นคนขับมา ก่อนจะพาขึ้นกระบะออกไป และก่อนจะออกไปตนเองได้เดินออกไปเพื่อกลับบ้าน เนื่องจากได้ตรวจร่างกายเสร็จแล้ว แต่เดินมาใกล้ สาวแหม่ม ก็เดินเข้ามาหาตนเอง คาดว่าน่าจะให้ตนเองเคลียร์อะไรบางอย่างในเรื่องที่ว่าสามีตนเองจะอยู่กับใคร ระหว่าง สาวแหม่ม ซึ่งตนเองไม่สนใจเพราะมีลูกสาวไปด้วย ไม่อยากให้ลูกทราบเรื่องของผู้ใหญ่ ก่อนที่สามี กับสาวแหม่ม จะพากันขึ้นรถกระบะป้ายแดงออกไปจนไปเกิดเหตุตามคลิป
และจริงๆ แล้วไม่ควรจะเคลื่อนย้ายสามีเพราะต้องให้ทางมูลนิธิฯ หรือผู้ชำนาญไปเคลื่อนย้ายจะดีกว่า เพราะจะรู้ว่าจะเคลื่อนย้ายอย่างใดให้ปลอดภัย จากเดิมที่อาจจะยังไม่เสียชีวิต แต่การเคลื่อนย้ายไม่ถูกต้องจึงทำให้เสียชีวิตก็เป็นได้ เพราะการย้ายสามีนั้นย้ายจากรถฟอร์จูนเนอร์
นางลักษ์ชนก ฮิดาคา อายุ 39 พี่สะใภ้ บอกว่าติดใจมากหลังมาเห็นคลิปแบบเต็มๆ และเห็นจากการรบคลิปออกไปนั้นเขาจงใจให้ เสี่ยก้องเสียชีวิต ดังนั้นจึงเกิดข้อสงสัยจึงได้มาแจ้งความเพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่งว่าการตายมาจากสาเหตุตกรถ หรือการทำร้ายด้วยจนทำให้เสียชีวิต
สำหรับ พ.ต.อ. ศราวุธ ศรีสังวร ผกก.สภ.ท่าม่วง เปิดเผยว่าเรื่องนี้ต้องมาสอบสวนจากกล้องวีดีโอ พร้อมกับผู้ที่ร่วมอยู่ในเหตุการณ์วันนั้นอีกครั้ง จากการตรวจสอบเบื้องต้นแล้วการใช้รถมันก็มีกฎหมายว่าเข้าข่ายความประมาทหรือไม่ ต้องให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย การทำงานของเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตั่งแต่เห็นคลิปทั้งหมดอยู่แล้ว การที่ทางฝ่ายผู้เสียหายนำข้อมูลมาให้เพิ่มเติมก็เป็นเร่องที่ดี ทางเจ้าหน้าที่ได้เริ่มดำเนินการสอบสวนต่อไปแล้ว รอให้หลักฐานชัดเจนทางเจ้าหน้าที่ก็จะแจ้งข้อหากับการเสียชีวิตต่อไป
ปรีชา ไหลวารินทร / กาญจนบุรี